หญิงอ้อดอดกลับไทยแล้ว พนิช เชื่อยูเออีไม่ยอมให้แม้วใช้เป็นฐานเคลื่อนไหว

พล.ต.ต.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.)ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)

ถึงการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาดำเนินคดี ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีคดีซื้อ-ขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก และถูกออกหมายจับฐานยุยงปลุกปั่นให้ก่อการจลาจลว่า กองการต่างประเทศ ได้ประสานขอความร่วมมือกับตำรวจสากลซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิก 187 ประเทศ โดยแจ้งให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่มีหมายจับคดีอาญาของศาลไทย หากพบตัวให้แจ้งให้ทราบ หรือในบางประเทศก็อาจจับกุมตัวไว้ให้ หากกฎหมายภายในของประเทศนั้นๆให้อำนาจ ก่อนแจ้งให้ไทยทราบ เพื่อประสานให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

 
"การตรวจเส้นทางการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้ลำบาก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจถือหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ทำให้การตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกประเทศต่าง ๆ ยากขึ้น"พล.ต.ต.วิสนุ กล่าว

ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ อาจถือหนังสือเดินทางของประเทศนิการากัวนั้น ผบก.ตท.กล่าวว่า ได้แจ้งข้อมูลส่วนนี้ไปยังตำรวจสากลประเทศนิการากัวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของประเทศนิการากัว สามารถเดินทางเข้าประเทศใดบ้างโดยไม่ต้องขอวีซ่า
"ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เราดำเนินการในอำนาจหน้าที่ที่เรามีอย่างเต็มที่ ซึ่งกรณีของ  พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่กรณีพิเศษอะไร เพราะหากเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีอาญาไปอยู่ต่างประเทศ เราก็ต้องดำเนินการทุกกรณีภายใต้พ.ร.บ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551อยู่แล้ว  ในการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมาตำรวจได้ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงต่างประเทศ และอัยการสูงสุด ซึ่งการทำงานทุกอย่างเป็นได้ด้วยดี ทั้งนี้  เชื่อว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน การติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีคงไม่ใช่เรื่องยาก" ผบก.ตท. กล่าว

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ออกมาเปิดเผยช่วงก่อนหน้านี้ในฐานะทูตพิเศษรัฐบาล เดินทางไปหารือกับทางการสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์(ยูเออี)ในทำนอง

ยูเออีรับปากไม่ยินยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช้เป็นฐานขับเคลื่อนทางการเมืองอีก ทั้งยังเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะพำนักในยูเออีต่อไป และจะไม่ยินยอมให้เข้าประเทศเพื่อขับเคลื่อนทางการเมืองอีก กล่าวกรณีคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณยืนยัน ยังสามารถเข้า-ออกยูเออีได้ตามปกติว่า  ได้รับการยืนยันจากรักษาการปลัดกระทรวงการต่างประเทศยูเออี ว่า จะไม่ยอมให้ใครหรือบุคคลใดใช้ประเทศยูเออีขับเคลื่อนทางการเมือง แต่ถ้าใช้ในเชิงดำเนินการทางธุรกิจก็ไม่มีปัญหา สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เมืองดูไบ เป็นฐานขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อโจมตีประเทศไทย ดังนั้นรัฐบาลยูเออีไม่ยินยอมแน่นอน และในตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีหนังสือเดินทางของประเทศไทยแล้ว ต่อจากนี้ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามายังยูเออี เชื่อว่ารัฐบาลยูเออีจะจับตาดูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและยูเออีอยู่ในระดับที่ดีมาก


"ผมได้เดินทางไปยูเออี พร้อมกับเอกอัครราชทูตไทยประจำยูเออี ซึ่งมีบันทึกยืนยันชัดเจนว่า การพูดคุยกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง" นายพนิช กล่า
 
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทูตพิเศษอีกคน กล่าวว่า  ยูเออีไม่ได้ห้ามพ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ

เพียงแต่ห้าม พ.ต.ท.ทักษิณใช้ยูเออีเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อโจมตีประเทศไทย ซึ่งทางการยูเออีได้ทำหนังสือแจ้งต่อ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เนื่องจากไทยและยูเออีกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาความสัมพันธ์การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณอยากเข้าไปในยูเออี โดยเฉพาะดูไบ ก็สามารถทำได้แต่ต้องเป็นในฐานะนักธุรกิจ เพราะเจ้าตัวก็ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ในดูไบไว้เป็นจำนวนมาก โดยไม่ทราบว่านำเงินมาจากไหน ส่วนความคืบหน้าในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ขณะนี้ทางการยูเออีได้ส่งร่างสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาให้กับกระทรวงการต่างประเทศแล้ว เนื่องจากยูเออีมีผู้ร้ายที่ต้องการตัวอยู่ในไทยเหมือนกัน


นายอลงกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณถือหนังสือเดินทางกัมพูชาด้วยว่า ไม่ทราบ ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบก่อน

เพราะเท่าที่ยืนยันขณะนี้มีเพียงถือพาสปอร์ตการทูตของนิการากัวเท่านั้น ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวเช่นกันว่า ไม่ทราบเรื่องนี้  ส่วนเรื่องการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้น นายสุเทพกล่าวว่า   กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการประสานขอความร่วมมือกับนานาประเทศอยู่ 

 
นายนพดล  ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีระบุ

สื่อมวลชนต่างประเทศเริ่มเข้าใจในพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องการจาบจ้วงเบื้องสูงและการยุยงให้มีการใช้อาวุธซึ่งไม่ต่างไปจากการก่อการร้าย ว่า เป็นความเข้าใจของนายอภิสิทธิ์เองมากกว่า เพราะเมื่อสื่อต่างประเทศเขียนชื่นชมพ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ ก็ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ อย่างไรก็ตามยืนยันได้ว่าสื่อนานาชาติเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งถึง 2 สมัยและถูกยึดอำนาจไป ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการก่อการร้ายตามคำกล่าวหา เพราะการต่อสู้ของอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยสงบและสันติ ไม่ใช้อาวุธ ส่วนนายจักรภพ  เพ็ญแข แกนนำคนเสื้อแดง จะให้สัมภาษณ์อย่างไรนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ


นายนพดลกล่าวถึงกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณถือพาสปอร์ตของกัมพูชา ว่า  ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถือพาสปอร์ตมากกว่า 1 เล่ม
 

รายงานข่าวแจ้งว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางจากฮ่องกง ถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกแอร์ไลน์ส ภายหลังเดินทางออกนอกประเทศในช่วงก่อนหน้านี้

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์