คดีที่อยู่ในชั้นศาล 7 คดี

คดีที่อยู่ในชั้นศาล 7 คดี



คดีหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจากการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์
แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ( มหาชน ) โดยศาลอาญา พิพากษาให้จำคุกคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน คนละ 3 ปีและจำคุกนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน เป็นเวลา 2 ปี




คดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก
ซึ่งอัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ร่วมกันเป็นจำเลย โดย พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกยื่นฟ้องว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ปปช. พ.ศ. 2542 และข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนคุณหญิงพจมาน มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด กรณีคุณหญิงพจมาน ซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อขายที่ดินที่ต่ำกว่าราคาประเมิน และคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง




คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว
หรือคดีหวยบนดิน ซึ่ง คตส. ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ, คณะรัฐมนตรี "รัฐบาลทักษิณ" และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คนเป็นจำเลย และคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 28 กค.2551




คดีเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจาก บริษัทในเครือ ชินคอร์
ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ซึ่ง คตส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการดูแลกิจการเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157
ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีไว้พิจารณาแล้ว




คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

คดีนี้อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่ส่าว , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,152,157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ,100 ,122 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ วันที่ 3 กันยายน 2551




คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น
คดีนี้ยื่นฟ้องนายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรฯ กับพวกรวม 44 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ วันที่ 6 ส.ค. นี้ (2551)




คดีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร
ซึ่งมีนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากรกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรอีก 4 คน เป็นจำเลย ฐานละเว้นการเก็บภาษีการโอนหุ้นชินคอร์ปฯ ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา และอยู่ระหว่างการสืบพยานของศาลอาญา




คดีอยู่ระหว่างตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ปปช. 3 คดี


คดีทุจริต CTX 9000 ซึ่งคดีนี้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157




คดีธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นการอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก รวมทั้ง คตส.ได้ชี้มูลความผิดนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายกับพวกในข้อหารับของโจร โดยแยกออกมาเป็นอีกสำนวนคดีหนึ่งเนื่องจากเป็นบุคคลธรรมดา



คดีทุจริตโครงการระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคมกับพวกเป็นจำเลย




คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ 2 คดี


คดีปกปิดข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซี แอสเซทฯ คดีนี้มีผู้ต้องหา คือ บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พ.ต.ท. ทักษิณ, คุณหญิงพจมาน และนางบุษบา ดามาพงศ์
คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ได้ดำเนินคดีในข้อหาฐานแสดงข้อความอัป็นเท็จหรือปกปิดความจริงเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์ และสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ต่อมาอัยการได้สั่งให้ดีเอสไอ ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 16 กันยายนนี้



คดี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ร่ำรวยผิดปกติเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งเป็นคดีแพ่ง และคดีนี้ที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการและ ปปช. และมีข้อสรุปออกมาว่าให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินกว่า 69,000 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน




ขอบคุณที่มาของข่าว : สำนักข่าวเนชั่น


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์