ประณามส.ส.ของลับ แฉมีแถม ของลับหญิง

วันที่ 20 มี.ค.เวลา 09.00 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยทันทีที่เริ่มประชุมนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่องบริษัททีพีไอโพลีนจ่ายเงิน 263 ล้านบาทให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านบริษัทเมซไซอะในช่วงปี 2547-2548 ว่า

สมัยที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้บริหารการเงินของพรรคอย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของ กกต.ทุกประการ ที่สำคัญ กกต.อนุมัติหนังสือการจัดทำงบดุลของพรรคประชาธิปัตย์ประจำปี
2547 และ 2548
เรียบร้อยแล้ว และงบดุลของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้ตรวจสอบบัญชีแล้วเช่นกัน

บัญญัติฉะ เฉลิมใส่สีตีไข่

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ปัญหาเรื่องเงินบริจาคไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเรื่องนี้อยู่ในการสอบสวนของดีเอสไอ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาธิปัตย์โดยตรง แต่เป็นเพราะบริษัทหนึ่งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถูกกล่าวหาในเรื่องนี้ จึงมีความพยายามยึดโยงเข้ากับพรรคประชาธิปัตย์ และ ร.ต.อ.เฉลิมก็นำมาเพิ่มสีสันด้วยการใส่สีตีไข่ เพราะร.ต.อ.เฉลิมเป็นอดีตพนักงานสอบสวนเก่า จึงเป็นคนที่มีจินตนาการยึดโยงเรื่องต่างๆมารวมกัน ขอชี้แจงว่าเงินที่ได้รับจาก กกต.ในช่วงปี 2547-2548 ซึ่งเป็นช่วงใกล้วันเลือกตั้ง เมื่อได้รับเงินแล้วจะต้องทำแผนงานส่งให้ กกต.พิจารณาก่อนที่จะใช้จ่ายเงินจริง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่ได้มาร้องขอให้เปลี่ยน ขนาดป้ายโฆษณาจากใหญ่ให้เป็นขนาดเล็ก ทางพรรคจึงได้ทำหนังสือไปยัง กกต.ขอปรับเปลี่ยนแผนการทำงาน และเตรียมการที่จะดำเนินการต่างๆไว้ เมื่อ กกต.ตอบรับจึงเริ่มดำเนินการได้ทันที หากพรรคต้องการนำเงินไปใช้อย่างอื่นจริง จะต้องเสียเวลาไปทำหนังสือทำไม คนที่เป็น ส.ส.ก็ทราบดี

แฉ กษิตทะเลาะทูต-ชกนักเรียนทุน

จากนั้นได้เข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ โดย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พฤติกรรมที่ผ่านมาของนายกษิตไม่เหมาะสมที่จะเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยเฉพาะประสบการณ์และประวัติในการทำงานสมัยรับราชการเป็นทูตประจำประเทศต่างๆ เคยทะเลาะกับทูตและข้าราชการด้วยกัน อย่างทูตแรงงานประจำประเทศญี่ปุ่น อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ และยังมีการชกต่อยกับนักเรียนทุนในต่างแดน

เปิดปูมไถเปียโน-ตั๋วเครื่องบิน

น.ส.วิสาระดีกล่าวว่า นายกษิตยังมีพฤติกรรมแสวงผลประโยชน์ โดยบีบบังคับขอเปียโนจากผู้ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ชื่อนายไพบูลย์ อ้างว่าจะนำไปให้ผู้ใหญ่ เปียโนหลังดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับเปียโนหลังที่อยู่ในบ้านท่าน นอกจากนี้ ยังขอตั๋วเครื่องบินจากการบินไทย 500 ใบต่อปี อ้างว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่ทราบว่านายกษิตมีส่วนร่วมอะไรด้วยหรือไม่กับคนที่ชื่อ เป๊บซี่พ่อค้าเงินในตลาดมืด รวมถึงยังมีพฤติกรรมส่อไปทางไม่เคารพศาสนา เพราะมีพระเจ้าอาวาสวัดคลองบางกุ้ง ซึ่งเป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เคยไปเยี่ยมที่สถานทูต แต่ท่านกลับพูดว่า หลวงพ่อมาหากินไกลนะถือเป็นพฤติกรรมที่นอกจากไม่อนุโมทนาแล้วยังดูถูกผู้ที่เป็นถึงเลขานุการพระสังฆราช โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ จนสนิทกับพวกนักบวชนอกรีต ทำให้เรายิ่งประหวั่นพรั่นพรึงด้วย

ส.ส.หญิงแบ่งฝ่ายปะทะคารม

หลังจากนั้นได้เกิดการปะทะคารมกันอีก โดย น.ส.สุพัชรีประท้วงว่า การอภิปรายของ น.ส.วิสาระดีเป็นการพูดเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น ขณะที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า ผู้อภิปรายอ่านเอกสารทุกคำพูด ถ้าริบเอกสารมาก็พูดไม่ได้ เพราะไม่ได้พูดจากสมองเขาเอง เหมือนมีคนเขียนสคริปต์ให้อ่าน ถ้าพูดจากใจจริงจะไม่ก้าวร้าวแบบนี้ ทำให้ น.ส.วิสาระดีไม่พอใจ ขอให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูดที่ว่าไม่มีสมอง ขณะที่ ส.ส.หญิงของพรรคเพื่อไทยหลายคนก็ลุกขึ้นช่วย อาทิ นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา โดยขอให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูด เพราะถือเป็นการเสียดสีดูถูกลูกผู้หญิงด้วยกัน จึงเกิดการโต้เถียงกันดุเดือดระหว่าง 2 ฝ่าย ทำให้นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานในที่ประชุม พยายามไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายให้อยู่ในความสงบ และขอให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูด แต่ น.ส.รังสิมายังคงตอบโต้ว่าเป็นความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่การใส่ร้าย หาก น.ส.วิสาระดีมั่นใจในตัวเองก็ต้องพูดโดยไม่อ่านเอกสาร ถ้าพูดได้เหมือนเดิมก็จะยินดีถอนคำพูดให้ ซึ่งนายสามารถยืนยันว่า น.ส.รังสิมาต้องถอนคำพูดเลย ในที่สุด น.ส.รังสิมาก็ยอมถอน แต่ยังคงพูดทิ้งท้ายว่าถ้ายังอภิปรายแบบนี้ก็ถือว่าไม่มีมันสมอง

เปิดซีดี กษิตขึ้นเวทีด่า ฮุน เซน

ต่อมานางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เป็นความไม่สง่างามที่เอาคนไม่เคารพกฎกติกาบ้านเมืองมาเป็นรัฐมนตรี ทำไมนายกฯถึงตกรางวัลให้เป็น  รมว.ต่างประเทศ  เป็นหน้าเป็นตาต้องไปสร้างความสัมพันธ์และไมตรีที่ดีให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน นายกฯต้องตอบแทนแสดงมิตรไมตรีกับแกนนำพันธมิตรฯที่กล้าหาญชาญชัยทำผิดกฎหมายบุกยึดสถานีเอ็นบีที ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ แต่คนที่เคยผ่านงานถึงระดับเอกอัครราชทูตควรมีมารยาท น่าเชื่อถือ ต้องไม่โกหกตลบตะแลง จากนั้นนางฐิติมานำเทปบันทึกสัมภาษณ์และวีซีดีจำนวน 4 ชุดมีภาพนายกษิตไปเข้าพบสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และภาพตอนนายกษิตขึ้นเวทีพันธมิตรฯที่ด่าสมเด็จฮุน เซนด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ย้อนศรยุค ทักษิณก็เคยกู้เงิน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านชอบล้อเลียนเรื่องอายุของตน และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ว่าเป็นเด็กนั้น  จริงๆอายุ  44  ปี  ก็ไม่ได้เด็ก  ตั้งใจทำงาน ไม่ได้โกง หากทำงานไม่สำเร็จต้องรับผิดชอบ ก็คงไม่อยู่ให้บ้านเมืองเสียหาย  ทั้งนี้ ไม่เคยพูดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยดี มีแต่บอกว่าเศรษฐกิจไทยต้องเจอภาวะหนัก มี 3 แนวทาง ที่จะหาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจได้คือ 1. เก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2. ขายสมบัติชาติ 3. การกู้เงิน หลายประเทศก็ทำกันทั้งนั้น แต่ฝ่ายค้านไม่พูดถึง พอรัฐบาลไทยจะทำก็บอกว่าผิด ฉะนั้นการกู้เงินในยามวิกฤติอย่างนี้อย่าออกมาต่อต้านเลย เพราะเป็นการกู้เงินมาช่วยคนจนถ้าฝ่ายค้านต่อต้านก็หมายถึงเราต้องขายสมบัติชาติแทน และเรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปบรรยายในงานวัด อยากถามว่าในปี 2546-2547 สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยกู้เงินในลักษณะนี้เหมือนกัน อย่าพยายามสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจว่า  เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่เป็นคนกู้เงิน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์