สุเทพยันทักษิณอยู่ดูไบกลับมานำเสื้อแดงยาก

คมชัดลึก :พร้อมระบุ “ทหาร-ตำรวจ” ไม่ได้ใส่เกียร์ว่าง วอน “พธม.” อย่าเคลื่อนไหว หวั่นรัฐบาลทำงานลำบาก ขณะที่ "ทักษิณ " โฟนอินม็อบเสื้อแดงอุดร ยาหอมกลับไทยจะปลูกบ้านที่อุดร เสื้อแดงโคราชบุกจวนผู้ว่าฯ ชัยภูมิขู่ปิดถนนกลางใจเมือง ที่ทำเนียบฯประกาศ ยึดเอ็ม16-รถถังได้ พร้อมกันนี้มีตำรวจถอดเครื่องแบบใส่เสื้อแดงฟังปราศรัย ด้านกองพลทหารราบที่ 9-เคลื่อนพลปักหลัก อ.พุทธมณฑล แพทย์เผยนิพนธ์ ซีโครงหัก-รปภ.นายกฯปลอดภัยรักษาตัวที่บ้าน เครือข่ายองค์กรประชาชนเหนือตอนบนแถลงการณ์หนุนประกาศ พรก.ฉุกเฉิน "เสธ.หนั่น" แนะอีก "อภิสิทธิ์" เอาจริงกับกลุ่มเสื้อแดง


เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 12 เม.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ว่า จากการตรวจสอบพบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ดังนั้นที่บอกว่าจะเข้ามานำกลุ่มผู้ชุมนุมเอง จึงไม่มีทางเป็นไปได้เพราะอยู่ไกลจากประเทศไทยมาก ส่วนการเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตนมีหน้าที่ให้สถานการณ์ยุติลงอย่างรวดเร็ว และให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ปกติให้เร็วที่สุด

 ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจกับทหารใส่เกียร์ว่างนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และวันนี้ก็เป็นการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นวันแรกเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ตนกำลังหารือร่วมกับวอร์รูมของรัฐบาล ซึ่งมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมอยู่ด้วย ยืนยันว่าตนมีอำนาจสั่งการทุกกองบัญชาการ และขอปฏิเสธกระแสข่าวว่ารัฐบาลไม่พอใจการทำงานของตำรวจที่ผ่านมา โดยที่ตำรวจอาจจะละล้าละลังในช่วงแรก แต่เมื่อประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ทั้งหมด

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวตามต่างจังหวัด ว่าจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องดูตามความจำเป็น บางแห่งก็สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
 ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาจจะออกมาชุมนุมต่อต้านกับกลุ่มเสื้อแดง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝากเรียนทางกลุ่มพันธมิตรฯให้เวลาพวกผมทำงาน เราคงแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้าพันธมิตรฯออกมาด้วยจะทำให้การทำงานของเรามีปัญหา

ทักษิณฯโฟนอินปลุกคนเสื้อแดงอุดรอีก

  เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 12 เมษายน 52  ที่บริเวณสี่แยกถนนบายพาสอุดร-ขอนแก่น ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงของชมรมคนรักอุดร จำนวนประมาณ 1,200 คน ที่มาร่วมชุมนุมปิดถนน ทำให้รถยนต์ที่จะเดินทางไป กทม.และจังหวัดข้างเคียง ต้องใช้เส้นทางเข้าหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นทางเลี่ยงแทน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเส้นทางฝั่งขาออกเลนซ้ายมือไว้หนึ่งช่องทาง เพื่อให้รถที่ออกมาจากตัวเมือง และรถพยาบาลผ่านออกไปทางแยกบายพาสสกลนครได้
 
 ในที่ชุมนุมได้นำรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงใช้ปราศรัย โดยมีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เป็นแกนนำคนเสื้อแดง พร้อมด้วย นายวิเชียร ขาวขำ นายอนันต์ ศรีพันธ์ นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายศรีงาม และนายทองดี มนิสสาร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ร่วมขึ้นปราศรัย สลับกับการถ่ายทอดสัญญาณเสียงถ่ายทอดจากสถานีดีสเตชั่น ซึ่งมีการปรบมือสลับเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจเป็นระยะ  
 
 ต่อมาเวลา 19.30 น. นายขวัญชัย ได้เดินถือโทรศัพท์บอกนายวิเชียรที่กำลังปราศรัยว่า มีการประกาศยุบสภาแล้ว หลังจากนั้นผู้ร่วมชุมนุม ต่างโห่ร้องแสดงความดีใจ พร้อมกับมีการเปิดเพลงฟ้อนรำ และนำขวดน้ำมาสาดน้ำขึ้นฟ้า เพื่อเป็นการแสดงความดีใจ นานกว่า 5 นาที
 
 จากนั้นเวลา 19.40 น.นายวิเชียร ได้ประกาศว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตน เพื่อที่จะพูดคุยกับพี่น้องชาวอุดรธานี ที่มาร่วมชุมนุม โดยนำไมโครโฟนถ่ายทอดเสียง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทักทายผู้ร่วมชุมนุม และบอกว่าพี่น้องอุดรธานีน่ารักจริง ๆ อยากให้ทุกคนเหนียวแน่นเป็นแบบนี้ตลอดไป

  พ.ต.ท.ทักษิณฯ ใช้เวลาโฟนอินประมาณ 5 นาที จึงวางสาย ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้องของผู้ร่วมชุมนุม โดยผู้ชุมนุมเตรียมที่จะแยกย้ายกลับ แต่นายวิเชียรฯ ได้ประกาศว่า อย่าเพิ่งสลายตัว เพราะว่ายังไม่ได้การยุบสภา จึงมีการรวมตัวชุมนุมกันอยู่เช่นเดิม
เสื้อแดงโคราชบุกจวนผู้ว่าแต่ผู้ว่าฯไม่อยู่ เลยถอย

 บรรยากาศการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เมื่อเวลา 19.00 น. นายฉลอง  น้อยแสง แกนนำกลุ่มคนโคราชรักษ์ประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช ได้นำมวลชน จำนวนกว่า 200 คน เดินจากเวทีปราศรัยบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ไปตาม ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา มุ่งหน้าไปยัง จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระยะทางกว่า 300 เมตร

 พล.ต.ต.ฉัตรกนก  เขียวแสงส่อง ผบก.จ.นครราชสีมา จึงได้ออกคำสั่งทางวิทยุสื่อสารให้ จนท.ตำรวจ ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงระดมกำลังนับร้อยนาย พร้อมรถปิกอัพตราโล่ห์จำนวน 3 คัน ปิดกั้นประตูทางเข้าจวนผู้ว่า ฯ เพื่อป้องกันการบุกรุกของกลุ่มคนเสื้อแดง และรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันการเหตุการณ์รุนแรง แต่ปรากฎว่านายประจักษ์ ฯ ผวจ.นครราชสีมา ไม่ได้อยู่ภายในจวนฯ ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยในการสัญจร บนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงสลายตัว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ ก่อนกลับไปปักหลักที่เวทีปราศรัยสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรอคำสั่งจากแกนนำที่ กทม.ว่าจะมีทิศทางการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปในเช้าวันรุ่งขึ้น

 เสื้อแดง500ขู่ปิดถนนกลางใจเมืองชัยภูมิ

สถานการณ์ม็อบเสื้อแดง จ.ชัยภูมิ ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินกรุงเทพฯ-ปริมณฑล บรรยากาศการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ระดมคนกว่า 500 คน นำโดยนายแพทย์ประสิทธิ์  ชัยวิรัตนะ ส.ส.เพื่อไทย เขต 2 จ.ชัยภูมิ ,นายนัฐวุฒิ ชีวะวิทยานนท์ นายก อบต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ และประธานกลุ่มคนเสื้อแดงจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายธนพล  คนสมบูรณ์ บุตรชายนายสุรวิทย์  คนสมบูรณ์ ส.ส.เพื่อไทย เขต 2 จ.ชัยภูมิ ได้นำรถ 6 ล้อติดตั้งเครื่องขยายเสียงแห่ออกประกาศเชิญชวนประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหมดในพื้นที่ 16 อำเภอ จ.ชัยภูมิ เร่งออกมาร่วมตัวกันทั้งหมดที่หน้าศาลากลางจ.ชัยภูมิ (หลังเก่า) เพื่อเคลื่อนขบวนกดดันรัฐบาลห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ
 
 กลุ่มคนเสื้อแดงเดินจากหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ออกเชิญชวนประชาชนไปรอบเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ให้ออกมาร่วมปักหลักที่หน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เยื้องหน้าศาลากลางจ.ชัยภูมิเพื่อร่วมกันติดตามสถานการณ์ฟังการถ่ายทดสดจากสถานีโทรทัศน์ดีทีวี ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงชัยภูมิทั้งหมดได้ย้ายนำเต็นท์มาตั้งปักหลักพร้อมติดตั้งเครื่องขยายเสียง ติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ไว้ให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ชมร่วมติดตามสถานการณ์ไปตลอดช่วงที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล และถ้ามีการนำกำลังเข้าสลายการชุมนุมเมื่อใดทางกลุ่มคนเสื้อแดงจ.ชัยภูมิ ทั้งหมดจะเข้าปิดถนนทางเข้าผ่านกลางใจเมืองชัยภูมิ บริเวณหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลทั้งหมดทันที

เสื้อแดงทำเนียบฯประกาศหยามหน้าทหารยึดเอ็ม16-รถถัง

ที่เวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำเนียบรัฐบาล นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ประกาศต่อผู้ชุมมุมว่า ขณะนี้มวลชนเสื้อแดงได้ยึดรถถังและปืนเอ็ม16 ของทหารไว้เป็นจำนวนมากที่บริเวณสามแยกดินแดง และได้ส่งพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ และนายพายัพ ปั้นเกตุ ไปตรวจสอบสถานการณ์แล้ว

ตำรวจเปลี่ยนสีถอดเครื่องแบบใส่เสื้อแดงฟังปราศรัย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลได้มีกลุ่มคนจำนวน 50 คน ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเดินชูป้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ฆ่าประชาชนไม่ทำร้ายประชาชน ส่วนท้ายขบวนเป็นผู้หญิงชูป้ายว่า “แม่บ้านตำรวจช่วยประชาชน” เดินรอบนอกแนวกำแพงรั้วทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี อีกทั้งภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความสงบภายในทำเนียบและปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆ จำนวนประมาณ 50 นาย ได้นำผ้าสีแดงของกลุ่มคนเสื้อแดงมาผูกไว้ที่แขน นำมาโพกหัวและนำมาคล้องคอไว้ เมื่อบนเวทีปราศรัยมีคำพูดที่ถูกใจก็จะแสดงอารมณ์ร่วมด้วยการชูตีนตบขึ้นมาเขย่า

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนเปลี่ยนเครื่องแบบมาใส่ชุดลำลอง และนำเสื้อแดงที่ได้รับแจกมาใส่ และนั่งฟังปราศรัย ริมรั้วภายในทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามเวทีด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนยังอยู่ในชุดครึ่งท่อน ได้ร่วมฟังปราศรัยด้วย ทำให้บรรยากาศการชุมนุมระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นกันเอง ซึ่งผู้ชุมนุมได้แบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยส่งผ่านรั้วเหล็กและรั้วลวดหนามด้วย

กองพลทหารราบที่9-เคลื่อนพลปักหลัก อ.พุทธมณฑล
 
 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สำนักพระพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้มีเจ้าหน้าที่จากกองทัพบก ประกอบด้วยกองพลทหารราบที่ 9 กองร้อย 21 นำกำลังทหารจำนวนหลายร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือ เดินทางด้วยรถบัส และรถบรรทุก พร้อมด้วยรถจี๊ป จำนวนหลายสิบคัน จากจังหวัดกาญจนบุรี เข้ามายังถนนเพชรเกษม ก่อนเลี้ยวเข้าเส้นทางถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าสู่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ก่อนรวมกำลังที่สำนักพุทธมณฑล

 ทั้งนี้ ทางกองพลทหารราบที่ 9 ได้นำกำลังเพื่อเข้าดูแลความสงบในพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน โดยหน่วยทหารดังกล่าวใช้พื้นที่ในสำนักพุทธมณฑล เป็นฐานที่ตั้งรวมกำลังพล โดยทางกองพลทหารราบที่ 9 ไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ และให้สัมภาษณ์ใดๆ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่พุทธมณฑล ไม่มีกลุ่มเสื้อแดงไปรวมตัวแต่อย่างใด แต่จะมีกลุ่มเสื้อแดงจากต่างจังหวัดโดยสารรถบัสผ่านเข้าตัวเมืองจังหวัดนครปฐม ตามเส้นทางถนนเพชรเกษม เพื่อไปรวมตัวสมทบกันที่กรุงเทพฯ

 นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวนา จากจังหวัดนครปฐม ใช้รถส่วนตัวและรถบัสโดยสาร พยายามจะปิดถนนสายหลักเพชรเกษมบริเวณ สี่แยกมาลัยแมน ต.ธรรมศาลา และอำเภอนครชัยศรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจาจนสามารถผลักดันออกจากพื้นที่ โดยกลุ่มเสื้อแดงทั้งหมดได้ทยอยเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯแล้ว

 ต่อมาเวลา 20.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ได้มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คน รวมตัวกัน แต่ยังไม่มีเหตุการณ์หรือความเคลื่อนไหวใดๆ

แพทย์เผยนิพนธ์ซีโครงหัก-รปภ.นายกฯปลอดภัยรักษาตัวที่บ้าน

 นพ.ชาตรี         เจริญชีวะกุล     เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ     กล่าวว่า กรณี  พ.ต.ปกรณ์    สมพานต์    รปภ.นายกรัฐมนตรีได้รับบาดเจ็บมีแผลที่ศีรษะและเสียเลือดมาก   จึงได้ประสานไปยังนพ.เหวง     โตจิราการ    แกนนำกลุ่มนปช.เพื่อขอให้ทีมแพทย์เข้าไปเย็บแผลที่ศีรษะเพื่อห้ามเลือดให้แก่พ.ต.ปกรณ์     สมพานต์     รปภ.นายกรัฐมนตรี      โดย19.00 น.กลุ่มนปช.ได้ยอมให้ทีมแพทย์จากรพ.รามาธิบดีและรพ.ราชวิถีเข้าไปเย็บแผลที่ศีรษะพ.ต.ปกรณ์เพื่อเป็นการห้ามเลือด พ.ต.ปกรณ์ปลอดภัยแล้ว ตนก็รู้สึกสบายใจ  อย่างไรก็ตาม ล่าสุทราบว่าพ.ต.ปกรณ์.  ได้เย็บแผลที่ศรีษะ และปล่อยให้กลับบ้านไปแล้ว

 "ส่วน นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทราบว่าศีรษะแตกและซีโครงหัก และได้รับการรักษาแล้ว น่าจะกลับบ้านไปรักษาตัวที่บ้าน" นพ.ชาตรี กล่าว

 ส่วนกรณีผู้บาดเจ็ดของนปช.ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มเติม จากที่มีชุมนุมมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 รายแยกเป็น 12 รายมีแผลฉีกขาดที่ศีรษะ  มีบาดแผลตามร่างกาย  ก็ได้มีการเอ็กซเรย์และเย็บแผล แล้วให้ยาก็กลับบ้านได้ทุกคน อีก 1 รายมีบาดแผลที่ศีรษะเป็นแผลลึกเพราะถูกทุบด้วยของแข็ง  อาการหนักจึงต้องพักรักษาตัวที่รพ.พระมงกุฎเกล้า

 " ตอนนี้ทีมแพทย์ ฉุกเฉินเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้สทุกรพ.สั่งเต็มอัตรา ทั้งทีมแพทย์ เลือด และ ทั้งกู้ชีก กู้ภัย เพื่อเตรียมรับเหตุการณ์หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็พร้อมจะดูแลได้ทันที" นพ.ชาตรี กล่าว
 นพ.ชาตรี กล่าวว่า ได้แต่ภาวนาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเพราะว่าคนไทยด้วยกันทั้งนั้น ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย เพียงแต่าหกเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆก็ขอให้อบย่าสะกัดรถพยาบาลฉุกเฉินก็พอแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถที่จะปฏิบัติการได้
 
เครือข่ายองค์กรประชาชนเหนือตอนบนหนุน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

  ช่วงเย็นวันนี้(12 เม.ย.52)เครือข่ายองค์กรประชาชน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน  ประกอบด้วยสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด  ประธานเครือข่ายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาชีวิตเกษตรกรจังหวัดลำปาง , ลำพูน , เชียงราย , พะเยา  สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 17 จังหวัดภาคเหนือ  สหพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด  สมาคมภาคใต้ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน  เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกและภาคีฮักเชียงใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ส่งถึงสื่อมวลชน กรณีรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีเนื้อหาและข้อเรียกร้องโดยสรุป เห็นด้วยและขอสนับสนุนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงดังกล่าว  เพื่อให้รัฐบาลเร่งควบคุมสถานการณ์ของประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

"เสธหนั่น"แนะ"อภิสิทธิ์"เอาจริงกับกลุ่มเสื้อแดง

 เมื่อเวลา16.00 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2552 ได้เดินทางมาตรวจติดตามการดำเนินงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ บริเวณจุดศูนย์ร่วมช่วยเหลือและป้องกันการลดอุบัติเหตุ จ.พิจิตร ทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก บ้านดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง เส้นทางหลักมุ่งสู่หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยในภาพรวมการจราจรการเดินทางทุกเส้นทางสู่ภาคเหนือเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมักเกิดจากการมึนเมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหะนะด้วยความเร็วสูง สำหรับจังหวัดพิจิตรมีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 ราย

 พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  รัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้นไม่มีผลต่อการเล่นน้ำสงกรานต์และงานประเพณีต่างๆ ในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำสงกรานต์ตามจุดงานต่างๆ ที่ได้เตรียมงานไว้แล้ว ให้พี่น้องประชาชนดำเนินชีวิตไปตามปกติอย่าตกใจ

 ส่วนกรณีที่ รัฐบาลได้ประกาศ พรก.ฉุกเฉินนั้น สาเหตุเนื่องจากกลุ่มเสื้อแดงได้เข้าไปทำลายสถานที่ราชการ แม้แต่รถประจำตำแหน่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี และเข้าทำลายทรัพย์สินของสถานที่ราชการของประชาชน รัฐบาลก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งคงปล่อยไว้ไม่ได้   ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินการอยู่ จึงได้ประกาศ พรก.ฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เป็นไปตามกฎหมายต้องระงับเหตุที่กลุ่มเสื้อแดงก่อปัญหาให้ได้
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศ พรก.ฉุกเฉินนั้น จะมีการสลายการชุมกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ พล.ต.สนั่น รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  รัฐบาลคงต้องประเมินดูก่อนว่า กลุ่มเสื้อแดงจะก่อความรุนแรงมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ ซึ่งทราบมาว่า กลุ่มเสื้อแดงเข้าไปทุบรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอีก ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องปฎิบัติตามมติรัฐบาลที่ให้ไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์