ทางสามแพร่งของทักษิณ

ถ้าพูดกันวันนี้ อาจจะเร็วไปที่จะฟันธงลงไปว่า

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจใช้จังหวะที่อยู่ต่างแดนขอลี้ภัยทางการเมืองไปเลย ถึงแม้ว่าสัญญาณจาก "ตุลาการภิวัตน์" ที่กำลังเข้มข้นนั้น บ่งชี้หลายอย่าง  ไม่ว่าจะเป็น คดีหลีกเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ ของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร 
 คดีสินบน 2 ล้านบาทในถุงขนม จนทำให้ทีมงานทนายความในคดีที่ดินรัชดา ของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าไปนอนคุก 6 เดือน
 

 2 คดีนี้ทำให้กลุ่ม "คนรักแม้ว" ใจตุ้มๆ ต่อมๆ  กลัวว่า
 
ขวัญใจจะไปไม่รอด  กลับมาสู้คดีแล้วมันจะเหลืออะไร  อย่าลืมว่า คดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ นั้นเป็นฝีมือของ คตส. เป็น คตส.ที่ยืนยันหลักในการทำคดีที่แตกต่างจากมุมมองของอัยการสูงสุด  ยืนยันว่าหลักในการดำเนินคดีกับนักการเมืองนั้นจะต้องมีบรรทัดฐานพิเศษ  ซึ่งตรงนี้แหละ ที่มิตรรักแฟนเพลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกรงว่ามันจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าตาอับ


ยิ่งได้ฟังคำพิพากษาคดีคุณหญิงพจมานเลี่ยงภาษีในตอนท้ายๆ ด้วยแล้วยิ่งชวนให้ขนลุกขนพอง


 "จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำการเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี จำเลยที่ 2 เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ ซึ่งจำเลยทั้งสามนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย"


 "จำเลยที่ 2" ที่ศาลระบุก็คือ คุณหญิงพจมาน !


 แล้วถ้าหากใครได้ฟังตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่ศาลจะเริ่มอ่านคำพิพากษา ได้เอ่ยปากถามคุณหญิงพจมาน ว่าใช่เป็นจำเลยคดีที่ดินรัชดาด้วยหรือเปล่า... ก็ยิ่งคิดมากไปกันใหญ่

 สู้แล้วมันจะรอดหรือ ?


 ถามตัวเองเสียงดังๆ แบบคนรักคนห่วง ก็ต้องคิดไปในทางไม่ดีไปก่อนล่ะ  เมื่อคิดว่าไม่รอด ก็เลยคิดให้เองเสร็จสรรพว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ "ลี้ภัย"  แล้วมันจะคุ้มกันมั้ย ก็ในเมื่อ 7.6 หมื่นล้าน ยังถูกอายัดอยู่เลย  ขืนลี้ภัยไปเสียตอนนี้ ก็เท่ากับสละสิทธิ์ที่จะทวงคืนเงิน ปล่อยให้รัฐบาลสมัคร ฮุบเงินเข้าหลวง...ทำได้เต็มที่ก็แค่มองตาละห้อย  บุคลิก ทัศนคติ บวกกับแรงเชียร์ทั้งจากชาวบ้านร้านตลาด และบรรดาลูกหลานที่มาให้กำลังใจ คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่น่าจะเลือกที่จะถอดใจง่ายๆ แน่ !

 จะสู้อย่างไร สู้แบบไหน นั่นเป็นเรื่องที่บรรดากุนซือทั้งหลาย โดยเฉพาะขุนพลอีสานใต้ น่าจะระดมสรรพกำลังเพื่อช่วยเหลือนายใหญ่ เช่นเดียวกับอดีตคนวงในที่เคยแวดล้อมเมื่อครั้งยังเรืองอำนาจ  ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยืนยันหนักแน่น ว่ามาสู้แน่  อีกทั้งไปจีนหนนี้ ก็ไปโดยตำแหน่งที่มีเกียรติ และไปในนามของประเทศ

 ถึงแม้จะกังขาว่า
 
"ไปในนามประเทศ" ที่โฆษกส่วนตัวแถลงว่าประเทศไหน แต่เรื่องนี้เท่ากับยืนยันได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเลือกที่จะกลับมาสู้

 ถามว่าในขณะที่ตุลาการภิวัตน์กำลังเข้มข้นเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะสู้แบบไหน ด้วยวิธีใด


 นอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นเงื่อนปมที่หากคลี่คลายได้เมื่อใด
ทุกอย่างก็จะตาลปัตรไปหมด และเป็นผลดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ช่องทางนี้ก็เสี่ยงที่จะทำร้ายประเทศและผู้คนในชาติ


 พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่อยากให้ตัวเองรอดแล้วเดินย่ำไปบนคราบเลือดและซากปรักหักพังของบ้านเมืองกระมัง


 ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องรอให้คดีถึงที่สุด ยอมรับสภาพ แล้วจะขอผ่อนหนักเป็นเบา

 ถวายฎีกา ..!!!?


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์