มาร์ครับลูกปรับครม. วาระช่วยเพื่อนหรือซ่อนเร้น

"ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องรอถึง 6 เดือน หากมีความจำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้การทำงานดีขึ้นก็ต้องปรับ"

คือคำยอมรับจากปาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ปชป. มีข้อตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องการทบทวนรายชื่อ ครม."อภิสิทธิ์" ก่อนเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของรัฐบาล

หลังปรากฏข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมเสนอปลด ชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรฯโควต้า สรอรรถ กลิ่นประทุม ออกจากตำแหน่ง ฐานไม่ยอมเข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรค

ซ้ำยังเคยประกาศตัวว่า "ผมไม่ใช่เพื่อนเนวิน"

เล่นเอา "เนวิน" ฉุนขาด ประกาศ "ขับเลือดเทียม" และ "ดันเลือดแท้" นาม ศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม ขึ้นแท่นแทน

เป็นผลให้หลายฝ่ายเข้าใจว่า "ก๊กบุรีรัมย์" กับ "ก๊กภาคกลาง" กำลังเปิด "ศึกใน" หรือไม่อย่างไร?

ทว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงรบราฆ่าฟันใน ภท.

"อภิสิทธิ์" กลับโดดลงมาปิดเกมการเมืองใน "พรรค 32 เสียง" ด้วยการเปิดไฟเขียวพร้อมปรับ ครม. ตามข้อเรียกร้องของ ภท.

เล่นเอาหลายฝ่ายอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใด "ผู้นำหมายเลข 1" ถึงยอมเปลืองตัว แทนที่จะรอทำหน้าที่ "คนนำสาร" หลังเพื่อนบ้านรบกันจบแล้ว

อีกทั้งเหตุผลในการปรับ ครม. ที่สาธารณชนรับรู้คือ การปรับเพื่อแก้ปัญหาตัวเอง ไม่ใช่ปรับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน ถือเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้รัฐบาล"อภิสิทธิ์" เสียคะแนนนิยม

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าการออกอาการ "ตามน้ำ" ของ "อภิสิทธิ์" หาได้เป็น "คิวหลุด" ไม่ แต่เป็นบทที่ถูกบรรจงจัดลง "สคริปต์" ล่วงหน้า

เพราะถ้ารอเล่นตาม "ข้อตกลงเดิม" คือ รอประเมินผลงาน ครม. ในรอบ 6 เดือน ก่อนพิจารณาปรับ ครม. ในเดือนมิถุนายน จะมี "ปัจจัยอื่น" เข้ามาเสริม

และทำให้เกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ขึ้นกับ "รัฐบาล 6 พรรค"

ปัจจัยแรก หนีไม่พ้น กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิด ครม. ชุด "สมัคร สุนทรเวช" อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 33 คน กระทำการขัดต่อมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ กรณีออกมติ ครม. ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

โดยมี "ข่าววงใน" เล็ดลอดออกมาว่า ป.ป.ช. เตรียม "คิวเชือด" ไว้เดือนมิถุนายน

หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีดังกล่าว จะมีรัฐมนตรี 5 คน จาก 4 พรรคตกเก้าอี้ทันที ได้แก่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยจาก ภท. ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) และ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลังจาก รช.

นั่นหมายความว่าการปรับ ครม. จะกลายเป็น "ปัญหาร่วม" ของ 4 พรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องของ ภท. เพียงพรรคเดียว

อย่างไรก็ตาม การจัดโผ ครม. "อภิสิทธิ์ 2" ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคืนโควต้าให้ตามสภาพเดิม ด้วยเพราะ "กลุ่มการเมือง" ในพรรคต่างๆ ได้ "เปลี่ยนรูป" ไปจากวันตั้งรัฐบาล อาทิ กลุ่มบ้านริมน้ำ 3 เสียงที่แม้ตัวอยู่ พผ. แต่ได้ยกครัวไปประชุม ภท. มานานแล้ว

ทว่า นริศรา ชวาลตันติพัทธ์ ยังนั่งเป็นรมช.ศึกษาธิการในโควต้า พผ. อยู่ จึงเชื่อว่าน่าจะ "พลังบีบ" จาก "ผู้มีบารมีนอก พผ." ให้ ปชป. ดึงเก้าอี้กลับมาจัดสรรให้ตน

เช่นเดียวกับ พผ. ที่เคยรับโควต้าในฐานะ "พรรค 29 เสียง" ในวันตั้งรัฐบาล แต่เอาเข้าจริงกลับมี ส.ส. ที่ขานชื่อได้เพียง 17 เสียง ส่วนอีก 12 เสียงหลงไปอยู่กับก๊ก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และพรรคราษฎร จึงมีความเป็นไปได้ที่แกนนำ ปชป. จะทบทวนและทอดไมตรีถึง "กลุ่มประชา"

นั่นเท่ากับว่า จะมีคนการเมืองจากทุกพรรคโดดลงมาเล่นเกม "เก้าอี้ดนตรี" อีกมหาศาล

อีกปัจจัยหนึ่งคือ การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับคือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 และร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ที่รอการตีความจากศาลรัฐธรรมนูญอยู่

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ปชป. จะถูกพรรคร่วมรัฐบาลนำ "มือในสภา" มา "ต่อรอง-กดดัน" อย่างหนัก เพื่อขอเพิ่มตัวเลขงบประมาณในความดูแลของตน หลัง "คีย์แมนพรรคร่วม" หลายคนเคยออกมาแสดงความไม่พอใจ ปชป. ก่อนหน้านี้

งานนี้ถ้า ปชป. ไม่ยอม "หลิ่วตา" ก็มีสิทธิที่รัฐบาล "อภิสิทธิ์" จะล้มทั้งยืน พร้อมๆ กับร่างกฎหมายสำคัญที่ถูกคว่ำกลางสภา

ที่สำคัญประเด็นนี้อาจถูกลากไปกระทบชิ่ง "พ่อชุนละเอียด" นาม กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลประสานเสียงให้ "ปลดออก" มานานแล้ว แต่นายกฯ ต้องการเก็บไว้เป็น "ไม้กัน..."

แน่นอนถ้า "ข้อต่อรอง" ดังกล่าวของพรรคร่วมถูกส่งตรงถึงนายกฯ จะเกิดอีกปัจจัยขึ้นมาทันที

บรรดา "แถว 2 ปชป." ที่รอคั่วเก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งไล่เช็คชื่อแล้วมีประมาณ 6 คน น่าจะพร้อมใจกันออกมาเลื่อยขาเก้าอี้เพื่อนร่วมพรรค ซึ่งหมายรวมถึงตำแหน่งอื่นๆ นอกเหนือตำแหน่งรองนายกฯ ของ "กอร์ปศักดิ์" ด้วย

เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเกิดปรากฏการณ์ "แก๊งออฟโฟร์" ภาค 2 ขึ้นใน ปชป.

จึงไม่แปลกอะไรหาก "อภิสิทธิ์" จะชิงปลดชนวนที่อาจนำไปสู่การเปิดศึกใน โดยระบุว่า "ในส่วนของ ปชป. ยังไม่มีความคิดเรื่องการปรับ ครม."

การส่งสัญญาณร่นเวลาปรับ ครม. ของ "อภิสิทธิ์" จึงเป็นไปเพื่อจำกัดวงของปัญหา ด้วยการชิง "ปรับเล็ก"

งานนี้ไม่ใช่ "วาระช่วยเพื่อน"

แต่เป็น "วาระซ่อนเร้น" ที่หวังอุดช่องโหวก่อนเกิดปัญหาขึ้นกับ ปชป. โดยแท้!!!

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์