ศาลสั่งพันธมิตร เปิดถนน! ให้นร.ราชวินิตฯ

หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มาอย่างต่อเนื่อง

โดยเคลื่อนขบวนย้ายจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ มาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่
20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ปิดถนนพิษณุโลก และถนนพระราม 5 สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทาง โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา วัดวาอารามต่างได้รับความลำบากในการเดินทาง และได้รับผลกระทบจากเสียงเวทีปราศรัยที่ดัง จนครูและผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิตมัธยม รวมตัวพิทักษ์สิทธิของตนเองด้วยการเข้าฟ้องศาลแพ่ง  ให้กลุ่มพันธมิตรฯ  รื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางอื่นๆ ทั้งหมดที่ปิดกันบนถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลกออกไป ซึ่งศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่  30  มิ.ย.

เมื่อเวลา
11.00 น. ที่ศาลแพ่ง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความแกนนำพันธมิตรฯ มอบหมายให้เสมียนทนายความมายื่นคำร้องคัดค้านการขอคุ้มครองชั่วคราว

ในคดีที่ครูและผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิตมัธยม รวม
10 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกแกนนำพันธมิตรฯ รวม 6 คน เป็นจำเลย เรื่องละเมิด ขอให้ศาลมีคำสั่งขับไล่ รื้อถอนเวทีพันธมิตรฯ ทั้งนี้ คำร้องระบุว่า การชุมนุมเป็นไปตามสิทธิและเสรีภาพของรัฐธรรมนูญ ม.45 ซึ่งการชุมนุมก็เป็นไปเพื่อตรวจสอบการบริหารกิจการบ้านเมืองของรัฐบาลส่วนการใช้เครื่องขยายเสียง ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเพื่อประโยชน์ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนทั่วไป ถึงวัตถุประสงค์ของการชุมนุม ซึ่งการใช้เครื่องขยายเสียงใช้ด้วยความระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น และการตั้งเวทีบนสะพานชมัยมรุเชฐ จำเลยไม่มีเจตนาปิดกั้นจราจร  การสัญจรของบุคคลอื่นใด 

แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่ทำการของรัฐบาล

ดังนั้นจึงมีนัยสำคัญถึงการสื่อสารการแสดงออกต่อวัตถุประสงค์การชุมนุมที่เป็นไปเพื่อการตรวจสอบ และการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ขอให้ศาลโปรดพิจารณามีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านของจำเลยไว้พิจารณา จำเลยทั้ง
6 ขอให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ทั้ง 10
คน

จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี417 ศาลแพ่ง เวลา 14.00 น.

นายวรวิทย์ ฤทธิทิศ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งในคดีดังกล่าว ซึ่งระบุว่า หลังจากที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ในชั้นไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแล้ว เห็นว่าคดีนี้โจทก์ทั้งสิบ ฟ้องขอให้จำเลยทั้งหกรื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางอื่นๆ ทั้งหมดที่ปิดกั้นบนถนน พระราม
5 และถนนพิษณุโลก ออกไปโดยอ้างว่า จำเลยทั้งหกกับพวกร่วมชุมนุม ปิดถนนดังกล่าวและตั้งเวทีปราศรัยประท้วงขับไล่รัฐบาลเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ทั้งสิบ และนักเรียน เพราะทำให้โจทก์ทั้งสิบ และเด็กนักเรียนไม่สามารถใช้ถนนได้ตามปกติ และเป็นการรบกวนการเรียนการสอนของ ร.ร.ราชวินิตมัธยม เพราะจำเลยทั้งหกกับพวกเปิดเพลง ปราศรัยถ่ายทอดเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงที่ส่งเสียงดัง จึงขอให้ศาลห้ามมิให้จำเลยทั้งหกใช้เครื่องขยายเสียง ระหว่างเวลา 07.30 น.-14.30 น.

กรณีนี้ จึงมีเหตุอันสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ในกรณีนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน หรือความเสียหายที่โจทก์ทั้งสิบและเด็กนักเรียน อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.
254 (2)

จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหกกับพวก เปิดพื้นที่จราจรบนถนนพระราม
5 และถนนพิษณุโลก ให้โจทก์ทั้งสิบ รถยนต์โดยสารสาธารณะและประชาชนสามารถผ่านไปมาได้โดยสะดวก และห้ามจำเลยทั้งหกกับพวกใช้เครื่องขยายเสียงในลักษณะที่เป็นการรบกวนการเรียนการสอนของโรงเรียนราชวินิตมัธยม ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 07.30 น.-16.30 น. ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น คำขอนอกจากนี้ให้ยก ให้คำสั่งศาลนี้มีผลทันที



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์