ทบ.พร้อมส่งผู้แทนแจงสลายม็อบแดงต่อกก.สมานฉันท์ จตุพรเผยเตรียมจัดแดงทั้งแผ่นดินอีกรอบเดือนมิ.ย.

ทบ.พร้อมส่งผู้แทนแจง"สลายม็อบแดง"ต่อกก.สมานฉันท์ "จตุพร"เผยเตรียมจัด"แดงทั้งแผ่นดิน"อีกรอบเดือนมิ.ย.

ทบ.พร้อมส่งผู้แทนแจง"สลายม็อบแดง"ต่อกก.สมานฉันท์ โฆษก ปชป.หนุนกก.สมานฉันท์เรียกนปช.-พธม.ให้ข้อมูล "จตุพร" เผยเตรียมจัด "แดงทั้งแผ่นดิน" อีกรอบ เดือนมิ.ย. ปชป.ผิดหวัง"แดง"ใช้เหตุพฤษภาทมิฬโจมตี"จำลอง" นายกฯแจงยาวชี้บ้านเมืองขัดแย้งสูง ปรองดององค์กรต้องไม่ได้ไม่เสีย

ทบ.พร้อมส่งผู้แทนแจง"สลายม็อบแดง"ต่อกก.สมานฉันท์

พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ถึงกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาระบุพร้อมนำภาพประกอบว่า มีทหารใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมกระสุนจริงในการปราบปรามฝูงชน เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมาว่า เมื่อดูภาพแล้วต้องดูผลประกอบด้วย ซึ่งจากผลการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนั้น ยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจของทหาร และจากภาพบันทึกของสื่อมวลชนก็ไม่พบเห็นว่ามีผู้เสียชีวิต หากมีผู้เสียชีวิตจริง คงมีผู้ออกมาเรียกร้องแล้ว ทั้งนี้ ภาพถ่ายอาจมีการตัดต่อได้ ดังนั้น ต้องดูข้อมูลทุกฝ่ายมารวมกันแล้วพิจารณา อย่าเชื่อข้อมูลฝ่ายเดียว และจากการชี้แจงในสภาก็เห็นแล้วว่า มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง
 
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภาทำหนังสือเชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุสลายการชุมนุมระหว่างวันที่ 13-14 เมษายนที่ผ่านมา ต่อคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า เบื้องต้นผู้บัญชาการทหารบกคงไม่เดินทางไปชี้แจงเอง แต่จะให้ผู้แทนนายทหารระดับสูงที่มีส่วนรับผิดชอบในภารกิจเข้าชี้แจงแทน ทั้งนี้ ในช่วงวันปฏิบัติภารกิจ พล.อ.อนุพงษ์ ร่วมประชุมดูแผนในภาพรวม แต่ขั้นการปฏิบัติงานเป็นเรื่องของฝ่ายยุทธการและผู้บังคับหน่วย

“เชื่อมั่นว่าผู้บัญชาการทหารบกคงจะให้ผู้แทนที่รับผิดชอบในรายละเอียดการปฏิบัติภารกิจเข้าชี้แจง ซึ่งอาจจะเป็นเจ้ากรมยุทธการหรือผู้บังคับหน่วยการปฏิบัติ ทั้งนี้ กองทัพสามารถชี้แจงได้ทุกกรณีตามข้อเท็จจริง ซึ่งการชี้แจงเป็นเพียงสิ่งหนึ่ง แต่ผลการปฏิบัติหน้าที่เป็นคำตอบแทนการชี้แจง และสื่อมวลชนที่อยู่ร่วมในการปฏิบัติทุกพื้นที่ ก็เป็นประจักษ์พยานของผลการปฏิบัติ ซึ่งกองทัพยืนยันไม่มีผู้เสียชีวิต และผลการปฏิบัติแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร” โฆษกกองทัพบก กล่าว  
 
ปชป.หนุนกก.สมานฉันท์เรียกนปช.-พธม.ให้ข้อมูล

 
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในบางประเด็นว่า ขอชี้แจงว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการสร้างความสมานฉันท์ด้วยการปฎิรูปการเมือง แนวทางของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ที่ได้ติดต่อไปยังกลุ่มความขัดแย้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอยากให้ขยายการรับฟัง ให้เป็นการพูดคุยที่ชัดเจน เพื่อนำความขัดแย้งเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาผ่านคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และอยากให้แนวทางนี้ขยายไปยังการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองด้วย ซึ่งขอเรียกร้องไปยังกลุ่มนปช. ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ โดยการหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง
 
ส่วนที่คณะอนุกรรมการฯ ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ยื่นรายละเอียดแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรานั้น นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า คณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่ในชั้นอนุกรรมการฯ ได้ส่งรายละเอียดประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเฉพาะมาตรา 266 ที่พูดถึงความชัดเจนของบทบาทส.ส.ผ่านการทำงานกับฝ่ายบริหาร และมาตรา 190 โดยขอเพิ่มรายละเอียดในการทำสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ส่วนมาตรา 237 ยืนยันว่าพรรคยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งก็ยังมีความหลากหลายอยู่ แต่จุดยืนของพรรคเห็นว่าวัตถุประสงค์หลักของมาตรา 237 ที่ป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียงยังต้องมีอยู่ ส่วนวิธีการจะให้เป็นการรับผิดของกรรมการบริหาร หรือจะมีการยุบพรรคหรือไม่ พรรคจะนำเสนอต่อไป
 
ปชป.ผิดหวัง"แดง"ใช้เหตุพฤษภาทมิฬโจมตี"จำลอง"
 

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ไว้อาลัยเนื่องในวันพฤษภาประชาธรรม พร้อมหวังว่ารัฐบาลจะได้ข้อยุติเรื่องข้อสงสัยตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปพิสูจน์เพื่อความชัดเจน ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามหลวง ซึ่งมีการหยิบยกเหตุการณ์พฤษภา 2535 มาโจมตี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น พรรคผิดหวังที่ช่วงชิงเหตุการณ์ความสูญเสีย มาเป็นเครื่องมือปลุกระดม ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง จึงขอให้ละเว้นการที่จะใช้สี และการแบ่งแยกมาแปดเปื้อนเจตนารมณ์ ผู้ที่ต้องการรักษาประชาธิปไตย
 
"จตุพร" เผยเตรียมจัด "แดงทั้งแผ่นดิน" อีกรอบ เดือนมิ.ย.
 
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ถึงกรณีที่จะมีการนัดรวมพลคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวงในเดือนมิถุนายนนี้ ว่า ขณะนี้แกนนำกำลังอยู่ระหว่างการเลือกวันที่เหมาะสม ซึ่งเดิมตั้งใจจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มิ.ย. แต่เนื่องจากไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น จึงจะหารือกันอีกครั้ง โดยอาจจะเลือกวันก่อนวันที่ 24 มิ.ย.นี้
 
ส่วนคอนเซ็ปต์ ของการนัดชุมนุมครั้งใหม่นี้จะยังคงคอนเซ็ปต์ทำความจริงให้ปรากฏ เพราะขณะนี้มีรายละเอียดภาพเพิ่มเติมจำนวนมาก เชื่อว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมจำนวนมากจนเต็มท้องสนามหลวง ซึ่งตนหวังจะให้แดงทั้งแผ่นดินอีกรอบ และการจัดการชุมนุมครั้งนี้ จะตั้งเวทีติดด้านวัดพระแก้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนจะประสานไปยังกทม.ขอไม่ให้มีการจอดรถในสนามหลวง อีกทั้งยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหนทั้งสิ้น

 
ตร.ผวาแดงบุกระดมป้องนายกฯ

ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมใหญ่วิชาการวิชาชีพสื่อสารมวลชนระดับชาติ ภายใต้หัวข้อ " บทเรียนสื่อ อำนาจรัฐ อำนาจทุน อำนาจประชาชน" ซึ่งจัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุ-โทรทัศน์ไทย สถาบันอิศรามูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะปาฐกถาพิเศษ ทางตำรวจได้ทราบกระแสข่าวกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 500 คน จะรวมตัวกันเพื่อบุกเข้าหานายกรัฐมนตรีที่บริเวณรอบนอกของห้องประชุมวิทยาลัยวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา ทำให้ พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.บางละมุง สั่งตั้งด่านตรวจสอบต่างๆ ตามถนนสายหลักและสายรอง ในพื้นที่ใกล้เคียงกับการประชุม แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด

"มาร์ค" รับบ้านเมืองยังขัดแย้งสูง

ต่อมานายอภิสิทธิ์ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า สถานการณ์บ้านเมืองมีความขัดแย้งสูงยังดำรงอยู่ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการที่จะให้การปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นได้ สื่อเองมีบทบาทเหมือนกันที่พยายามจะรณรงค์ให้ยุติด้านต่างๆ แต่ต้องมีการขบคิดร่วมกันว่าการที่จะช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองกับความอิสระในการเสนอความคิดจะพอดีอย่างไร บางเหตุการณ์รัฐบาลเองต้องประกาศอำนาจพิเศษเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ก็ย่อมกระทบหน้าที่การทำงานของสื่อด้วย

คนยุฟ้องบิดเบือนปมไม่อยู่ในรถ

"มีเรื่องหนึ่งก็พูดซ้ำทุกวัน จนบางทีผมก็งงว่า ผมอยู่ในรถหรือเปล่า (กรณีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง อ้างว่าไม่อยู่ในรถเบนซ์คันที่ถูกทุบในกระทรวงมหาดไทย หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา) เพราะผู้เกี่ยวข้องทุกคนก็รู้ว่าผมอยู่ในรถ หลายคนก็บอกว่าฟ้องได้ ต้องฟ้อง เพราะถ้าให้พูดตามใจชอบ จะโกหกก็ได้ และสื่อก็ต้องรายงานตามที่คนพูด ผมก็ไม่ตอบโต้ ตอนนี้คำถามเยอะมาก ผมไปไหนคนก็ถามว่าอยู่ในรถหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็ลำบากในการให้ความเป็นธรรม และการรักษาสิทธิ มันก็แปลกนะครับ เห็นชัดเจนว่ามีคนทำร้ายผม แล้วมาเปลี่ยนให้ผมไม่อยู่ในรถ มันเป็นธรรมหรือเปล่า ผมไม่อยากใช้วิธีทางกฎหมาย แล้วถามว่า ผมได้รับเป็นธรรมหรือไม่ แล้วคนที่มีเจตนาใดก็แล้วแต่ ไม่รับผิดชอบเลย ที่สร้างความเท็จขึ้นมาให้คนจำนวนหนึ่งเข้าใจ เราจึงต้องดูด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ห่วงใช้สื่อเป็นเครื่องมือการเมือง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยินดีรับฟังเรื่องสื่อ เวลาปฏิบัติจริงตนให้หลักการกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ให้มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ เพียงเพราะสื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล แต่ตนเห็นว่าสิทธิเสรีภาพของสื่อไม่ครอบคลุมถึงการที่ประกาศให้คนออกมาทำผิดกฎหมาย แล้วพูดผ่านสื่อได้ เช่น ไล่ล่า เผาตรงนั้นตรงนี้ ยิงปืนได้แล้ว เพราะเราสู้กับโจร เพราะมันเกินเลยการทำหน้าที่สื่อ และสื่อต่างประเทศที่มีชื่อเสียงก็ตำหนิไปแล้ว ที่มีคนบอกว่าจะจับอาวุธมาต่อสู้ สื่อรายงานให้เขาเรียบร้อย

"ผมถามกลับว่า ทำไมให้พื้นที่ผู้ก่อการร้ายบ้าง เขาก็ตอบไม่ได้ เหมือนคนชอบดูกีฬา 24 ชั่วโมง มีคนชอบดูการประท้วง 24 ชั่วโมงเหมือนกัน อยู่ที่ว่าจะใช้สื่อบนความรับผิดชอบแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าระหว่างรัฐกับวิชาชีพจะหาความพอดีอย่างไร ว่าสื่อไหนเป็นเครื่องมือทางการเมือง และมาตรฐานคืออะไร ใครตรวจสอบอะไรได้หรือไม่"นายกฯกล่าว

ปัดปิดกั้นข่าวเสื้อแดงชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายว่ามีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคอีสานถามว่าพื้นที่อีสานมีคนเสื้อแดงเยอะ และมีการตั้งคำถามว่าในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เหตุใดข่าวสารจึงออกมาจากรัฐบาลฝ่ายเดียว สื่อเองนำเสนอแต่ข่าวการใช้กำลังของเสื้อแดง นายกฯมองการรายงานข่าวช่วงขัดแย้งรุนแรงช่วงสงกรานต์อย่างไร เลือกข้างนำเสนอหรือไม่ เพราะนายกฯวิพากษ์เรื่องแทรกแซงสื่อมาก่อนตอนเป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า ยืนยันว่าตนเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน คิดและทำเหมือนเดิม ยืนยันตลอดว่าการให้ความคิดเห็นของฝ่ายค้าน สามารถแสดงออกได้เต็มที่ จะผ่านสื่อใดไม่มีปัญหาเลย เห็นได้ว่าตลอด 2-3 เดือนก่อนเหตุการณ์ สื่อเกาะติดการชุมนุม 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ตนก็ไม่ว่าอะไร
ย้ำแกนนำต้านพยายามบิดเบือน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างกรณีที่เกิดที่กระทรวงมหาดไทย ถ้าบอกว่าให้เสียงของแกนนำผู้ชุมนุมบางคนออกไปได้ ขอตัวอย่างเลยว่า ที่มีคนฮือมาทุบรถมากขึ้น เพราะมีเสียงออกไปบอกว่า รถนายกฯชนผู้ชุมนุมตาย แล้วอย่างนั้นผมทำได้ไหมว่า มีเสียงออกไปว่า รถนายกฯชนคนตาย แล้วเติมตอนท้ายว่า แต่ไม่เป็นความจริง จึงขอเรียนว่า การบิดเบือนจนทำให้คนมีความโกรธแค้นมันมีจริง ที่บอกรถนายกฯชนคนตายที่มหาดไทย ไม่จริงเลย แล้วการปล่อยให้เสียงดังกล่าวออกสื่อไปด้วยแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

"มีการบอกว่ามียิงคนตายอยู่ที่โรงพยาบาล 1 ศพ ผมก็ให้ไปพิจารณา ก็ไม่ใช่ เป็นความพยายามเอาข้อบิดเบือนข้อเท็จจริงบางอย่าง เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ผมเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลประชาธิปไตยประเทศไหนยอมให้ทำ ผมสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ผมถามกลับว่า เป็นคุณจะยอมให้ทำไหม ก็ไม่มีใครยอมให้ทำ ไปดูคำปราศรัยแกนนำบางคน เอาคำพูดถอดมาเลย ดูตั้งแต่วันที่ 8-13 เมษายน ไปเทียบดูกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่ามันคืออะไร"

ชี้ปรองดองต้ององค์กรไม่ได้ไม่เสีย

"ถ้ามันออกไป บ้านเมืองไปไกลหนักกว่านี้เยอะ เพราะสิ่งที่เขาพูด ถ้าผมเป็นคนเป็นกลางๆแล้วฟังที่เขาพูด ผมคงมีอารมณ์ แล้วออกไปทำให้เหตุรุนแรงมากขึ้น ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับกลุ่มชุมนุมเลย เขามีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ แต่บางอย่างเกินสิทธิทำให้บ้านเมืองเสียหายในวงกว้าง"

นายกฯกล่าวว่า มีการกล่าวหาว่าจนเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่ตนพูดและนึกในใจตลอดเวลาว่า ตนจะมีส่วนสร้างความปรองดอง ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง หวังว่านักการเมืองทุกฝ่ายจะพยายามทำแบบนี้ด้วย แต่ถ้าจะให้ไปเป็นผู้นำด้านนี้คงลำบาก แม้กระทั่งเรื่องการใส่เสื้อหยุดทำร้ายประเทศไทย ยังมีบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์แรงๆ ว่า มีวาระทางการเมือง เขียนแค่นี้ไม่ได้ ต้องบอกว่าใครเป็นคนทำร้าย มันก็ยังเป็นปัญหาแบบนี้อยู่ คิดว่าองค์กรที่ไม่มีส่วนได้เสียโดยตรงทำดีกว่า

เตือนออก "เรดนิวส์"อย่าปลุกปั่น

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวกรณีคนเสื้อแดงทำหนังสือพิมพ์ เรดนิวส์ ว่า อยู่ที่การทำงาน ขอให้การเป็นสื่อ เป็นเรื่องของการนำเสนอข่าวสารความเห็นตามปกติ อย่าไปมีอะไรที่ไปผิดกฎหมายเท่านั้นเอง ใครจะเริ่มต้นใช้สื่อสารอะไรในการเผยแพร่ข่าวสารเป็นสิทธิมีเสรีภาพที่จะทำอยู่ แต่ขอให้อยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ไม่นั้นจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันทางกฎหมายอีก

เมื่อถามว่า อาจจะมีการย้ำประเด็นอาทิ ทหารฆ่าประชาชนอยู่ หรืออาจจะเน้นข่าวสารที่บิดเบือน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงความเป็นจริงและทำให้เกิดความเสียหาย เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่าไปทำ เรื่องเหตุการณ์อะไรต่างๆ รัฐบาลเปิดโอกาสให้เข้ามายื่นข้อมูลเบาะแสให้คณะกรรมการที่สภาตั้งได้อยู่แล้ว รัฐบาลมีคณะกรรมการประมวลเหตุการณ์อีกคณะ ถ้าไม่เชื่อรัฐบาลไปใช้เวทีของสภาเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เพราะต้องการให้ความจริงปรากฏ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
 

ยันให้ปากคำกก.สอบ"18พ.ค."

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำร้ายประชาชน แต่ต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติได้ ฉะนั้น อย่าไปใช้ประเด็นเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง

เมื่อถามว่า จะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่รัฐสภาใน วันที่ 18 พฤษภาคมนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไป เพราะยืนยันว่าให้ความร่วมมือทุกอย่างกับคณะกรรมการ ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงควรจะไปให้ข้อมูลหรือไม่นั้น ถ้าเกิดคณะกรรมการเห็นว่าอยากจะให้เขาไปให้ข้อมูล หรือถ้าเขาเห็นว่ามีข้อมูลอะไรที่สมควรจะเสนอก็ควรจะทำ

"กก."เน้นข้อมูลเห็น-ได้ยินจริง

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง กล่าวว่า การจะเชิญใครมาเป็นอำนาจของนายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะกรรมการ เบื้องต้นวางกรอบการให้ข้อมูลแบบคร่าวๆ ว่าจะให้ผู้เกี่ยวข้องมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 8-15 พฤษภาคม เนื่องจากทางกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยได้ตั้งข้อกังขาหลายประเด็น  ข้อมูลที่คณะกรรมการฟังจะเน้นไปที่การพบเห็น หรือได้ยินเหตุการณ์โดยตรง ส่วนข้อมูลบอกเล่า ความคิดเห็น หรือข้อสันนิษฐานจะเป็นข้อมูลที่ให้ความสำคัญรองลงไป

"เท่าที่คุยคร่าวๆ กรรมการชุดใหญ่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสรุปเหตุการณ์แบบใด บางคนเสนอให้ทำเป็น 2 ชุดเหตุการณ์ ควบคู่กันไปเลย คือเหตุการณ์ในมุมของคนเสื้อแดง และเหตุการณ์ในมุมของรัฐบาล แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะสุดท้ายปัญหาจะไม่จบ น่าจะเอาเฉพาะข้อเท็จจริงมาสรุป ไม่ควรเอาความเห็น " นพ.วรงค์กล่าว

เล็งเชิญ "เนวิน" ให้ข้อมูล

เมื่อถามว่าจะเชิญนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยมาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน นพ.วรงค์กล่าวว่า ถ้ามีคนข้องใจและกรรมการชุดใหญ่เห็นว่าการชี้แจงของนายเนวินจะมีประโยชน์ ก็สมควรเปิดโอกาสให้นายเนวินได้ชี้แจง โดยคณะกรรมการได้กำหนดวันชี้แจงข้อเท็จจริงเบื้องต้นไว้ 3 วัน ตั้งแต่ 18-20 พฤษภาคมนี้เท่านั้น

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์