“ทักษิณ”เปิดพ็อคเก็ตบุ๊ควางขายทั่วอาหรับ-เอเชีย

คมชัดลึก :"เฉลิม"ยังมั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมสกลนครทิ้งห่างไม่ต่ำกว่า3พันคะแนน ขณะที่“แกนนำภูมิใจไทย” ประเมินคาดชนะคะแนนเฉียดฉิว 5 อำเภอ ในเขตเลือกตั้งคะแนนยังคู่คี่ ทิ้งห่างแค่ 2-3% แต่ที่ อ.ส่องดาว คะแนนยังเป็นรอง ผู้สมัครสกล ภท.แจ้งความ"จตุพร"ใส่ร้ายขนคนเลือกตั้งล่วงหน้า


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 18 มิ.ย. 52) ร้านหนังสือต่าง ๆ ในหลายเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้วางจำหน่าย พ็อคเก็ตบุ้คเล่มใหม่ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้ชื่อหนังสือว่า “ทักษิณ ชินวัตร Tackling Poverty: The Policy That Change Thailand, And How They Can Change The World ” มีเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายของทักษิณ ในการแก้ปัญหาความยากจนในเมืองไทย และการนำไปใช้เพื่อพลิกโฉมโลก

 ทั้งนี้ ผู้เขียนเป็นบรรณาธิการข่าวชื่อดังชาวอินเดีย ซึ่งทำงานให้กับนิตยสาร CEO สื่อยักษ์ใหญ่ด้านการวิเคราะห์เศรษฐกิจ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหน้าปกหนังสือ มีข้อความว่า “ขออุทิศความดีของหนังสือนี้ให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน” โดยหนังสือเล่มนี้ มีความหนาจำนวน 202 หน้า เขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่ม มีเนื้อหา 14 บท เช่น การก่อตัวของทักษิโณมิค การปฏิรูประบบสาธารณสุข การปฏิรูปศึกษา การปฏิรูปที่ดิน กองทุนหมู่บ้าน การสร้างอนาคตที่ดีกว่า และการวิเคราะห์วิสัยทัศน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากการแสดงปาฐกถาด้านเศรษฐกิจในเวทีระดับโลก

 นอกจากนี้ เนื้อหาช่วงหนึ่งของหนังสือ ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งผู้เขียนเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลด้วยตนเองที่เมืองไทย เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2552 ขณะที่เกิดเหตุการณ์เมษาเลือดอีกด้วย

 ทั้งนี้ พ็อคเก็ตบุ้คเล่มดังกล่าว มียอดพิมพ์ครั้งแรก 10,000 เล่ม และวางจำหน่ายทั้งในกลุ่มประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งบางประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เตรียมที่จะแปลพ็อคเก็ตบุ้คเล่มดังกล่าว เป็นภาษาไทย เพื่อวางจำหน่ายในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

"เฉลิม"ยังมั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อมสกลนครทิ้งห่างไม่ต่ำกว่า3พันคะแนน

 เย็นวันนี้ (19 มิ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.สกลนคร หาเสียง ที่ สถานีอนามัยบ้านหนองแวง ต.บ้านเหล่า อ.เจริญสิน จ.สกลนคร พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง มีคะแนนทิ้งห่าง 3,000 – 5,000 คะแนน

 ร.ต.อ.เฉลิม เชื่อว่า ไม่ว่าอำนาจอะไร ก็ไม่สามารถทำให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงได้ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนพรรคภูมิใจไทย ที่เพิ่งจัดสัมมนาในพื้นที่เพียงครั้งเดียว และว่า ได้ข่าวว่า มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายจังหวัด อาทิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และนครราชสีมา จึงต้องการถามว่ามาทำไม เพราะพรรคเพื่อไทยหาเสียงโดยละมุนมะม่อม

 “ในช่วงโค้งสุดท้าย ไม่ได้วางแผนอะไรพิเศษ ยังคงรูปแบบเดิม เน้นการชี้แจงนโยบายของพรรคไทยรักไทยเดิม เพื่อให้ประชาชนนึกออกว่า สมัยที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล มีความเป็นอยู่ดีอย่างไร และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถูกตัดสินคดีทุจริต แต่เป็นไปตามกฎหมายพิเศษ ที่ห้ามไม่ให้คู่สมรสนายกรัฐมนตรี ทำการซื้อ-ขายกับภาครัฐ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

"ภูมิใจไทย"เชื่อเลือกตั้งสกลฯชนะคะแนน“เพื่อไทย”เฉียดฉิว
 
 วันนี้ (19 มิ.ย.) แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคได้ประเมินผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ไว้ล่วงหน้า โดยคาดว่า คะแนนจะชนะอย่างเฉียดฉิว ซึ่ง 5 อำเภอในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 จะมีคะแนนสูสีกับพรรคเพื่อไทย โดยนำอยู่เพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งพื้นที่ที่คาดว่าคะแนนยังเป็นรองอยู่มีแห่งเดียว คือ อ.ส่องดาว ที่ตามอยู่ 46 ต่อ 5

 ทั้งนี้ ในส่วนคะแนนเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าที่มีผู้มาใช้สิทธิแล้วถึง 21,000 คนนั้น เชื่อว่า จะเป็นของพรรคภูมิใจไทย 80% หรือประมาณ 16,000 คะแนน และถ้าหากประเมินผลการเลือกตั้งจริง คาดว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิประมาณ 60,000-70,000 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 2.3 แสนคน โดยเชื่อว่า คะแนนจะออกมาสูสีเป็นอย่างมาก แต่เมื่อรวมกับคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว เชื่อว่า พรรคภูมิใจไทยจะชนะอย่างหวาดเสียวประมาณ 52 ต่อ 48%

 แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวต่อว่า พรรคได้ทำการสำรวจความเห็นเป็นระยะตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยใช้ทีมนักวิชาการ สมาคมแม่บ้าน และหน่วยข่าวกรองประเมินสถานการณ์ทุกตำบล ทุกอำเภอ จากเดิมที่มีการจับเบอร์ ความนิยมของพรรคอยู่ที่ 30% ขณะที่พรรคเพื่อไทย อยู่ที่ 60% แต่วันนี้ด้วยนโยบายที่เข้าถึงทุกหมู่บ้าน ทำให้คะแนนกลับมาเป็นต่ออยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากการปราศรัยโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ตีตื้นขึ้นมา พรรคก็อาจมีการปราศรัยอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) ก่อนเวลา 18.00 น.

 “ต้องยอมรับว่า กระแส พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแรงอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถกุมฐานเสียงรากหญ้าได้ แต่คนที่มาฟังการปราศรัยเวทีเสื้อแดงเป็นที่น่าสังเกตว่า บางส่วนเป็นคนจังหวัดอุดรธานี และถ้าหากการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยแพ้ ก็จะไม่มีพรรคการเมืองไหนสู้กับพรรคเพื่อไทยได้อีก” แหล่งข่าวแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าว

ผู้สมัครสกล ภท.แจ้งความ"จตุพร"ใส่ร้ายขนคนเลือกตั้งล่วงหน้า

 นายพิทักษ์ จันทศรี ผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมสกลนคร เขต 3 พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย ใช้เวทีประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 และมีการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทยว่ามีการขนคนมาใช้สิทธิ์ล่วงหน้า และปรากฏว่า ไม่ได้ยอด 50,000 ราย ตามที่ประมาณการไว้ ทำให้ “ผู้บงการ” ไม่พอใจจนทำร้ายนายพิทักษ์ ว่า ในการใช้เวทีประชุมสภาสมัยวิสามัญ ที่นายจตุพรกล่าวหาตนนั้น เป็นการใส่ร้ายเพื่อลดกระแสความนิยม และหวังผลทางการเมือง เพราะการอภิปรายดังกล่าวมีการถ่ายทอดสด ประชาชนทั้ง 5 อำเภอในเขตเลือกตั้งเขต 3 จ.สกลนคร ก็รับชมทางทีวี ประชาชนเข้าใจผิดก็โทร มาหาตน ยืนยันว่าเป็นการใส่ร้าย ตนไม่ถูกทำร้ายแต่อย่างใด

 อีกทั้ง นายจตุพรยังเคยหาเสียงเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร โจมตีตนว่า ทรยศต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทรยศต่อประชาชน ซึ่งตนไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน แล้วจะทรยศต่อประชาชนได้อย่างไร และจะพูดว่าตนทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ถูก เพราะตนไม่รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ ตนได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายจตุพร ข้อหาใส่ร้ายที่สถานีตำรวจภูธร อ.สว่างแดนดินแล้ว เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง

 นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีการขนคนมาลงคะแนนอย่างที่ถูกกล่าวหาแน่นอน การที่ประชาชนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการตื่นตัวทางการเมือง มาใช้สิทธิ์ อีกฝ่ายก็มีการระดมคนเสื้อแดงจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง หรือพื้นที่นอกเขตเลือกตั้ง เช่นที่นครพนม อุดรธานี มาร่วมในการปราศรัยหาเสียงใหญ่ของพรรค มีการขนคนจากพื้นที่ส่วนอื่น มาร่วม 70 คันรถเพื่อฟังปราศรัยของพรรคเพื่อไทยเย็นวันนี้ แต่ถ้าเป็นเสื้อแดงของสกลนครจริง มองว่าไม่น่าจะมีถึงหมื่นคน และใช้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองลงพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โทรหากำนันผู้ใหญ่บ้านก็ถือว่าไม่เหมาะสม เท่าที่ตรวจสอบพบว่ามีการโทรมาคุยกับกำนัน 2 ราย แต่ขอไม่เปิดเผยชื่อ อย่างไรก็ตาม คิดว่าประชาชนเข้าใจ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์