กทม.-กรมศิลป์วุ่น พระรูปร.5 พิษปากสนธิ-โกเต๊ก


ฟุ้งเอาไปเช็ดที่ส่วนฐาน แก้เคล็ดมนต์หมอเขมร เสธ.แดงกระตุ้นจปร.ลุย จับตานปช.พรึ่บกรุงวันนี้

"อภิรักษ์"สั่งตรวจสอบบริเวณฐานพระบรมรูปร.5 หลังมีคลิปว่อนทั่วเมือง แฉ"สนธิ" ฟุ้งบนเวทีเรื่องทำคุณไสย เอาโกเต๊กเปื้อนเลือดไปเช็ดที่ฐานพระบรมรูปเพื่อแก้เคล็ดหมอเขมร ทางด้าน"เสธ.แดง"เตรียมเคลื่อนไหวชักชวนศิษย์นายร้อยจปร.ลุกฮือเอาเรื่อง ม็อบนปช. ชุมนุมกลางกรุงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานวันนี้ แกนนำยัน"ทักษิณ"โฟนอินแน่ แถมพ่วง"สมัคร"ด้วย ขณะที่คนเสื้อแดงหลั่งไหลจากตจว.เข้ากรุงตามนัด มั่นใจคนทะลักถึงแสน แม้จะโดนคว่ำบาตรไม่เอาด้วยจากกลุ่มเพื่อนเนวิน ขณะเดียวกัน คนตจว.ก็เฮโลมาสมทบม็อบพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบฯ เช่นกัน ตร.เครียดประสานทหารขอแรงมาตรึงป้องกันม็อบชนม็อบ ส่วนสธ.ก็เตรียมพร้อมทั้งรถพยาบาล-ร.พ.ไว้รอท่า เผื่อเกิดเหตุการณ์บานปลาย แฉ"แม้ว-อ้อ"บินจากอังกฤษมาอยู่ฮ่องกงแล้ว เตรียมพร้อมโฟนอิน ตุลาการเตรียมเก็บหลักฐานการโฟนอิน หากเข้าข่ายหมิ่นศาลเมื่อไรจะดำเนินคดีทันที

-พธม.เสริมแนวกั้นหลังโดนบึ้ม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว โดยพล.ต.จำลองกล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้พันธมิตรนำกระสอบทรายมาวางเสริมเป็นแนวป้องกัน ส่วนที่ตำรวจระบุว่าอาจจะไม่ปลอดภัยและไม่ใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนั้น เราก็อยากเอาออกแต่ทำไม่ได้ นอกจากนี้ตามที่ตำรวจอ้างว่า หลังเกิดเหตุตำรวจไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ตนคิดว่าตำรวจไม่ต้องเข้ามาก็ได้แต่ขอให้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบที่ชุมนุม เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ตั้งแถวห่างจากผู้ชุมนุมราว 100 เมตร ก็ถือเป็นการป้องปรามผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวน

พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า สำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะจัดรายการความจริงวันนี้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พันธมิตรคงไม่เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยอะไรเป็นพิเศษ แต่ก่อนหน้านี้เคยได้ทำหนังสือขอกำลังสารวัตรทหาร (สห.) ให้เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย เพราะทหารมีหน้าที่เช่นนี้อยู่แล้ว อีกทั้งพื้นที่ชุมนุมก็อยู่ไม่ไกลจากกองบัญชาการกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งหากส่งกำลังมาช่วยก็ไม่ไกล นอกจากนี้พันธมิตรยินดีจ่ายเบี้ยเลี้ยงและอาหารการกินให้ โดยหากจะมาช่วยก็แค่ยืนตามจุด จุดละ 3-4 คน เพื่อป้องปรามผู้ที่จะมาทำร้าย แต่หากไม่ส่งมาช่วยก็ไม่เป็นไรสามารถช่วยตัวเองได้

-จำลองเมินสันติ-ปัดคุย4ฝ่าย

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มสาน เสวนาเพื่อยุติความรุนแรงเริ่มเจรจากับรัฐบาลนั้น ขณะนี้พันธมิตรยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา แต่พันธมิตรแสดงท่าทีในเรื่องนี้บนเวทีปราศรัยไปแล้ว ทั้งนี้พันธมิตรพร้อมเจรจา แต่ต้องเป็นกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและขับไล่รัฐบาลเพื่อนำมาสู่การเมืองใหม่ จึงเห็นว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีสองฝ่ายคือพันธมิตรกับรัฐบาล ไม่ใช่ 4 ฝ่ายแต่อย่างใด ฝ่ายอื่นไม่เกี่ยวอีก ทั้งผู้ที่ทำให้เราเดือดร้อนขณะนี้คือรัฐบาล ซึ่งหากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ติดต่อมาก็พร้อมพูดคุยโดยตลอดและอาจทำให้เกิดผลดีตามมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นายพิภพกล่าวว่า พันธมิตรไม่คิดในเรื่องนี้ เราต้องการเป้าหมายคือแก้ไขรัฐบาลและสร้างการเมืองใหม่ ส่วนคนอื่นจะทำอะไรก็เรื่องของเขา ขณะที่พล.ต.จำลองกล่าวเสริมว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและตั้งรัฐบาลรูปแบบใหม่ เราอาจเสนอสิ่งที่ได้ประชุมมา 7-8 ครั้ง อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลใหม่มีนายกฯ ชื่อนายสมชาย ก็รับไม่ได้ เพราะนายสมชายไม่มีความชอบธรรม ผิดจริยธรรม มีความผิดตามกฎหมาย หากวัดตามมาตรฐานสากลนายสมชายต้องออกไปหลายครั้งแล้ว

-ขู่โฟนอิน-แม้วอาจพลาดซ้ำอีก

เมื่อถามว่าอยากได้ยินอะไรหากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โทรศัพท์เข้ารายการความจริงวันนี้ นายพิภพกล่าวว่า อยากได้ยินพ.ต.ท.ทักษิณยอมรับผิด และเชื่อมั่นในระบวนการยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณสละสิทธิการต่อสู้ทางคดีและลี้ภัยในต่างประเทศ และต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณประกาศยุติบทบาททางการเมือง และไม่ใช้ตัวแทนเข้ามาบริหารบ้านเมืองเพื่อให้คดีของตัวเองหลุดพ้นด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องหยุดทำร้ายประเทศไทย หากพรุ่งนี้พ.ต.ท.ทักษิณพลาดก็จะพลาดไปตลอดกาลและถูกประณาม

"อย่างไรก็ตามผมมีจุดยืนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิที่จะออกมาพูดโดยใช้สื่อคลื่นของรัฐ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษที่ถูกตัดสินคดี จึงไม่สมควรให้คนผิดออกมาแก้ตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของหลักการที่สอดคล้องกับการแสดงความเห็นของพล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ." นายพิภพกล่าว

-เสธ.แดงชี้บึ้มปรามนักรบศรีวิชัย

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยถึงเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ บริเวณเขตรักษาความปลอดภัยของการ์ดพันธมิตร เมื่อช่วงตี 3 วันที่ 30 ต.ค.ว่า คงไม่สามารถระบุได้ว่ามือระเบิดเป็นกลุ่มใด แต่ขณะนี้มีหลายกลุ่มที่ไม่พอใจพฤติกรรมของแกนนำพันธมิตรและนักรบศรีวิชัย ซึ่งพร้อมจะปฏิบัติการให้กลุ่มพันธมิตร ออกจากทำเนียบรัฐบาล

"น่าจะมีคนจองกฐินเล่นงานพันธมิตรหลายกลุ่ม แต่ครั้งนี้น่าจะหนักกว่าทุกครั้งเพราะเป็นอาวุธสงคราม เป็นของจริง ผมมั่นใจว่าน่าจะเป็นระเบิด เอ็ม 67 เป็นลูกเกลี้ยง แบบขว้าง ระยะหวังผล 200-300 เมตร ซึ่งระเบิดรุ่นนี้มี 2 ขนาด ถ้าเป็นอเมริกันแท้ๆ จะลูกใหญ่ อีกรุ่นผลิตให้กับคนเอเชีย ให้เหมาะกับกำลังขว้างสู่เป้าหมาย ผู้ที่จะใช้ระเบิดประเภทนี้ได้ แค่ฝึกฝนวิธีถอดสลัก รู้น้ำหนักและระยะทาง รวมทั้งใจกล้าก็ทำได้" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

-ต่อไปอาจโดนด้วยเอ็ม79-อาร์พีจี

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เห็นการ์ดพันธมิตรกร่างมาตลอด แต่เจอของจริงอย่างนี้ก็เงียบไปเยอะ คนทำคงหวังสั่งสอนพวกการ์ดที่ทำตัวเป็นอันธพาล ไม่ได้หวังชีวิต ที่สำคัญเป็นการเตือนและสร้างความกลัวไม่ให้คนเข้ามาชุมนุมที่ทำเนียบ ทั้งนี้ เชื่อว่าคนที่จองกฐินงานนี้ต้องงัดอีกหลายวิธีการมาจัดการแน่ ต่อไปคงเจอระเบิด เอ็ม 79 หรืออาร์พีจี ที่ใช้ปืนยิงสู่เป้าหมาย ซึ่งระยะการยิงได้ระยะทางไกลกว่า 700 เมตร หรืออาจมีการเผารถที่จอดไว้แถวนั้น เพื่อสร้างความหวาดกลัว ให้ผู้ชุมนุมหวาดกลัว ไม่มาชุมนุม

"การจะยิงเข้าไปนั้น ไม่ใช่ยิงแบบสุ่มสี่สุ่มห้า โดนคนบริสุทธิ์หมด ถ้าคนคิดจะทำมันต้องดูพิกัดตรวจสอบจากกูเกิ้ลเอิร์ธ ตั้งศูนย์การยิงในตำแหน่งที่พอเหมาะ รับรองไอ้พวกนักรบศรีวิชัยที่กร่างๆ โดนแน่" พล.ต.ขัตติยะกล่าวและว่า ชายคนที่ถูกยิงอย่างปริศนาที่บริเวณถนนพิษณุโลก ติดกับบช.น.และเหตุระเบิดที่บ้านของนายจรัญ ภักดีธนากุล คงไม่ใช่กลุ่มเดียวกับที่ขว้างระเบิดกลุ่มพันธมิตร สองกรณีนี้เป็นพวกแขกไม่ได้รับเชิญ น่าจะมาแบบร่วมด้วยช่วยกัน" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

เมื่อถามว่ามีข่าวว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนักรบพระเจ้าตาก พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็น แต่ยอมรับว่าในการฝึกนั้น นอกจากฝึกท่าเตรียมอาวุธตามพื้นฐานแล้ว มีการขว้างระเบิดด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีบัญชีหนังหมาในสารบบของตำรวจ ฉะนั้นออกไปทำอะไรจะหวังผลได้อย่างสูง โดยเฉพาะเมื่อฝึกที่สนามหลวงแล้ว อยากแย่งกันไปปฏิบัติจริง

-นปช.ทำบุญให้แท็กซี่ต้านคมช.

เวลา 10.00 น. ที่เชิงสะพานลอยถนนวิภาวดี ฝั่งสำนักงานไทยรัฐ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กว่า 100 คน นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป จากวัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร มาสวดบังสุกุลและทำบุญกรวดน้ำ เพื่อรำลึกครบรอบ 2 ปี การเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ที่ผูกคอตายต่อต้านการรัฐประหาร และเปิดสะพาน "นวมทอง ไพรวัลย์" โดยนำสติ๊กเกอร์นายนวมทองไปติดตามตอม่อของสะพานลอยด้วย ทั้งนี้ นายพงศ์เทพ เทพ กาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาร่วมทำบุญครั้งนี้ด้วย

นายวีระกล่าวถึงการจัดงานความจริงวันนี้สัญจรที่สนามราชมังคลาฯ วันที่ 1 พ.ย.ว่า งานมีความพร้อมกว่า 90% แล้ว รวมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยเช่นกัน โดยจะตรวจอาวุธอย่างเข้มข้นทั้งทางเข้า-ออกที่มีอยู่ 8 ประตู และยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดคิวว่าใครจะพูดอะไร ส่วนที่กองทัพจับตาการโฟนอินครั้งนี้นั้น ตนยินดีเป็นอย่างยิ่ง และอยากเชิญชวนกองทัพมาร่วมรับฟังรายการครั้งนี้ด้วย เพราะกองทัพจะได้หูตาสว่างขึ้น

-แม้วโฟนอินสด-ส่วนหมักเปิดเทป

ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ จะมาร่วมรายการด้วยหรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ตนติดต่อนายสมัครตลอด และมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำเทปบันทึกเสียงของนายสมัครมาเปิดให้ผู้ชุมนุมฟังด้วย เพราะถือเป็นความตั้งใจของตนที่อยากให้ผู้ชุมนุมได้ยินเสียงของนายสมัคร

ด้านนายพงศ์เทพให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท. ทักษิณจะโฟนอินมายังรายการว่า ตนไม่ทราบว่าพ.ต.ท. ทักษิณจะโฟนอินมาหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับการยืนยันจากพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คงประสานไปยังผู้จัดรายการแล้ว ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณสามารถโฟนอินได้ เพราะถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีสิทธิ์แสดงออกเช่นคนไทยทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูด จะไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมา อย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายเกรงว่าหากพ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินเข้ามาจริง จะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยก นายพงศ์เทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยที่รักประเทศไทย เชื่อว่าหากจะโฟนอินเข้ามาด้วยความที่เป็นคนไทยที่รักประเทศไทย คงไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ

-เมินคำวอนรักในหลวงให้อยู่บ้าน

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองของไทยขณะนี้อย่างไร โฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้โทรศัพท์พูดคุย เพราะเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จึงไม่อยากนำเรื่องที่คนไทยเหนื่อยใจและเครียดไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณเครียดด้วย ตนจึงไม่เล่าและไม่สอบถาม เพราะอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเกิดความสบายใจ ส่วน ความคืบหน้าการขอลี้ภัยนั้น ตนไม่ได้สอบถาม เพราะแถลงข่าวไปแล้ว ข้อมูลเป็นไปตามที่พ.ต.ท.ทักษิณแถลง ส่วนความคืบหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาฯ นั้น ต้องถามทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ต่อข้อถามถึงกรณีนายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชาชูปถัมภ์ ระบุถ้ารักในหลวงให้ทุกคนอยู่กับบ้าน ไม่ต้องออกมาชุมนุม นายพงศ์เทพกล่าวว่า ยืนยันว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง ชุมนุมด้วยเจตนารมณ์ต่อต้านรัฐประหาร ที่สำคัญการชุมนุมดังกล่าวนี้ ชุมนุมกันไม่กี่ชั่วโมงก็กลับ ไม่ใช่พกอาวุธหรือปักหลักไปยึดสถานที่ราชการ

ส่วนการขว้างระเบิด และยิงกันตาย บริเวณใกล้กับสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรนั้น โฆษกของพ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า เชื่อว่าเป็นฝีมือของบุคคลที่ 3 และคงไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการสร้างสถานการณ์ เพราะฝ่ายพันธมิตรก็สูญเสียเช่นกัน แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจมีผลต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมที่สนามราชมังคลาฯ ที่อาจเกิดความลังเล โดยเฉพาะความปลอดภัย

-แม้วมาซุ่มฮ่องกงเตรียมโฟนอิน

รายงานข่าวจากอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า การจัดงาน "ความจริงวันนี้สัญจร" ในวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามราชมังคลาฯ นั้น ผู้จัดได้แบ่งสายในแต่ละภาคและแยกย่อยออกเป็นจังหวัดเพื่อขนคนเข้ามา โดยมีส.ส.และแกนนำของพรรคพลังประชาชนหรือพรรคไทยรักไทยเดิมเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับแกนนำในการวางแผนขนคนเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างนายยงยุทธ ติยะไพรัช และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส่วนนายเนวิน ชิดชอบครั้งนี้ขอถอนตัวและไม่มีส่วนร่วมดำเนินการ โดยตั้งเป้าตัวเลขของผู้มาร่วมงานอยู่ที่ 1 แสนคน อยู่ในตัวสนามประมาณ 6 หมื่นคน ที่เหลืออยู่บริเวณสนามหญ้าโดยรอบ ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานเป็นห่วงตัวเลขผู้มาร่วมงานที่มีจำนวนมาก และเกรงจะเกิดความวุ่นวาย โดยเฉพาะมีข่าวลือว่าจะมีมือดีเข้ามาสร้างความปั่นป่วน หรืออาจถึงขั้นปาระเบิดขวดหรือระเบิดเสียง เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานเกิดความแตกตื่นจนเกิดการเหยียบกันตาย คณะผู้จัดจึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ามาดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเขียนป้ายเข้า-ออก และจุดนัดหมายอย่างชัดเจน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณได้บินเงียบจากอังกฤษมาพักที่ฮ่องกง โดยเดินทางมาส่งบุตรชายและบุตรสาว คือนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย

-รมต.ยันไม่ถ่ายทอดความจริงวันนี้

นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และ อสมท กล่าวถึงพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.เป็นห่วงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. และเรียกร้องไม่ให้ใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองว่า วันเดียวกันนี้ตนสั่งการให้นายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการ ผอ.สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึงผบ.ทอ.ว่า วันที่ 1 พ.ย.นี้จะไม่มีการถ่ายทอดสดรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร" ครั้งที่ 2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และยืนยันว่ากรมประชาสัมพันธ์ โดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง เป็นธรรมรอบคอบ ไม่ได้เอนเอียง รวมทั้งจะไม่นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอย่างแน่นอน

ส่วนที่ผู้จัดรายการความจริงวันนี้ระบุจะตัดต่อนำเทปคำปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณในวันดังกล่าวมาออกอากาศทางเอ็นบีทีในภายหลังนั้น นายสุพลกล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์จะตรวจสอบถึงความเหมาะสมในเนื้อหาของเทปดังกล่าวก่อน หากมีเนื้อหาไม่เหมาะสม และอาจนำไปสู่ความแตกแยกความรุนแรงในสังคมมากขึ้น จะไม่อนุญาตให้นำมาออกอากาศได้

-ศาลฎีกาแพร่คำตัดสินจำคุกแม้ว

รายงานข่าวจากศาลยุติธรรมเปิดเผยว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์ถึงสื่อต่างประเทศโต้แย้งกระบวนการยุติธรรม หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุก 2 ปีคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกนั้น นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาแสดงความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าว โดยสั่งการให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ดำเนินการเผยแพร่คำพิพากษากลาง และคำพิพากษาส่วนตัวขององค์คณะคดีที่ดินทั้ง 9 คนผ่านทางเว็บไซต์ศาลฎีกา www.supremecourt.go.th เพื่อให้ประชาชนทั่วไปอ่านเพื่อสร้างความเข้าใจในเหตุผลการตัดสิน โดยเฉพาะคำพิพากษาส่วนตัวจะมีทั้งเสียงข้างมากที่ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ และเสียงข้างน้อยที่ตัดสินยกฟ้อง องค์คณะใช้เหตุผลตัดสินอย่างอิสระไม่มีใครแทรกแซง ซึ่งจะพิสูจน์ได้จากการอ่านคำพิพากษาส่วนตัว

"ขณะนี้ผู้พิพากษาต่างวิพากษ์วิจารณ์การตอบโต้คำพิพากษาคดีที่ดินฯ ของพ.ต.ท.ทักษิณกันมากว่า ศาล ยุติธรรมต้องปกป้องสถาบันศาลไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจากคำพูดของผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก แต่ศาลไม่มีหน้าที่ลงไปทะเลาะกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้พิพากษาในองค์คณะคดีที่ดินฯ บางคนเห็นว่า ศาลสมควรรอให้มีผู้เสียหายซึ่งอาจจะเป็นนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่นในคดีที่ดินฯ มาร้องให้ศาลพิจารณากรณีพ.ต.ท.ทักษิณละเมิดอำนาจศาลมากกว่าจะเหมาะสมกว่า" รายงานระบุ


-เก็บข้อมูลแม้วโฟนอินหมิ่นศาล

รายงานข่าวเผยต่อไปว่า ประธานศาลฎีกาแสดงความกังวลต่อเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็อยากให้สื่อระมัดระวังการนำเสนอข่าว เกี่ยวกับความเห็นหรือการนำถ้อยคำของพ.ต.ท.ทักษิณมาเผยแพร่ด้วย เพราะ สื่ออาจมีการกระทำเข้าองค์ประกอบดูหมิ่นผู้พิพากษาหรือละเมิดอำนาจศาลไปด้วยก็ได้ ดังนั้นสื่อควรพิจารณาเนื้อหาและศึกษากฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนตีพิมพ์อะไร รวมทั้งสื่อต้องคิดให้มากด้วยว่าสมควรให้ความสำคัญเผยแพร่ถ้อยคำพ.ต.ท.ทักษิณมากน้อยแค่ไหน เพราะอาจเป็นช่องทางกระพือความขัดแย้งในสังคม

"ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินเข้ามายังรายการความจริงวันนี้สัญจรนั้น เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกาได้เรียกผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้าหารือกรณีดังกล่าวด้วย โดยมีคำสั่งให้สำนักงานศาลยุติธรรมเตรียมรวบรวมเนื้อหาคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณในการพูดผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีการกล่าวถ้อยความพาดพิงสถาบันศาลในลักษณะดูหมิ่นผู้พิพากษาหรือเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพราะถ้ามีถ้อยคำพาดพิงหรือเข้าข่ายละเมิดต่อศาลก็จะมีการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม หรือดูหมิ่นผู้พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 33 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

-กก.สิทธิฯหวั่นม็อบเสื้อแดงวุ่น

เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายเสน่ห์ จามริก ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยน.พ. ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี นายสุรสีห์ โกศลนาวิน คุณหญิงอัมพร มีศุข กรรมการสิทธิฯ ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมด่วนเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ โดยนายเสน่ห์กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิฯ ห่วงว่าการถ่ายทอดเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณมายังการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันเสาร์ที่ 1 พ.ย.นี้ จะสร้างความสับสนให้กับสังคม จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ

เมื่อถามว่าการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณจะเกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายเสน่ห์กล่าวว่า เราห่วงว่าจะเป็นชนวนนำไปสู่เหตุบานปลาย จึงอยากเรียกร้องคนไทยทั้งประเทศช่วยกันทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและยับยั้งความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการควบคุมคนเป็นหมื่นเป็นแสน เจ้าหน้าที่รัฐคงทำได้ลำบาก อยู่ที่ความเข้าใจและความยับยั้งในจิตใจของผู้ชุมนุมด้วย หากควบคุมไม่ได้จะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงมากกว่าวันที่ 7 ต.ค. เพราะครั้งนี้มีความตั้งใจให้มีการเผชิญหน้ากัน

-วอนนายกฯสั่งยุติชุมนุม-ยังทัน

ด้านน.พ.ประดิษฐ์กล่าวว่า สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นสถานที่ราชการ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทางราชการจึงไม่น่าเอาการเมืองไปแทรกแซงและไม่ควรอนุญาตให้มีการชุมนุมที่แห่งนี้ อยากเรียกร้องให้คนไทยตั้งอยู่บนอุเบกขา คิดการใดๆ ที่เป็นคุณต่อประเทศ อย่าให้เกิดความเดือดร้อนหรือหายนะล่มจมต่อแผ่นดินเป็นอันขาด สิ่งใดไม่ควรทำควรยุติ ขอฝากนายกฯ ว่าควรสั่งให้ยุติการชุมนุมของ นปช.ในวันที่ 1 พ.ย.เพราะทุกคนเป็นห่วงว่าบ้านเมืองจะเดือดร้อน เหลือเวลาอีก 1 วันที่นายกฯ จะระงับในสิ่งใดๆ ที่จะเป็นโทษต่อแผ่นดินได้ ยังมีเวลาทัน

น.พ.ประดิษฐ์กล่าวว่า เวลา 19.00 น.วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้มาให้คำชี้แจงถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ถือว่านายกฯ กรุณาเดินทางมาตามข้อบังคับของพ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายกฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด น่าชื่นชมมาก ซึ่งการชี้แจงของนายกฯ ไม่สามารถเปิดเผยได้

นายเสน่ห์กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับจากนายกฯ จะนำมาประกอบการพิจารณา อยากให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ เพราะเรื่องนี้ละเอียดอ่อน จะทำให้สังคมเข้าใจทุกอย่าง และกรรมการสิทธิฯ ต้องให้ความเป็นธรรมและความถูกต้องต่อทุกฝ่ายด้วย

ด้านนายสุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. กล่าวว่า ผลการสอบสวนมีความคืบหน้าไปกว่า 60% แต่ยังต้องสอบอีกหลายปากคำ โดยเฉพาะตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม วันนี้เราเชิญฝ่ายสรรพาวุธทหารจากกองทัพอากาศมาอธิบายเกี่ยวกับอาวุธ และระเบิดแก๊สน้ำตาที่ใช้ในกองทัพอากาศ เพื่อเทียบเคียงอานุภาพ และอาวุธที่ใช้ในที่เกิดเหตุอีกหลายประเภท ซึ่งจะพิจารณาประกอบกับผลการสอบทางนิติเวชของพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้อนุกรรมการเห็นว่าข้อมูลยังไม่ครอบคลุมและยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด คาดว่าภายในเดือนพ.ย.น่าจะได้ข้อสรุป

-40ส.ว.หวั่นสงครามกลางเมือง

เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดยนายสมชาย แสวงการ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายตวง อันทะไชย นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา และนายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสมชายกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา เป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลต้องสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ควบคุมเหตุการณ์โดยปราศจากความรุนแรง แต่ถ้าผู้สั่งการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติละเลย ทางคณะกรรมาธิการจะดำเนินคดี เพราะถือว่ากระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 และหากตำรวจไม่ยอมดำเนินการใดๆ จะระงับเหตุรุนแรงได้ อยากให้ทหารออกมาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 188 และตามพ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาตรา 4 แต่ยืนยันว่าไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดการปฏิวัติ เพียงแต่สนับสนุนให้ทหารออกมาปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

นายประสารกล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. ถือว่าหมิ่นเหม่ หากมีอะไรเกิดขึ้นถือว่าการโฟนอินเข้ามาเพื่อเอื้อให้เกิดความรุนแรงและทำให้สังคมแตกแยก กลายเป็นสงครามทางการเมือง เพราะทั้ง 2 ฝ่ายไม่เชื่อในอำนาจรัฐ จึงตั้งกองกำลังของตนเองขึ้นมา เพื่อปกป้องฝ่ายของตนเอง สถานการณ์เช่นนี้คนที่อยู่ตรงกลางอาจถูกลูกหลงได้ จากผลของความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้รัฐบาลตระหนักถึงประชาชนที่ไม่มีส่วนรู้เห็น

-สธ.เตรียมพร้อมรถพยาบาล-ร.พ.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน ในกทม.วันที่ 1 พ.ย.ว่า ได้มอบหมายให้น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และน.พ.สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย รักษาการผอ.ศูนย์นเรนทร ประสานสั่งการเตรียมพร้อมทีมกู้ชีพฉุกเฉิน จากโรงพยาบาลในกทม. และแถบ ปริมณฑล พร้อมรถพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ครบครัน ประมาณ 20 ทีม และบุคลากรพร้อมออกปฏิบัติการช่วยผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินทุกคนทันทีเมื่อได้รับการประสานงาน โดยร่วมงานกับศูนย์เอราวัณของกทม. อย่างใกล้ชิด หากผู้บาดเจ็บมีจำนวนมาก สามารถระดมทีมเพิ่มได้อีกตามความจำเป็น

ด้านน.พ.ปราชญ์ กล่าวว่า การรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ได้จัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉิน 3 ทีม ประจำการที่รอบๆสนามราชมังคลาฯ ร่วมกับกทม. และให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ 10 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลนครปฐม โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลสมุทรสงคราม และโรงพยาบาลสระบุรี เตรียมความพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ และบุคลากรอื่นๆ คลังเลือด ห้องผ่าตัด และสำรองเตียงว่างไว้ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายใดๆ

-นครบาลโต้ไม่มีบึ้มพธม.ซ้ำ

เวลา 11.20 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. และโฆษกบช.น. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่าเกิดเหตุคนขับรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน 4444 ขับมาปาระเบิดที่วัดมกุฏกษัตริย์ ใกล้สะพานมัฆวาน เมื่อตอนตี 2 วันนี้ว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว มีเพียงเว็บไซต์ผู้จัดการเสนอขึ้นมา จากการตรวจสอบไม่พบเหตุดังกล่าว สำหรับทะเบียนรถกำลังตรวจสอบอยู่ไม่รู้หมวดอักษร มีเพียงตัวเลข 4444 เท่านั้น จากรายงานไม่มีเข้ามา พบเพียงเสียงประทัดเล็กๆดังขึ้นมาเพียง 1 นัดเท่านั้น อาจเป็นการก่อกวนให้เกิดความหวาดกลัว ยืนยันไม่ใช่การปาระเบิด ส่วนเหตุการณ์ปาระเบิดวันที่ 30 ต.ค.ที่สะพานมัฆวาน อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและผลพิสูจน์กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ พร้อมประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากหน่วยงานต่างๆใกล้ที่เกิดเหตุ ต้องฝากขอร้องให้ช่วยเปิดกล้องวงจรปิดที่มีการเอาสิ่งของไปปิดบังไว้ด้วย เพื่อช่วยเป็นหูตาระวังคนที่คิดไม่ดีมาก่อเหตุ

พล.ต.ต.สุพรกล่าวต่อว่า บช.น.เพิ่มมาตรการจุดด่านตรวจค้นพิเศษ อีกส่วนหนึ่งจากที่มีอยู่เดิมมอบหมายให้ผบก.น.1 รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ที่มีการชุมนุม รวมถึงการจัดงานความจริงวันนี้สัญจรต้านเผด็จการ วันที่ 1 พ.ย.ที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วย ให้ตั้งจุดตรวจพิเศษ ส่วนจะร้องขอกำลังทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น รองผบช.น.กล่าวว่า วันที่ 1 พ.ย.จะสรุปได้ เนื่องจากตำรวจมีภารกิจหลายอย่างทั้งภารกิจซ้อมริ้วขบวนฯ วันที่ 2 พ.ย.ด้วย ถ้าล้นมือจริงก็ต้องร้องขอมาช่วย ทหาร ตำรวจประสานกันตลอดเวลาอยู่แล้ว

-มาร์คอยากเห็นแม้วโฟนอินรับผิด

ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พ.ย.ว่า หวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดความจริง สารภาพผิดว่าตัวเองทำอะไรลงไปและยอมรับคำสั่งของศาลที่พิพากษาให้จำคุก หากเป็นเช่นนี้ เชื่อว่าปัญหาต่างๆน่าจะยุติ สถานการณ์จะคลี่คลาย ตนจะรอดูท่าทีของรัฐบาลเพราะเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พูดในสภาว่ามาจากกระบวนการยุติธรรม ต้องปกป้องกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น ถ้าปล่อยให้คนที่ศาลตัดสินว่ากระทำผิดมาให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมแล้วยังเพิกเฉย คงต้องพิจารณาถึงมาตรการจะดำเนินการต่อไป

"ถ้าคิดถึงประเทศชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรพูดความจริง โฟนอินเข้ามาบอกว่าบัดนี้รู้แล้วว่าทำผิดไป และจะทำใจมารับผิด ขอให้ทุกคนสงบยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ดีที่สุด ถ้าคิดถึงบ้านเมืองต้องพูดอย่างนี้ ถ้าพูดเป็นอื่นแล้วสร้างความขัดแย้งก็แปลว่าคิดถึงแต่ตัวเอง" นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ พรรคได้เตือนมาตลอด ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายกฯจึงปล่อยไปเรื่อยๆ แล้วคิดว่าปัญหาจะดีขึ้น ในเมื่อเห็นชัดเจนว่ามีแต่ความเสี่ยงที่จะเลวลง

ส่วนที่ตำรวจระบุอาจมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นได้อีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกวันมีแต่ความเสี่ยง แต่นายกฯยังเฉย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงพอใจกับการที่ประเทศและชีวิตของประชาชนเสี่ยงเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายเหมือนที่หลายคนวิตกกัน ทั้งนี้ ต้องเร่งรัดองค์กรต่างๆที่สอบสวนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ให้เร่งสรุปผล เพราะประชาชนต้องการเห็นความรับผิดชอบ เชื่อว่าจะคลี่คลายเงื่อนไขความขัดแย้งลงได้

-ปชป.เสนอ4แนวทางยุติวิกฤต

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค แถลงว่า พรรคมีข้อเสนอ 4 ข้อคือ 1.ขอให้รัฐบาลลดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ต้องไม่สนับสนุนกลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหวทั้งต่อหน้าและลับหลังโดยเฉพาะการชุมนุมวันที่ 1 พ.ย. ลดเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 2.ให้กลุ่มพันธมิตรลดเงื่อนไขความขัดแย้งและเข้าร่วมเจรจา 3.ขอให้พรรคร่วมสนับสนุนเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก่รัฐบาล และ 4.รายการความจริงวันนี้ฯในวันที่ 1 พ.ย. ควรลดหรือตัดการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ

"หากมีการโฟนอินเข้ามาจริง พ.ต.ท.ทักษิณจะมีข้อเสนอใดแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดแย้ง ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวโดยตั้งคำถามถึงคนอื่น โทษคนนั้นคนนี้ แต่ไม่เคยบอกว่าคิดอย่างไรต่อทางออกของวิกฤต ขอเรียกร้องสำนึกของอดีตนายกฯและคนไทยคนหนึ่ง หากรักประเทศชาติจริง พ.ต.ท. ทักษิณจะมีข้อเสนอเพื่อประเทศชาติและประชาชน เป็นทางออกวิกฤตได้" นายสาทิตย์กล่าว

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณคลี่คลายสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาลนายสมชายและกลุ่มเคลื่อนไหว เป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำให้เกิดสถานการณ์ขึ้น เมื่อถามว่าได้กลิ่นอายของรัฐประหารหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ฝ่ายทหารยืนยันตลอดว่ามีความพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติจริง ฉะนั้นต้องยอมรับข้อเรียกร้อง ลดเงื่อนไขความขัดแย้ง จะช่วยลดเงื่อนไขการรัฐประหาร วันที่ 1-2 พ.ย. พรรคจะมีทีมติดตามสถานการณ์อยู่ที่พรรค พร้อมแสดงท่าทีในแต่ละช่วงเวลาที่เหตุการณ์มีปัญหา

-โรงเรียนรอบม็อบพร้อมปิดหนี

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายนาวี ยั่งยืน ผอ.ร.ร.มัธยมวัดเบญจมบพิตร เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนจะติดตามสถานการณ์ในวันที่ 1 พ.ย.อย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มว่าเหตุการณ์จะลุกลามเกิดความรุนแรง โรงเรียนจะประกาศปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. โดยจะแจ้งให้นักเรียนและผู้ปกครองทราบผ่านทางเว็บไซต์ของโรงเรียนและแจ้งผ่านสื่อ แต่หากทุกอย่างเป็นปกติ โรงเรียนจะเปิดเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนได้เตรียมแผนและซักซ้อมความเข้าใจเรียบร้อยแล้วว่า หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นระหว่างวันเปิดเรียน จะดูแลนักเรียนอย่างไร ทั้งนี้ ยอมรับว่านักเรียนได้รับผลกระทบจากการปิดถนนของกลุ่มพันธมิตร นักเรียนต้องลงรถและเดินเท้าเข้ามาเป็นไกลพอสมควร ฉะนั้น โรงเรียนจึงอนุโลมให้นักเรียนมาสายได้ไม่เกิน 1 คาบ

น.ส.เฟื่องฟ้า ประดิษฐพจน์ ผอ.ร.ร.สตรีวิทยา กล่าวว่า ร.ร.สตรีวิทยามีกำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 3 พ.ย.นี้ แต่จะรอดูสถานการณ์ในวันที่ 1 พ.ย.ก่อน แล้วค่อยประเมินว่าจำเป็นต้องเลื่อนวันเปิดภาคเรียนออกไปหรือไม่ หากเลื่อนวันเปิดเทอมออกไปจริง จะแจ้งผ่านเว็บไซต์ของโรงเรียน และแจ้งผ่านสื่อ ซึ่งได้นัดหมายกับนักเรียนไว้อยู่แล้วให้ติดตามข่าวสารผ่านเว็บไซต์

นายนพพล เหลาโชติ ผอ.ร.ร.วัดมกุฏกษัตริยาราม กล่าวว่า เปิดเทอมมาตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.แล้ว และยังไม่ได้มีการประกาศหยุดเรียน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมีแนวปฏิบัติสำหรับรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น โรงเรียนจะให้เด็กอยู่ในร.ร. แล้วประสานให้ผู้ปกครองมารับกลับ

-ศาลรธน.ถกรับมือโดนขู่

เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ โดยมีนายชัช ชลวร ประธานคณะตุลาการเป็นประธานในที่ประชุม โดยมีตุลาการเข้าร่วมประชุม 8 คน ขาดเพียงนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ที่ลาการประชุมเพื่อไปตรวจสุขภาพตามที่นัดหมายไว้ก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิรักษ์ ทรงศิริวิไล ผอ.สำนักอำนวยกิจการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลประจำจุดบริเวณทางขึ้นลงของตุลาการรัฐธรรมนูญ และห้ามให้บุคคลอื่น และสื่อมวลชนนอกเหนือจากข้าราชการของสำนักงานศาลเดินผ่านไปมาอย่างเด็ดขาด

ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง คณะตุลาการได้จัดทำเอกสารแถลงข่าว ระบุว่า จากการประชุมตุลาการนัดพิเศษว่าด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยของศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมเห็นควรให้สำนักงานศาลดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2517 และระเบียบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2543 โดยให้รักษาความปลอดภัยทุกด้านอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านบุคคล รวมทั้งอาคารสถานที่ทำการ ที่พักอาศัย และเอกสาร โดยการประสานกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจตราโดยค้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหมายและสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและสถานที่ การติดตั้งตู้แดง และสัญญาณเตือนภัย


-ยันทุกตุลาการไม่หวั่นไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุม ได้มีกลุ่มบุคคลที่ระบุว่ามาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมามอบแจกันดอกไม้ให้กำลังใจนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการที่ถูกปาระเบิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. โดยนายจรัญออกมารับด้วยตัวเอง ทั้งนี้เวลา 15.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่จากกทม.มาตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณรั้วของสำนักงานศาล แล้วพบเห็นห่อกระดาษจำนวน 2 ห่อ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระราชวังมาตรวจดู แต่ปรากฏว่าเป็นห่อมูลสุนัขที่มีคนนำมาทิ้งไว้เท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมตุลาการได้หารือถึงประเด็นการถูกข่มขู่คุกคาม แต่ตุลาการทั้งหมดไม่ได้กังวลหรือหวั่นไหว เนื่องจากทำหน้าที่เป็นตุลาการกันแทบทั้งชีวิต และหากกลัวการข่มขู่คงไม่สามารถทำหน้าที่ตุลาการได้ โดยไม่มีตุลาการคนใดร้องขอการอารักขาความปลอดภัยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามที่ประชุมเป็นห่วงความปลอดภัยของสำนักงานศาลมากกว่า โดยเฉพาะเอกสารหลักฐาน ข้อมูลที่จะใช้พิจารณาคดี จึงกำชับให้สำนักงานประสานงานกับตำรวจให้มาก

-พธม.ปิดถนนเพิ่ม-ตั้งป้อมค่าย

เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตร ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า มีผู้ชุมนุมทยอยเข้ามาในทำเนียบอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่จากจังหวัดต่างๆ เพื่อสมทบกับผู้ชุมนุมที่มาถึงแล้ว นอกจากนี้ บนเวทีมีการจัดรายการข่าว สลับดนตรีและรายการธรรมะ ระหว่างนี้พิธีกรบนเวทีได้ประกาศให้แนวร่วมพันธมิตรที่อยู่ตามต่างจังหวัดให้รีบเดินทางมาสมทบที่ทำเนียบ โดยได้จัดรถบัสและรถตู้ไว้ให้ เพื่อมาร่วมกันปกป้องทำเนียบรัฐบาลไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่การชุมนุมทำเนียบนั้น วันนี้การ์ดพันธมิตรได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งโล่ กระบอง ไม้กอล์ฟ พร้อมจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วตระเวนดูรอบทำเนียบ และจัดกำลังไว้ทุกจุดบริเวณทางเข้าออก โดยเฉพาะบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมและเคยถูกกลุ่มไม่หวังดีปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตร จนได้รับบาดเจ็บหลายราย ได้นำยางรถยนต์และลวดหนาม มาวางเสริมของเดิมจำนวนมาก พร้อมทั้งทำตาข่ายกั้นสูงประมาณ 5 เมตร เพื่อป้องกันหนังสติ๊ก และปาระเบิดเข้ามา

นอกจากนี้ การ์ดพันธมิตรยังได้ปิดเส้นทางจราจรถาวรอีกหลายจุดรอบทำเนียบ อาทิ บริเวณเส้นทางเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ที่ผ่านวัดโสมนัส และวัดมกุฏกษัตริย์ โดยนำยางรถยนต์ และรั้วเหล็กมากั้นไว้ห้ามรถทุกชนิดผ่าน รวมทั้งจักรยานด้วย ทำให้ประชาชนที่เคยใช้เส้นทางดังกล่าวเดือดร้อนอย่างหนักต้องเดินอ้อมไปไกล และผู้ปกครองไม่สามารถขับรถเข้ามารับนักเรียนได้ ส่วนบริเวณด้านหน้าสำนักงานสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก การ์ดพันธมิตรได้นำยางรถยนต์มากั้นไว้เช่นกัน ส่วนด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ได้ปิดเส้นทางถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกวัดเบญจมบพิตร ไปจนถึงแยกนางเลิ้งฯตลอดเส้นทางรถทุกชนิดห้ามผ่าน

-แม่ทัพ1จัดชุดตามพธม.-นปช.

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึง การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ยังไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ส่วนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ แถลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นเครื่องชี้ให้เห็นอะไรหลายอย่าง ขณะนี้กองทัพภาคที่ 1 จัดชุดติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มแนวร่วม นปช. เพื่อเฝ้าดูแลแนวโน้มเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว หากมีสถานการณ์ที่จะเกิดความรุนแรง กองทัพพร้อมออกไปปฏิบัติตามแผนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจกรณีที่มีการร้องขอมา

เมื่อถามว่าพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช. พล.ท.คณิต กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เน้นย้ำการดูแลไม่ให้เกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการจัดชุดนอกเครื่องแบบเพื่อหาข่าว รวมถึงการผลักดันให้ตำรวจนครบาลเพิ่มมาตรการดูแลความเรียบร้อยให้มากขึ้นด้วย ส่วนกองทัพเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมใหญ่ของนปช.หรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องจับตามอง รวมถึงการจับตามองการเคลื่อนไหวหรือเดินทางของประชาชนเข้ามาในพื้นที่กทม. เท่าที่ติดตามดูประชาชนเดินทางเข้ามาในกทม.ไม่มากเท่าที่ควร

-ขอเครื่องตรวจบึ้มจากใต้มากทม.

เมื่อถามว่าคนร้ายพยายามนำอาวุธสงครามและระเบิดมาใช้ กองทัพมีมาตรการป้องกันอย่างไร พล.ท.คณิต กล่าวว่า กองทัพติดตามดูอยู่แล้ว และเราได้รับเครื่องมือพิเศษตรวจจับวัตถุระเบิดที่ใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรวจในพื้นที่กทม.

เมื่อถามว่าหากพันธมิตรและนปช.ปะทะกัน ทางกองทัพจะออกไปปฏิบัติการช่วงไหน พล.ท.คณิต กล่าวว่า กองทัพมีแผนเตรียมการไว้อยู่แล้ว เพราะเราเคยได้รับบทเรียนมา ซึ่งเหตุการณ์วันที่ 1 พ.ย.จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ส่วนเหตุการณ์ระเบิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 30 ต.ค. เป็นพวกก่อกวน ถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เรานึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้

เมื่อถามว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุหวังอะไร พล.ท. คณิต กล่าวว่า ที่แน่ๆ กลุ่มคนร้ายต้องการทำให้เกิดรุนแรงขึ้นมาอีก เพราะสังเกตคนร้ายพยายามก่อเหตุหลายจุด โดยคนร้ายเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจืดจาง เบาบางลง กลุ่มคนร้ายพยายามเป็นตัวเร่งให้เกิดการปะทุกันขึ้นมาอีก เท่าที่ตนวิเคราะห์ดูคือเมื่อกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนไหวซาลง และกลุ่มนปช.ไม่เคลื่อนขบวนมา ทำให้ดูเหมือนห่างกัน เลยทำให้มีกลุ่มก่อกวนเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอีก

-การข่าวแฉจะมีเอ็ม79ถล่มพธม.

เมื่อถามว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มมือที่สาม พล.ท.คณิต กล่าวว่า จะกำหนดเป็นกลุ่มมือที่สามคงไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ตนจะใช้คำว่ากลุ่มก่อกวน จะสังเกตให้ดีเหตุการณ์ระเบิดที่ตู้โทรศัพท์ ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก หรือที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ แต่จะเป็นพวกไหนหรือกลุ่มไหนมันไม่ชัดเจนจะชี้ออกมาชัดๆ คงไม่ได้ แต่เหตุการณ์ทั้ง 2 มันเชื่อมโยงกัน เป็นพวกเดียวกัน

เมื่อถามว่ากลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า เราเฝ้าระวังอยู่ โดยเฉพาะคนที่มาเรียนในกทม. แต่ที่เป็นตัวฮาร์ดคอร์จากพื้นที่ภาคใต้ที่ขึ้นมาในกทม. ยังไม่ได้ข่าวที่ชัดเจน แต่ถ้าพวกนี้ขึ้นมาจริงคงจะหลงเส้นทางเนื่องจากไม่มีความชำนาญ

แหล่งข่าวกองทัพ เปิดเผยว่า หน่วยการข่าวทหารรายงานว่าเหตุระเบิดที่บริเวณสะพานมัฆวาน ซึ่งเป็นเต็นท์ที่พักของนักรบศรีวิชัยนั้น ผู้ลงมือได้วางแผนเป็นยุทธศาสตร์ เพราะใช้อาวุธระเบิดหวังสังหาร โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยเป็นเครือข่ายของนายทหารระดับยศนายพล ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในเวลานี้ ทั้งนี้ หน่วยข่าวรายงานว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าว ต้องการสร้างความหวาดกลัวให้กลับผู้มาชุมนุม เพื่อต้องการให้ประชาชนมาชุมนุมลดน้อยลงไป ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวมีแผนจะลอบวางเพลิงเผารถของกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งการใช้อาวุธระเบิดเครื่องยิงเอ็ม 79 เข้าไป เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ชุมนุม

-พธม.จะทอดผ้าป่าซ่อมพระถูกทุบ

นายธณัท ประทุมแดง หรือกำนันเชษฐ กำนันตำบลบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีพันธมิตรฯชลบุรีบุกวัดโดยกดดันให้ทุบทำลายรูปปั้นนักการเมืองที่อยู่บนฐานพระประธานว่า สถานการณ์ในวัดขณะนี้ปกติ ไม่มีกลุ่มพันธมิตรเดินทางเข้ามา มีเพียงชาวบ้านทั่วไปเข้ามาไหว้พระทำบุญตามปกติ แต่เบื้องต้นได้จัดกำลังอปพร.ดูแลรักษาความสงบเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน แต่เชื่อว่าไม่น่ามีเหตุการณ์อะไร ทั้งนี้คณะกรรมการวัดได้นำป้ายประกาศมาติดทางเข้า-ออกของพระอุโบสถ มีเนื้อหาว่าวัดได้ทุบทำลายรูปปั้นของนักการเมืองทั้งหมดแล้ว ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพระอุโบสถ ในส่วนของเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมีกำลังใจดี ไม่หวั่นเกรงว่าจะมีใครมาทำร้าย ยังปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ส่วนฐานพระประธานที่ได้รับความเสียหาย กลุ่มพันธมิตรสัญญาว่าจะนำผ้าป่ามาทอดถวายเพื่อซ่อมแซม แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นวันและเวลาใด คงต้องรอการติดต่อเข้ามาอีกครั้ง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นถือว่าจบลงแล้ว วัดไม่ได้มีเจตนาหรือฝักใฝ่การเมือง เป็นเพียงจินตนาการของช่างปั้นที่อยากเล่าเรื่องราวและเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น

-พัชรวาทขอทหารมาเสริมกรุง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่สนามราชมังคลาฯวันที่ 1 พ.ย.ว่า จากการประเมินคาดว่าน่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมีกำลังรักษาความปลอดภัย 8 กองร้อย ซึ่งคิดว่ากำลังไม่เพียงพอ จึงได้คุยกับทางพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขอความร่วมมือกำลังทหารมาร่วมรักษาความปลอดภัยในฐานะเจ้าพนักงาน ซึ่งได้สั่งให้ทาง บช.น. ไปประสานในรายละเอียด ว่าจะต้องใช้กำลังเท่าไหร่ ให้ทหารและตำรวจอยู่จุดไหนอย่างไร ซึ่งทางผบ.ทบ. ก็ตกลงจะส่งกำลังมาช่วยดูแล ประชาชนจะได้มีความอุ่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่มีอะไรบานปลาย เพราะเป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธทั้ง 2 กลุ่ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.เป็นห่วงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นชนวนเหตุของความรุนแรง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์กันไปเอง ยังไม่รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะพูดอะไร อาจจะเป็นเชิงบวกก็ได้ อย่าไปประเมินในสิ่งที่ไม่ดีไว้ก่อน ให้ประเมินในสิ่งที่ดีๆ ตนคิดว่าคนไทยด้วยกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

"ยอมรับว่ามีความกังวลกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมันมองได้หลายประเด็น สรุปได้ยาก ในฐานะตำรวจก็ต้องพยายามป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้น ขณะนี้เราใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ามีเหตุจำเป็นกำลังเราไม่พอ และยังเกิดเหตุลักษณะนี้ผมเชื่อว่า จะต้องขอความร่วมมือจากทางทหารมาร่วม โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน ซึ่งต้องเน้นการตั้งจุดตรวจ ส่วนจะเมื่อไหร่ที่จะให้ทหารเข้ามาช่วย ก็ต้องหารือกัน ขณะนี้เหตุการณ์สถานการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลให้สุดความสามารถก่อน ประเมินสถานการณ์ให้ดี ถ้าไม่ไหวก็ขอกำลังจากทหาร" ผบ.ตร.กล่าว

-เซ็นตั้งทีมล่าเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลว่าเหตุการณ์ระเบิดจะบานปลายไปในพื้นที่อื่นๆหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า กังวลก็กำชับให้ทางนครบาลตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน ในจุดที่มีความสำคัญให้มากที่สุด ตำรวจจะทำให้ดีที่สุดในการควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ตนเองเข้าใจว่าตอนนี้ทุกคนกังวลกับเหตุการณ์ว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ถ้าเรามองในแง่ดีไว้บ้างเราก็จะเกิดความสบายใจ ตำรวจก็จะทำอย่างเต็มที่

นอกจากนี้พล.ต.อ.พัชรวาทลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 723 /2551 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. เป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาข่าวสาร ที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปรากฏในเว็บไซต์ และสถานีวิทยุชุมชนหรือที่ได้รับแจ้งจากประชาชน หรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังมีอำนาจในการเชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมพิจารณาหารือร่วมกับคณะกรรมการ รวมทั้งขอข้อมูล เอกสาร จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ และดำเนินการตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ประชาชน หรือหน่วยงานต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าว ได้ที่เว็บไซต์ www.htcc.ict.police.go.th โดยเข้ากรอกรายละเอียดในหัวข้อ แจ้งเว็บผิดกฎหมาย หรือแจ้งทางศูนย์เอกภพ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หมายเลขโทรศัพท์ 0-2241-2111

-วีระยันฝนตกฟ้าร้องมีชุมนุมแน่

เวลา 14.15 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก นายวีระ มุสิกพงศ์ พร้อมด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ร่วมกันแถลงความพร้อมการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 2 โดยนายวีระ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง หรือแผ่นดินไหว ยังคงจัดรายการต่อไป ส่วนการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ไม่ต้องห่วง ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ จะให้ใช้เวลาตามสบาย ไม่ใช่การเซย์ฮัลโหลหรือถามตอบ แต่ไม่ยืดยาวเกินไป คาดว่าน่าจะเป็นช่วงค่ำตอนที่ตนขึ้นเวที นอกจากนี้ตนประสานนายสมัครเพื่อให้โฟนอินมาเช่นกัน ซึ่งน่าจะใช้เวลา 10 นาที ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลกรณีพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามานั้น เป็นการมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เพราะยังไม่รู้ว่าพ.ต.ท. ทักษิณจะพูดอะไรก็ปลุกระดมกันแล้ว ขอให้รอฟัง ยืนยันไม่มีอะไรต้องห่วง ส่วนกองทัพเป็นห่วงนั้น ทำไมไม่ห่วงเอเอสทีวีบ้าง ทำเป็นหูหนวก ตาบอดกันหมด

"การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง เพราะท่านเคยพูดตอนที่อยู่อังกฤษว่า อยากขอโฟนอินมายังคนเสื้อแดง เมื่อสื่อมาถามผมก็บอกถ้าโฟนอินได้ก็ดี เพราะท่านเป็นคนไทย เลยกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ขอเรียนว่าท่านพูดในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่รู้สึกถึงรสชาติความไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการทำรัฐประหาร และผมเชื่อมั่นในวุฒิภาวะของท่านว่าจะพูดแต่ความสร้างสรรค์ ไม่พูดจาเพื่อทำลายบ้านเมือง" นายวีระกล่าว

-ยันหลังงานเลิก4ทุ่มแยกย้ายกลับ

เมื่อถามว่าหลังวันที่ 1 พ.ย. หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง นายวีระ กล่าวว่า ตนคิดตรงกันข้าม คิดว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ ไปสู่นิติรัฐตามระบอบประชาธิปไตย ยืนยันว่าหลังเลิกงานตอน 4 ทุ่ม ทุกคนจะกลับบ้าน จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน เราชุมนุมกันเพื่อแสดงพลังต่อต้านการปฏิวัติ และแสดงให้เห็นว่าการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ชุมนุมสันติ ไม่ไปยึดสถานที่ราชการ เขาทำกันอย่างไร และต้องการสื่อไปยังกลุ่มพันธมิตรว่าควรเกรงใจคนไทยส่วนใหญ่บ้าง หรือหากมีกลุ่มคนเสื้อแดง ไปนู่นไปนี่ ถือว่าอยู่นอกเหนือการควบคุม เพราะกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะนปช.มีหลายกลุ่ม

เมื่อถามว่าในงานจะมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่หรือแฉอะไรหรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า เราไม่มีเป้าหมายอย่างนั้น หากจะมีใครพูดก็แล้วแต่บุคคล และหากงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ อาจจัดต่อเดือนละครั้ง

เมื่อถามถึงกลุ่มส.ส.เพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน สกัดคนไม่ให้มาร่วมชุมนุม นายวีระกล่าวว่า จากการสอบถามส.ส.กลุ่มนี้ ต้องการให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมปลอดจากการเมือง ไม่ต้องการให้โยงว่านักการเมืองขนคนมาและประชาชนที่จะมา ได้ตัดสินไว้ล่วงหน้าก่อนมาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการขนคนมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน ใครที่รักประชาธิปไตยก็มาได้

-ล่าสุดหมักตอบรับโฟนอินสด

ด้านนายจตุพร กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยว่า จะมีตำรวจและองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง มาร่วมรักษาความปลอดภัยกว่า 1,500 คน ตรวจทั้งด้านในสนาม และโดยรอบสนาม ตั้งแต่ตี 3 คืนนี้ ถึงเวลา 8 โมงเช้า มีการติดตั้งวงจรปิดทั่วบริเวณ ตรวจอาวุธทุกจุด โดยเฉพาะประตูทางเข้าสนามทั้ง 8 ประตู จะตรวจอาวุธแบบสนามบิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานจะเปิดให้ประชาชนมาจับจองที่นั่งตั้งแต่เวลา 08.00 น. และจะปิดงานในเวลา 22.00 น. ทั้งนี้ งานจะเริ่มอย่างเป็นทางการในเวลา 13.00 น. โดยเริ่มจากพราหมณ์จากจ.นครศรีธรรมราช ทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งผู้ทำลายประชาธิปไตย จากนั้นจะมีบุคคลขึ้นเวทีปราศรัย สลับการร้องเพลงเพื่อให้ความบันเทิง อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายจักรภพ เพ็ญแข และจะปิดท้ายด้วยนายวีระ โดยจะมีการโฟนอินทั้งจากพ.ต.ท.ทักษิณและนายสมัคร

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีพ.ต.ท.ทักษิณที่จะโฟนอินนั้น หากติดต่อโฟนอินไม่ได้ จะใช้วิธีการอัดวีซีดีภาพและเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อฉายผ่านจอโปรเจ็ก เตอร์ให้แก่ผู้ชุมนุมแทน ขณะที่นายสมัครมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นการพูดสดผ่านโทรศัพท์เข้ามา

-ทั้งพธม.-นปช.จากตจว.แห่เข้ากรุง

จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงเช้าสมาชิกพันธมิตรมารวมตัวกันที่ร้านข้าวต้มนายตี๋ โรงแรมเมืองทอง ถ.ชุมพล หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ก่อนขึ้นรถโดยสารที่จัดเตรียมไว้เข้าไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล เจ้าของร้านข้าวต้มนายตี๋ ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรนครราชสีมาจัดรถตู้ไว้บริการทั้งขาไปและกลับเป็นประจำทุกวัน

นายเขื่อนเพ็ชร โพนรัมย์ ประธานกลุ่มหนองน้ำใสรักษ์ประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตกลง กับสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรจะไปสมทบกับนปช. เข้าร่วมงานความจริงวันนี้ที่สนามราชมังคลาฯ เช้าวันที่ 1 พ.ย. จะไปเฉพาะแกนนำในจังหวัดอีสานใต้ อีสานเหนือ และอีสานกลาง จังหวัดละ 20-30 คน ในลักษณะไป-กลับ

จ.พะเยา ประชาชนแห่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั๋วรถโดยสารเต็มทุกที่นั่ง จองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน เผยว่า ได้รับการติดต่อจากประชาชนในพื้นที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง คาดว่าการนัดรวมพลครั้งนี้มี 2 แสนคน เฉพาะพะเยาไม่ต่ำกว่า 1,000 คน หากมีการปะทะกัน ทหารคงต้องเตรียมการปฏิวัติเพื่อยุติความรุนแรง

-ดร.มั่นเจอมือตบไล่ที่นาทวี

นายสมเกียรติ โสภณพิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรพิจิตร เผยว่า พันธมิตรภาคเหนือตอนล่างมีมติระดมสมาชิกเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรกรุงเทพฯ ในวันที่ 1 พ.ย. เนื่องจากมีกระแสข่าวจะสลายการชุมนุมที่ทำเนียบซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของพันธมิตร อีกทั้งเพื่อรับมือกลุ่มนปช.ที่ระดมคนในสนามราชมังคลาฯ พันธมิตรพิจิตรเดินทางตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. แล้ว 200 คน วันเดียวกันนี้จะเข้าไปอีก 300 คนจาก 12 อำเภอ พวกเราทุกคนปฏิญาณกันว่าจะสู้ให้ได้ชัยชนะ ไม่ยอมแพ้พวกนปช. เด็ดขาด

จ.พระนครศรีอยุธยา นางกัลยาณี จูปรางค์ แกนนำพันธมิตรอยุธยา นำตัวแทนเครือข่ายพันธมิตร 50 คน เข้าพบนายมงคล สัณฐิติวิฑูร รองผู้ว่าฯพระนคร ศรีอยุธยา มอบใบปลิวมีข้อความเข้าข่ายหมิ่นสถาบันที่พบในเขตชุมชนต่างๆ ของจังหวัด อาทิ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้าไฮเทค พร้อมขอให้จังหวัดตรวจสอบหาแหล่งต้นตอผู้เผยแพร่ จากนั้นนายมงคลเผยว่า จะรายงานนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าฯ ก่อนหน้านี้จังหวัดได้คาดโทษผู้กระทำการในลักษณะนี้ไว้แล้ว จะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิด ขึ้นอีก

จ.สงขลา เวลา 14.00 น. ขณะที่นายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที พร้อมคณะเดินทางมาเป็นประธานถวายผ้ากฐินพระราชทานที่วัดในวัง ต.นาทวี อ.นาทวี กลุ่มพันธมิตร 20-30 คนพยายามเข้าประชิดตัว แต่ถูกตำรวจสภ.นาทวีกันไม่ให้เข้าไปในวัด จึงมายืนถือมือตบอยู่ทางเข้าประตูวัดแทนพร้อมส่งเสียงโห่ไล่ ทำให้นายมั่นต้องรีบนั่งรถกลับทันทีเมื่อทำพิธีเสร็จ

-กลุ่มเพื่อนเนวินไม่หนุนเสื้อแดง

นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.เขต 3 จ.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มประชาชนที่ร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวทุกครั้ง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดไม่มีการนัดรวมพลประชาชน เพื่อเข้าไปร่วมการชุมนุมใหญ่กับกลุ่มนปช. เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองวุ่นวายมามากพอแล้ว และทางกลุ่มฯ รวมถึงชาวจ.บุรีรัมย์ส่วนใหญ่อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข จึงจะไม่มีการเคลื่อนพลเข้าร่วมชุมนุม อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วยตนเองนั้น คงห้ามไม่ได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ทางกลุ่มเพื่อนเนวินยืนยันไม่มีการนัดรวมพลร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน

ด้านนายมงคล สุระสัจจะ ผวจ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 23 อำเภอ ให้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุม เพราะเกรงจะสร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง และเกิดเหตุการณ์บานปลาย หากมีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีแนวความคิดไม่ตรงกัน รวมถึงสั่งการให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนในทุกพื้นที่อยู่ตลอด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อน ไหวแต่อย่างใด คาดว่าประชาชนในจ.บุรีรัมย์คงอยากเห็นความสมานฉันท์ในบ้านเมือง และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงบานปลาย

-สะพัดในเว็บ-พิธีมนต์ดำฐานพระรูป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ตามเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงในยูทูบ มีการแพร่คลิปคำปราศรัยบนเวทีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดถึงการทำคุณไสยที่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า อ้างว่าหมอผีเขมรนำหมุดมาปักตรึงไว้ที่พระบรมรูปทรงม้า เพื่อไม่ให้ปล่อยพลังออกมา ทางพันธมิตรฯจึงไปถอดหมุดดังกล่าวออก และมีพันธมิตรผู้หญิงใช้โกเต๊ก (ผ้าอนามัย) เปื้อนประจำเดือน 6 ชิ้นไปวางไว้เพื่อแก้เคล็ด

หลังข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวว่านายสนธิทำพิธีไสยศาสตร์แก้เคล็ดมนต์ดำที่ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าว่า เรื่องของการทำพิธีดังกล่าวนั้นตนไม่อยากแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม จะได้มอบหมายให้นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.เข้าไปตรวจสอบ พร้อมกันนี้จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลบริเวณดังกล่าวให้มากขึ้น รวมทั้งจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลสถานที่สำคัญๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย และได้มอบหมายให้นายสุทธิสรรค์ ศิวพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขา นุการผู้ว่าฯ กทม.เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ทันที พร้อมทั้งให้กลับมารายงานให้ผู้ว่าฯ กทม.ทราบ

-กทม.เต้นตรวจด่วน-กรมศิลป์ปราม

ด้านนายนพดล สะวิคามิน ผอ.เขตดุสิต เปิดเผยว่า ยังไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีกลุ่มบุคคลกระทำการในลักษณะที่มีการกล่าวอ้างกัน โดยตนเพิ่งจะทราบข่าวจากสื่อมวลชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางเขตจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจภาคกลางคืนประมาณ 20 นาย คอยเฝ้าตรวจตราและดูแลภายในพื้นที่โดยตลอด นอกจากนี้ก็มีประชาชนเข้าไปเคารพสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ตนจึงไม่แน่ใจว่าจะมีการกระทำดังกล่าวในช่วงเวลาใด อย่างไรก็ตาม จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อีกครั้ง ว่ามีร่องรอยใดๆ หรือมีความเสียหายเกิดขึ้นที่ฐานหรือพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ หรือไม่

ด้านนายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ทางกรมศิลปากรยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่หากเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจริงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และไม่ควรนำเรื่องของโบราณสถานไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นใดๆ ก็ตาม

-เปิดเว็บล่ารายชื่อไล่พันธมิตรฯ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกลุ่มประชาชนผู้เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุติการชุมนุมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย โดยมีการรวบรวมรายชื่อประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ http://www.petitiononline.com/ karnt/petition.html โดยแถลงการณ์ระบุว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นการชุมนุมเรียกร้องในระบอบการเมืองที่ล้าหลังและเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งพฤติกรรมการชุมนุมยังละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนผู้อื่นหลายประการ อาทิ มีการเรียกร้องให้เพิ่มอำนาจแก่องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้ บิดเบือนแนวทางอารยะขัดขืนมาละเมิดกฎหมาย จงใจปิดบังและบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร มีการพกพาอาวุธในที่สาธารณะและใช้กำลังคุกคามทำร้ายผู้อื่น นอกจากนี้ยังสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับการโพสต์แถลง การณ์เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุติการชุมนุมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย มีนายกานต์ ทัศนภักดิ์ นักวิจัย โครงการปัญญาชนสาธารณะแห่งเอเชีย เป็นผู้ร่วมนำเสนอแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนร่วมลงรายชื่อ ซึ่งภายหลังที่มีการโพสต์แถลงการณ์ดังกล่าว ได้มีกลุ่มคนจากหลากหลายอาชีพเข้ามาร่วมลงชื่อจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ นักธุรกิจ นักศึกษา พนักงานบริษัทเอกชน อดีตข้าราชการและประชาชนทั่วไป

-ชมรมรักอุดรขู่บุกพรรคปชป.

นายขวัญชัย สาระคำ ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวว่า แกนนำประชุมร่วมกันมีมติเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. สมาชิกชมรม 1,000 คนจะใส่เสื้อสีแดงเข้าร่วม เดินทางโดยเหมารถประจำทาง 14 คันถึงกรุงเทพฯเช้าวันที่ 1 พ.ย. เป้าหมายนอกจากไปร่วมชุมนุมกับนปช.ที่สนามราชมังคลาฯแล้ว จะนำทีมเดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์เพื่อถามถึงจุดยืนว่ายังฝักใฝ่เผด็จการ หนุนพันธมิตรที่ยึดทำเนียบสร้างความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง หรือต้องการประชาธิปไตย โดยจะนำรถติดโลโก้ "ชมรมคนรักอุดร" เป็นรถเบิกทางช่วงเหตุการณ์ 24 ก.ค.ที่หนองประจักษ์ลุยพรรคประชาธิปัตย์ด้วย กรณีที่หลายคนเป็นห่วงว่าสมาชิกชมรมจะปะทะกับกลุ่มพันธมิตรนั้น ไม่ต้องห่วง หากพันธมิตรต้องการปะทะกับชมรมคนรักอุดร พวกเราก็พร้อมเสมอ

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ท้องสนามหลวง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จัดงานรำลึกครบรอบ 2 ปีของการเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่ผูกคอตายบนสะพานลอยวิภาวดี เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของคมช. เป็นวันที่ 2 โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 500 คน ขณะที่บริเวณโดยรอบสนามหลวงมีการขายเสื้อสีแดงและอุปกรณ์ตีนตบ รวมทั้งซีดีเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีผู้สนใจเลือกซื้อพอสมควร

นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำนปช.กล่าวว่า เวลา 21.00 น.กลุ่มนปช.จะเดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อขึงรูปไว้อาลัยนายนวมทอง จากนั้นจะเดินทางกลับมาชุมนุมต่อที่ท้องสนามหลวง และเวลา 22.00 น.นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ จะขึ้นเวที เพื่อกล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมด้วย

รายงานข่าวเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกจากกรุงลอนดอนเมื่อ 2 วันก่อน บินตรงไปที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นก็บินจากดูไบมายังฮ่องกง ส่วนวันเดียวกันนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา บินตรงจากลอนดอนมาสมทบกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ฮ่องกง โดยอ้างเหตุผลที่เดินทางมาย่านนี้ เพื่อจะส่งลูกกลับเมืองไทย

-ยะใสชี้นปช.แตก-เสื้อแดงไม่พรึ่บ

เวลา 20.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร แถลงถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นว่า หลังจากประชุมแกนนำและการ์ดพันธมิตรทุกจุด เมื่อคืนวันที่ 30 ต.ค. มีการจัดการวางกำลังเพิ่มเติมขึ้น รวมถึงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในทุกจุดเพิ่มเติม และจัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ทั้งรอบสถานที่ชุมนุมและจุดที่ห่างออกไป เพื่อสืบข่าวความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม มั่นใจว่า พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และขณะนี้มีผู้ชุมนุมทยอยมาสมทบตลอด คาดว่าในช่วงเช้าจะมาหลายหมื่นคน ทั้งที่ไม่มีการเป่านกหวีดเพื่อระดมพล แต่ทุกคนมาช่วยป้องกันสถานที่ชุมนุม

นายสุริยะใสกล่าวว่า ไม่คิดว่าการชุมนุมใหญ่ของฝ่าย นปช.จะมีคนเข้าร่วมมาก เพราะทราบว่ามีหลายกลุ่มที่ไม่เข้าร่วมด้วย เช่น กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ กลุ่มอีสานเหนือ หรือกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง เพราะเกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างหนักในกลุ่มคนรักทักษิณ แตกแยกทางความคิดของสายเหยี่ยวและสายพิราบ เนื่องจากสายพิราบคิดว่าการอยู่เฉยไม่ทำอะไร ลดการเผชิญหน้า จะสะดวกต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลมากกว่า ขณะที่สายเหยี่ยวมองว่าต้องทำสงครามแล้ว นอกจากนั้นยังเกิดปัญหาเรื่องเงินทุนที่ใช้ระดมคน เม็ดเงินไปกระจุกตัวอยู่ที่แกนนำ ไม่กระเด็นไปสู่ระดับปฏิบัติ คาดว่าคนอาจไม่ถึง 5 หมื่นตามที่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์