จาตุรนต์ ชมกองทัพย้ำไม่ปฏิวัติ

วานนี้ (27 ส.ค.)  เวลา 16.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
 
การไม่ยอมรับกติกาของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นความคิดแบบอนาธิปไตยที่พยายามเคลื่อนไหวทุกวิถีทาง เพื่อให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร มุ่งล้มรัฐบาลโดยใช้กำลัง อาวุธและความรุนแรง แต่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถยึดอำนาจได้สำเร็จ แม้กดดันโดยใช้กำลังให้ รัฐบาลควรลาออก เพราะการเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯไม่มีความชอบธรรม พยายามขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ถูกต้อง ทำให้ขาดการสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ สังคมไทยจึงไม่เห็นดีเห็นงามกับแนวคิดที่จะให้เกิดการรัฐประหารอีกแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ประเทศเคยผ่านจุดที่วิกฤติในลักษณะดังกล่าวมาก่อนแล้วจึงทำให้ไม่ได้รับความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณผู้นำกองทัพที่ให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่ให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้น องค์กรประชาธิปไตยควรจะมอบดอกไม้ให้กองทัพอีกครั้ง ส่วนรัฐบาลต้องอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงความรุนแรงอย่างสุดความสามารถ   ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเหตุการณ์นี้

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลอนุมัติหมายจับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 9 คน ว่า ถือเป็นการดำเนินการตามกฎหมายอย่างละม่อม

โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงมาจัดการ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะตลอดที่ผ่านมารัฐบาลใช้ความอดทน อดกลั้นมาตลอด ดังนั้นเมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น รัฐบาลต้องดำเนินคดี เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย มีขื่อมีแปอยู่
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม รองโฆษกพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเดียวกันว่า เชื่อว่าเป็นผลดีต่อประเทศโดยรวม เนื่องจากพฤติกรรมกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นภัยต่อประเทศไทย และระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับที่ศาลอนุมัติหมายจับ จะเห็นได้จากผลสำรวจของกรุงเทพโพลที่ระบุชัดประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 72.6 ไม่ยอมรับกับพฤติกรรมการชุมนุมของพันธมิตรฯ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวทำให้ประเทศเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และนานาชาติโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวนั้น วันนี้เสียหายอย่างยับเยินแล้ว

ด้านนายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ออกโทรเลขถึงสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศทั่วโลกแล้ว

โดยลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 26 ส.ค. ที่มีนักรบศรีวิชัยได้เข้าไปในที่ทำการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเอ็นบีที มาจนถึงตอนเย็น ซึ่งได้เข้าไปชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจะมีโทรเลขออกไปอีกเพื่อตอบคำถาม เพราะแน่นอนว่าทั้งโลกคงติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยว่าอะไรจะเกิดขึ้นใน 1-2 วันข้างหน้า ทั้งนี้ หวังว่าสถานการณ์ จะไม่บานปลาย และจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดขึ้นจะเป็นผลที่ไม่ดีอย่างยิ่งต่อประเทศไทยสิ่งที่เกิดขึ้นก็แน่นอนว่ากระทบกระเทือนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ เราอยากจะให้ต่างประเทศเข้าใจว่าเหตุการณ์ ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทางการเมืองประชาธิปไตยของไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการเมืองไทยเป็นแบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการขอลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายเตชตอบว่า ไม่ทราบและขณะนี้กระบวนการขอลี้ภัยของอดีตนายกฯตนไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

และไม่ทราบว่าจะยกสถานการณ์ ปัจจุบันไปเป็นข้ออ้างด้วยหรือไม่ ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ได้หารือกับนายกฯแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกฯเป็นผู้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดเอง และบอกว่าได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ จะได้พิจารณาด้วยตัวเอง อีกทั้งบอกกับตนว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป พร้อมกับไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ใดๆ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์