สมชายฮึดลบภาพครม.สุดยี้ 24อธิการบดีจี้ปฏิรูปการเมือง

นายกฯ สั่ง ครม.เร่งทำงานล้างภาพ "ยี้-ขี้เหร่" ด้าน 2 ส. "สมพงษ์-สมชาย" โยนกลองวุ่นถอนพาสปอร์ตแม้ว "หมอประเวศ" ซัด ครม.ทำงานภายใต้ใบสั่งจากลอนดอน ด้าน 24 อธิการบดียื่น 4 ข้อให้ "สมชาย" แก้วิกฤติบ้านเมือง แนะประกาศวาระแห่งชาติ ตั้ง กก.ปฏิรูปการเมือง "สุรทิน" ปูดกลุ่มเพื่อนเนวิน แตก 40 ส.ส.โดดหนี

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กันยายน โดยใช้ห้องประชุมบริษัท ทอท. จำกัด (มหาชน) ชั้น 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นที่ทำงานชั่วคราว ภายหลังทำเนียบรัฐบาลถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าไปยึดครอง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รัฐมนตรีที่มาถึงเป็นคนแรกคือ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย ที่มาถึงตั้งแต่เวลา 08.00 น.

 รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อคณะรัฐมนตรีว่า ขอให้รัฐมนตรีทุกคนเร่งทำงานสร้างผลงานให้เห็นโดยเร็ว เพื่อลบคำสบประมาท และการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ต้องใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังหยิบยกเรื่องปัญหาสภาล่มขึ้นมาพูด เพื่อขอความร่วมมือจากรัฐมนตรีทุกๆ คนที่เป็น ส.ส. ให้เข้าร่วมประชุมสภาทุกครั้งด้วย และขอความร่วมมือรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ประสานงานกันในแต่ละพรรค ให้กำชับ ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภากันอย่างพร้อมเพรียง เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาเหมือนกับการประชุมสภาสองครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายกฯ ไม่ได้คาดโทษอะไรเป็นพิเศษ


ร่างนโยบายรัฐสรุปครั้งสุดท้าย 29 ก.ย.

 ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง มีการประชุมคณะกรรมการจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม และมีกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คน โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้นำเสนอร่างนโยบาย ซึ่งมี 4 หัวข้อหลักคือ 1.การบริหารราชการแผ่นดิน 2.นโยบายเร่งด่วน 3.แนวนโยบายพื้นฐานแห่งชาติ และ 4.หมวดทั่วไป

 นายกฯ ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจ การเมืองในปัจจุบันให้ครบถ้วน ซึ่งจะเป็นการสานต่อนโยบายรัฐบาลชุดที่แล้วที่เป็นประโยชน์และสามารถทำได้จริง ทั้งนี้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลได้รับทราบในร่างนโยบายดังกล่าวและจะให้แต่ละกระทรวงนำไปพิจารณาต่อไป หากมีส่วนใดต้องแก้ไขเพิ่มเติมก็สามารถดำเนินการได้เลย และให้ส่งกลับมาให้คณะกรรมการภายในวันที่ 28 กันยายน เพื่อสรุปครั้งสุดท้ายในวันที่ 29 กันยายน ก่อนที่จะนำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 30 กันยายนนี้ 


รัฐบาลน้อมรับพระราชดำรัสไปปฏิบัติ

 เมื่อเวลา 13.15 น. นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.นัดแรก ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่าแม้ ครม.ชุดนี้จะไม่ได้เข้าไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือน ครม.ชุดอื่นๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับใช้ประเทศ เราก็มีความยินดีและเสียสละ ซึ่ง ครม.ทุกคนได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ ครม.ทุกคนน้อมรับพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน


นายสุขุมพงศ์กล่าวอีกว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า ขอให้รัฐมนตรีทุกคนพึงระมัดระวังการมีคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ตลอดจนจะต้องไม่กระทำการใดที่เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม ต้องไม่แทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดินของหน่วยงานอื่น ไม่เข้าไปแทรกแซงสื่อต่างๆ รวมถึงเรื่องการเข้าไปดำรงตำแหน่งในนิติบุคคลหรือบริษัท หรือเป็นลูกจ้างของผู้ใด ตลอดจนต้องไม่ถือหุ้นเกินร้อยละ 5 โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายและใช้ความระมัดระวังอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้รัฐมนตรีทุกคนไปศึกษาวิธีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินให้รอบคอบและเข้าใจทุกเรื่อง ถ้ายังมีเรื่องใดที่สงสัย ก็ให้มาสอบถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 กันยายน


เตรียมแถลงนโยบายรัฐบาล 8-9 ต.ค.

 นายสุขุมพงศ์กล่าวถึงการกำหนดแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้กำหนดวันแถลงเป็นวันพุธที่ 8 และวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม โดยวันจันทร์ที่ 29 กันยายนที่จะถึงนี้ จะรวบรวมร่างนโยบายเพื่อแก้ไขครั้งแรก จากนั้นวันอังคารที่ 30 กันยายน จะพิจารณาแก้ไขครั้งที่ 2 ในการประชุม ครม. เมื่อเสร็จแล้วจะส่งพิมพ์ในวันพุธและพฤหัสบดี ก่อนส่งเข้าสภาในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม เพื่อให้ ส.ส.และ ส.ว.ศึกษา


ครม.ตั้ง"โอฬาร"หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มอบหมายให้นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาตั้งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยดึงเอาบุคคลที่มีความสามารถจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม เนื่องจากนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงว่าปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย


"สุชาติ"ทาบ"โกร่ง"เป็นที่ปรึกษา

 นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.การคลัง กล่าวว่า ตนและ รมช.การคลังทั้งสองคนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยทีมเศรษฐกิจมีผู้ช่วยหลายคนและได้ปรึกษากับนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมตั้งทีมดูแลงานด้านเศรษฐกิจร่วมกัน ส่วนคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้นยังไม่ได้จัดตั้งขึ้น แต่ได้ทาบทามนายวีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง เป็นที่ปรึกษาและอยู่เบื้องหลังการพัฒนาเศรษฐกิจ และจะเร่งผลักดันนโยบายที่ รมว.การคลังที่คนเก่าวางไว้ นอกจากนี้มั่นใจว่าสามารถทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยได้

ปลอบใจ "ชูศักดิ์" ตั้งเป็นเลขาฯ นายกฯ

 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยถึงการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า การประชุม ครม.นัดพิเศษวันนี้ ไม่มีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง คาดว่าในการประชุมวันอังคารที่ 30 กันยายน ก็จะมีการพิจารณาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 ในส่วนของนายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น จะมีการลาออกจากการเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 29 กันยายนนี้  


"สมพงษ์"โยนนายกฯ ถอนพาสปอร์ตแดง

 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างตามระเบียบและกฎหมาย ไม่มีเอียงกระเท่เร่ แต่ถ้าได้ติดตามก็จะรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศแล้ว เนื่องจากนายเตช บุนนาค อดีต รมว.การต่างประเทศ ได้ส่งเรื่องไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นอำนาจจึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียวที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ

 รมว.การต่างประเทศกล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าหลังเดินทางไปประชุมยูเอ็น ก็จะแวะกรุงลอนดอนว่า ยังไม่แน่ แต่แนวโน้มคงแวะ เพราะจะไปเยี่ยมลูก ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนไปเยี่ยมบ่อยๆ อยู่แล้ว จึงไม่กลัวข้อครหา

"นายกฯ"โยนกลับหน้าที่บัวแก้ว

  ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเรื่องการยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตามหลักการ ตนยังไม่มีนโยบายในเรื่องนี้

 ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า รมว.การต่างประเทศระบุว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เพราะได้ส่งเรื่องดังกล่าวมายังสำนักนายกฯ แล้ว นายสมชายกล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่อง

 เมื่อถามว่าเห็นสมควรจะยกเลิกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีรีบกล่าวตัดบททันทีว่า ต้องไปถามกระทรวงการต่างประเทศก่อน พร้อมทั้งขอตัวขึ้นรถกลับออกไปทันที

24 อธิการบดีแนะทางออกแก้วิกฤติชาติ

 เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมสัญญาธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีตัวแทนอธิการบดีจากภาครัฐและเอกชนจำนวน 24 สถาบัน ร่วมแถลงข่าวยื่น 4 ข้อเรียกร้องต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขวิกฤติร้ายแรงของชาติ

 ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อธิการบดี 24 สถาบันที่มาจากรัฐและเอกชน มีความเป็นห่วงสถานการณ์ชาติบ้านเมือง จึงร่วมกันปรึกษาช่วยคิดหารือเพื่อหาทางออกให้แก่สังคมและชาติบ้านเมือง

 ด้าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เป็นตัวแทนอธิการบดีอ่านข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ภายหลังได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือจำนวน 4 ข้อ เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ดังนี้

 ข้อ 1 ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศเป็นวาระแห่งชาติในการแก้ไขวิกฤติร้ายแรงในทางการเมือง โดยดำเนินการโดยเร่งด่วนที่สุด ให้จัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูประบบการเมืองการปกครอง เพื่อศึกษาหาแนวทางและข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบการเมืองการปกครองของประเทศ โดยยึดหลักการการเพิ่มบทบาทของการเมืองภาคประชาชน การกระจายอำนาจ การจัดระบบการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองที่เหมาะสมเป็นธรรม และจัดระบบตรวจสอบการใช้อำนาจทางการเมือง

 ข้อ 2 ขอให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการเมืองการปกครองจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเป็นกลางทางการเมืองซึ่งมีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย โดยให้แต่งตั้งเฉพาะตัวประธานคณะกรรมการ และระบุในคำสั่งแต่งตั้งให้ประธานคณะกรรมการเป็นผู้เลือกสรรและแต่งตั้งกรรมการคนอื่นๆ ทั้งหมดตามจำนวนที่เหมาะสมเอง โดยทำเป็นคำสั่งของประธานคณะกรรมการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยที่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายการเมืองจะต้องไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการเลือกสรรหรือแต่งตั้งกรรมการของประธานคณะกรรมการตามอำนาจที่ได้รับมอบหมาย

 ข้อ 3 ให้คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ภายในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน โดยให้มีอำนาจเรียกข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐและเรียกบุคคลใดๆ มาชี้แจงให้ข้อมูล โดยจะต้องจัดงบประมาณดำเนินการในลักษณะเงินอุดหนุนให้เพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ โดยคณะกรรมการจะต้องดำเนินการจัดทำข้อเสนอและความเห็นต่างๆ โดยรับฟังและรายงานต่อสาธารณะอย่างเปิดเผยและสม่ำเสมอ และเมื่อเสร็จขั้นตอนการดำเนินการแล้ว คณะกรรมการจะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินการและจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อการปฏิรูปการเมืองการปกครองตามแนวทางที่เสนอในรายงานเพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

 ข้อ 4 ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศรับรองต่อสาธารณะในนามของรัฐบาลตั้งแต่ต้นว่า เมื่อได้รับข้อเสนอดังกล่าวจากคณะกรรมการแล้ว จะนำข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปการเมืองการปกครองตามรายงานดังกล่าวไปสู่กระบวนการลงประชามติเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ และหากประชาชนได้ให้ความเห็นชอบในข้อเสนอแนวทางตามรายงานดังกล่าวแล้ว คณะรัฐมนตรีจะได้นำเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่คณะกรรมการได้จัดทำขึ้นตามแนวทางดังกล่าวขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ตามเนื้อหาทั้งหมดที่เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการดังกล่าว

 ส่วนอธิการบดีจำนวน 24 สถาบันที่ร่วมลงชื่อยื่นข้อเรียกร้อง อาทิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยนครพนม และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์


"หมอประเวศ" ชี้บ้านเมืองยังวุ่นวายต่อ

 ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า ความวุ่นวายจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะการปกครองยังเป็นแบบธนาธิปไตย ที่เอาเงินเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาธิปไตยเป็นใหญ่ มีการเอาเงินซื้อพรรค ซื้อนักการเมือง ซื้อเสียง ทำให้เกิดความตึงเครียดในสังคม มีแต่ความเห็นแก่ตัว ความไม่จริงจัง จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้

 ศ.นพ.ประเวศกล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.และรัฐบาลชุดนี้ยังทำงานภายใต้สถานการณ์ที่จำกัด เพราะต้องขึ้นอยู่กับกลุ่ม ฝ่ายและผู้ที่บงการมาจากลอนดอน แม้ทุกคนฝันอยากเห็น ครม.ที่ดีๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถทนได้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรหมดหวังและควรให้โอกาส เพราะคนที่ไม่ดีมักจะพยายามสร้างผลงานทำเรื่องดีๆ เหมือนองคุลีมาลยังบรรลุอรหันต์ ต้องให้โอกาสได้ทำงานก่อน หากมีคนวิพากษ์วิจารณ์มากอาจปรับตัวให้ดีขึ้นก็ได้


เพื่อนเนวินแตก "สุรทิน" ชี้เหลือแค่ 30

 พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกระแสข่าวถูกสลายออกจากกลุ่มเพื่อนเนวิน ว่า ได้ออกจากกลุ่มเพื่อนเนวิน มาระยะหนึ่งแล้ว ในช่วงที่มีการเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ แม้ตอนนั้นได้ลงชื่อคัดค้าน แต่ก็เป็นการลงชื่อเคลื่อนไหวของกลุ่มครั้งสุดท้าย แต่ขณะนี้เกิดความรู้สึกสำนึกต่อบุญคุณพรรค และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่เป็นไปในลักษณะสร้างปัญหาให้แก่พรรคและต่อรองทางการเมือง พยายามรวบอำนาจมาไว้กับตัวเอง

 "ล่าสุด ส.ส.ที่แยกตัวออกมามีเกือบ 40 คน เช่น จ.อุดรธานี บางส่วน จ.หนองคาย จ.สกลนคร จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น จึงคาดว่ากลุ่มเพื่อนเนวินเหลืออยู่ประมาณ 30 คน" พ.ต.ท.สุรทินกล่าว

 อดีต ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินผู้นี้บอกอีก ว่าเบื้องต้น ส.ส.ที่ออกมายังไม่ได้ไปอยู่กับกลุ่มใด แต่หากมีการเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์กับพรรคก็จะไปทางนั้น เนื่องจาก ส.ส.ที่ออกมาก็ประมาณว่า อีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะทำตัวเป็นกบฏกับพรรค หรือทำพฤติกรรมไม่สำนึกบุญคุณพรรค ซึ่งที่ผ่านมาต้องเข้าใจว่า ที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินอ้างว่ามี 70 กว่าคน บางคนก็เพิ่งถูกกวาดต้อนมาอยู่กับกลุ่มเพื่อนเนวินได้ไม่นาน ได้รับข้อมูลบางอย่างที่ผิดๆ ในทำนองอ้าง "นาย" แล้วเอาไปงัดข้อกับคนในพรรคกันเอง


เสนอ "เนวิน" ลดบทบาทของกลุ่มลง

 นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกระแสข่าวว่ากลุ่มเพื่อนเนวิน ถูกสลายเหลือ ส.ส.อยู่ประมาณ 20 คน ว่าเรื่องจำนวน ส.ส.ในกลุ่มจะเหลือเท่าไร ไม่ขอยืนยัน เพราะบางคนที่มีข่าวเป็นแคนดิเดตจะเป็นรัฐมนตรี ก็มีการดึง ส.ส.ในกลุ่มออกไป เพราะอาจอยู่ในเงื่อนไขไปอยู่ในโควตากลุ่มเพื่อนเนวิน ก็มีหลายคน

 นายไชยาบอกว่า ได้เสนอไปทางนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวินว่า วันนี้กลุ่มควรลดบทบาทเงื่อนไขทางการเมืองของกลุ่มลง เพื่อให้เวลานายกฯ และรัฐบาลบริหาร เดินต่อไปได้ก่อนพรรคจะถูกยุบ เพราะเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีก็จบลงแล้ว ไม่อยากให้สังคมมองภาพของกลุ่มในทิศทางที่ไม่ดี


"ก๊วนอกหัก" ปัดไม่เกี่ยวทำสภาล่ม

 นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกรณีสภาล่มว่า สาเหตุมาจาก ส.ส.บางส่วนได้ตามรัฐมนตรีไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ ขอยืนยันว่า ส.ส.ทุกคนยังให้ความร่วมมือดีและ ส.ส.จากภาคอีสาน พรรคพลังประชาชน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

 นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะสมาชิกกลุ่มบ้านริมน้ำ กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดเหตุสภาล่มแต่ยืนยันว่าสาเหตุที่สภาล่มไม่ใช่การนัดแนะเพื่อตอบโต้ ขอยืนยันว่า ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำจะไม่เคลื่อนไหว หรือสร้างแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล


"ชัย" เผ่นกลับ กทม.โดน พธม.นครฯ ไล่

 กลุ่มพันธมิตรนครศรีธรรมราช ได้ปิดล้อมโรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกวันที่ 25 กันยายน หลังทราบข่าวว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเป็นประธานในกิจกรรม "รัฐสภาพบประชาชน" ที่โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่จะมีการเปิดสัมมนาในวันที่ 26 กันยายน จนทำให้นายชัย ต้องหนีออกจากโรงแรม โดยมีรายงานว่าได้หลบไปพักที่ "ปิติ รีสอร์ท" ของนายปิติ เทพภักดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน ใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แทน

 ส่วนการเปิดงานรัฐสภาพบประชาชน ที่หน้าโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษานั้น ปรากฏว่านายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนาแทน

 มีรายงานว่านายชัย ได้ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับ กทม.ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพบว่านายชัย มีอาการเคร่งเครียดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก


นายกฯ กลับนครฯ เชื่อไม่โดนต้าน

 ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 27 กันยายนนี้ว่า ยังยืนยันที่จะเดินทางไป ใครบ้านอยู่นครฯ ก็ไปเที่ยวกันได้ ไม่อยู่ก็ไปได้

 ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรนครฯ ประกาศที่จะไปรอรับ นายสมชาย กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "ไปรอรับเหรอ ก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ ใครมาต้อนรับผม ผมไม่รังเกียจหรอก ผมกลับบ้านคงไม่มีใครใจดำ กีดกัน ไม่ให้ผมกลับบ้าน"


แกนนำ พธม.ชี้เป็นสิทธิ์ชอบธรรม

 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตร ในส่วนกลาง โดยกลุ่มพันธมิตร จ.นครศรีธรรมราช มีอิสระในการดำเนินการตามความเหมาะสม

 "เราเองยังไม่รู้ว่าใครไปไหนมาไหน และเราไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่คงทำในกรอบของกฎหมายไม่ได้พกพาอาวุธ หรือท้าตีท้าต่อยใคร อย่างไรก็ตาม หากหลังจากนี้พันธมิตรต่างจังหวัดมีคำปรึกษามา เราก็พร้อมจะให้คำแนะนำ ถ้าไม่ปรึกษามาจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของพันธมิตรจังหวัดนั้นๆ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะขาดความริเริ่มในการเคลื่อนไหว" พล.ต.จำลองกล่าว


พร้อมเจรจา "จิ๋ว" ชี้สัมพันธ์เดิมยังมี

 พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า กลุ่มพันธมิตรพร้อมเจรจากับคนกลางและคนในรัฐบาล แต่บุคคลที่มาเจรจาต้องมีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาด ทั้งนี้ เห็นว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านงานระดับชาติมามากและเป็นเรื่องที่ดี หากเป็นตัวแทนในการเจรจา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประสานจากรัฐบาล

 "ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนรู้จักกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนหน้าใหม่เลย เพียงแต่สถานการณ์การเมืองมันเปลี่ยนไป เราอาจจะไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว แต่ความสัมพันธ์เดิมๆ ก็ยังมีอยู่ พล.อ.ชวลิตนั้นใครๆ ก็รู้จัก" พล.ต.จำลองกล่าว


ปชป.ปัดอยู่เบื้องหลังขับไล่ "ชัย"

 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการชุมนุมขับไล่นายชัย อย่างแน่นอน ทั้งนี้เห็นว่าการต่อต้านเป็นเรื่องปกติ ที่มีประชาชนที่รู้สึกกับเรื่องของสถานการณ์บ้านเมือง และนายชัยก็ถือว่าเป็นตัวละครในทางการเมืองที่มีความสำคัญ ประชาชนก็มีความรู้สึกว่าเขารับไม่ได้ก็ไปต่อต้านเท่านั้น อย่าไปคิดอะไรมาก และไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำให้กลายเป็นชนวนความแตกแยก

 "ผมยืนยันเลยว่าถ้าพวกผมทำ จะประกาศ จะบอก และยอมรับ แต่นี่ไม่ได้ทำ เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ และผมขอเรียนให้ประธานชัยสบายใจว่า พวกผมไม่ทำอย่างนั้น" นายสุเทพกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์