โชว์กึ๋นสมศักดิ์ เปิดนโยบาย พรรคการเมืองใหม่


ในที่สุดกระแสข่าวการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองของคนเสื้อเหลืองได้ปรากฏเป็นรูปธรรม ความเคลื่อนไหวทางการเมืองจึงโฟกัสไปที่การรวมพลังเพื่อจัดตั้ง “พรรคการเมืองใหม่” ตามนิยามของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หมายถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง

พรรคการเมืองใหม่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า New Politics Party ใช้ชื่อย่อภาษาไทยว่า ก.ม.ม. และมีตัวย่อภาษาอังกฤษว่า N.P.s.P สำหรับรูปแบบ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ว่าที่หัวหน้าพรรค เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ เพื่อต้องการสนับสนุนให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ สร้างความเป็นธรรมในสังคมทุกภาคส่วน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง

พรรคการเมืองใหม่จะไม่จำกัดอยู่เพียงนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในพื้นที่เท่านั้น แต่จะยังเปิดกว้างให้ภาคประชาชนที่หลากหลาย ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบรัฐธรรมนูญร่วมกันของประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม

ว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ยอมรับนโยบายของพรรคเกิดจากการรวบรวมความคิดของประชาชน  เปิดทางให้คนเสียสละ กล้าหาญ เข้ามาทำการเมือง ไม่ใช่มาเล่นการเมือง ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบนักการเมืองทุกระดับ สนับสนุนการรวมตัวขององค์กรประชาชนให้เข้มแข็ง

นอกจากนี้จะให้แต่ละพื้นที่เสนอผู้สมัครเอง ไม่ใช่กำหนดไปจากส่วนกลาง หรือหิ้วถุงเงินมาแล้วมีอำนาจควบคุมพรรคเบ็ดเสร็จ รวมทั้งให้ประชาชนควบคุมนักการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ประชาชนรู้ข้อมูลอย่างเท่าเทียมตรงไปตรงมา และมีส่วนในการกำหนดนโยบายเรื่องการจัดการทรัพยากร การกระจายรายได้ การแบ่งปันผลประโยชน์ นโยบายการพัฒนาต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น เอาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวปฏิบัติ ทั้งระดับจุลภาคและมหภาค

“นโยบายของเราจะไปถึงทุกกลุ่มชน ไม่เฉพาะประชาชนฐานราก ต้องเอื้อเฟื้อธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางด้วย สนับสนุนหมด ระบบสหกรณ์ก็สนับสนุน หลักการไม่ยาก แต่คนบางกลุ่มไม่เข้าใจ เหมือนนักวิชาการที่เอาหัวใส่ลิ้นชักอยู่ก็จะคิดอีกแบบ แต่พันธมิตรเรา คนมีเงินก็เอาเงินมาบริจาค คนที่มีสติปัญญาก็มาช่วยคิด มีหลายระดับมาร่วม”

นายสมศักดิ์ บอกว่า ถ้าคิดแบบเก่าก็มุ่งว่าพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้กี่เสียง จะชนะหรือแพ้ หน้าที่ของเรา คือ ให้การศึกษาแก่ประชาชน ไม่ใช่ไปหลอกประชาชนเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งแบบพรรคเฉพาะกิจหรือพวกนักเลือกตั้ง แต่ต้องมองแบบรัฐบุรุษให้ประชาชนรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วให้ประชาชนตัดสิน จะไม่ซื้อ ไม่โกง แล้วมาดูว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร จะเน้นการให้ความรู้ประชาชน ให้เข้าใจระบบการเมืองที่ทำให้พวกเขาต้องลำบาก

นโยบายที่จะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องยาก เช่น ปตท.แปรรูปแล้ว แม้กำไรเพิ่มขึ้นแต่ส่งรายได้เข้ารัฐลดลง ประชาชนบริโภคน้ำมันแพงขึ้น นายทุนร่ำราย เพราะฉะนั้นต้องเอา ปตท.กลับมา เป็นของประชาชน รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค ต้องให้รัฐดูแลเพื่อให้ไม่ต้นทุนสูง ทุกคนเข้าถึงและได้ประโยชน์ หรือ การทุจริต ถ้าทำให้หยุดการโกงแค่ 3 ปี ก็เท่ากับว่าได้งบประมาณเพิ่มอีก 1 ปี

“เราไม่ใช้ร้านขายของ แต่เป็นลักษณะนำเสนอให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองใหม่มายังไง คือส่งเสริมให้คนดีที่มีประวัติตรวจสอบได้มาเป็นผู้ปกครอง ทุกวันนี้มันมีปัญหาเรื่องการคอรัปชั่น จุดขายของเราก็คือว่า ผู้ที่เข้ามาทำงานตรงนี้จะต้องมีประวัติศาสตร์ นอกจากจะไม่คอร์รัปชั่นแล้ว จะต้องเป็นคนที่เกลียดคอรัปชั่น และต่อต้านการคอรัปชั่น และจะต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และรักษาชาติ ศาสนา และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนั้น จะให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางตรงให้มากในการตรวจสอบการตัดสินใจดำเนินการด้านปัญหาเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม ทุกอย่างที่กระทบกับประชาชน คือ ให้เป็นไปตามเจตจำนงในการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างจริงจัง และที่สำคัญ คือ จะต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับองค์ความรู้ด้านข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง เท่าเทียม เสมอภาค รวมทั้งการกระจายรายได้และผลประโยชน์ที่เป็นทรัพยากร และที่ผลิตได้ ให้กับสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม นี่คือเป้าหมาย ทิศทางที่จะนำให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเมืองใหม่อย่างไร ไม่ใช่แบบเก่าๆ อย่างแน่นอน ฉะนั้นอยากให้ประชาชนได้เปรียบเทียบได้ว่าจุดยืนของเราเรื่องการทุจริต การคอร์รัปชั่น จะต้องจัดการอย่างเด็ดขาด และให้คนยอมรับเคารพตามกฎหมาย”

ส่วนกรณีที่นักวิชาการมองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นตัวแทนชนชั้นกลางนั้น ว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า คนพูดไม่รู้ข้อมูล ไม่รู้บริบทและข้อเท็จจริงในการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 193 วัน ที่ชุมนุม เขาไม่รู้ว่ามีใครมาจากไหนบ้าง ทั้งที่มาให้เห็นชัดๆ ว่ามาจากทุกระดับแต่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งไม่ว่าประเทศไหน การตั้งพรรคการเมืองของภาคประชาชนก็เป็นแบบนี้หมด แต่นักวิชาการพวกนี้ คิดแบบอคติ

ประเด็นที่ว่าการเมืองภาคประชาชนต้องมองขาวดำชัดเจน ต้องประท้วงแตกหัก ส่วนการเมืองในสภาต้องประนีประนอมนั้น นายสมศักดิ์ บอกว่า ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น การเมืองภาคประชาชนก็เจรจากันได้ เพราะตนอยู่ในสหภาพแรงงาน มีข้อพิพาทเป็นหมื่นๆ ครั้ง แต่ประท้วงไม่ถึงร้อยครั้ง ทั้งนี้ การเมืองเป็นการใช้อำนาจจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่ว่าเข้าไปแล้วกลัวจะอยู่ไม่ได้ แล้วไปประนีประนอม นั่นคือการเมืองแบบเก่า และไม่ใช่การเมืองตามทฤษฎี ไปคิดแต่ว่าเข้าไปแล้วกลัวจะอยู่ไมได้ ต้องประนีประนอม เราไม่สนเรื่องแบบนั้น เพราะจะสร้างการเมืองใหม่ เดินไปข้างหน้า

นายสมศักดิ์ ยังยอมรับการเกิดพรรคการเมืองใหม่ ในภาวะการเมืองแบบนี้ มีทางเลือกไม่มากนัก อย่างน้อยที่สุด พรรคการเมืองใหม่ ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ประชาชนจะร่วมกันพิจารณาและตัดสินว่าจะเป็นทางออกทางใหม่ที่จะนำพาพี่ น้องประชาชนประเทศชาติไปข้างหน้า โดยทุกคนมีส่วนร่วมที่จะนำประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย มีเกียรติ์ มีศักดิ์ศรี และเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร สิ่งที่จะทำ จะเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเนื้อหา อุดมการณ์ นโยบายจะเป็นของใหม่จริงๆ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์