สมัคร พลิ้ว หนีอภิปราย ไม่มีเวลา...อ้างติดพิจารณางบ

"สมัคร" พลิ้วหนีอภิปราย อ้างไม่มีเวลา เหตุติดพิจารณางบประมาณและพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จทัน รธน. อีก 3-4 ฉบับ ย้ำจะไม่ขยายเวลาเปิดสภา อ้างเปิดเพื่ออภิปรายงบ ไม่ใช่ให้สอดไส้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยันบริหารมา 4 เดือน ไม่ผิดพลาด

ความพยายามของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะขอใช้เวลาในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ

เพื่อยื่นขออภิปรายทั่วไปแบบลงมติ ทำท่าว่าจะ "แห้ว" เสียแล้ว หลังจาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ยืนกรานว่าจะไม่เปิดช่องตามคำขอ นายสมัครแสดงจุดยืนของตัวเองอย่างเป็นทางการ ในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2551 โดยอ้างเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ คือ
 

 1.ติดวาระการพิจารณางบประมาณปี 2552 ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 25-27 มิถุนายน
 

 2.ต้องพิจารณากฎหมายตามรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จอีก 3-4 ฉบับ ในวันที่ 11-12 และ 18-19 มิถุนายน

ในส่วนวาระการพิจารณางบประมาณ นายสมัครอ้างเหตุผลว่า

"เมื่อเวลาที่ต้องงบประมาณ จังหวะต้องปลายเดือนมิถุนายน เกินกว่านั้นไม่ได้สับสนหมด ปลายมิถุนายน ที่กำหนดไว้ คือวันที่ 25-26 มิถุนายน เผื่อไว้ว่าจะยืดอีกวันก็ 27 มิถุนายน แปลว่า 3 วัน ธรรมดาก็จะมีเท่านั้นล่ะครับ เปิด 25 ปิด 27 ขอพระราชทานเบื้องต้นขอไว้อย่างนั้น ก็ตกลงเป็นอย่างที่ว่า"

ส่วนการพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่ 3-4 ฉบับ ก็ถูกบังคับโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องทำให้เสร็จภายใน 180 วัน จึงจำเป็นต้องพิจารณา
 

"ผมก็พิจารณา ผมเป็นรัฐบาล เขาขอมาก็พิจารณา ก็ถอยหลังลงมาว่าวันที่ 25-26 จะงบประมาณ ถอยลงมาหน่อย ถอยให้เขาหน่อย ก็ 18-19 พอไหม ถ้าไม่เอา 4 วัน เอา 11-12 แปลว่าจะได้พูดกัน 4 วัน คือ 11-12, 18-19 พุธ-พฤหัสบดี สองหน" นายสมัครยังกล่าวถึงกรณีที่วุฒิสมาชิกจะยื่นขออภิปรายทั่วไปด้วยว่า ไม่สามารถที่จะเตรียมข้อมูลได้ทัน เพราะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อจัดทำงบประมาณในวันที่ 25 มิถุนายน

"วุฒิสมาชิกก็ยื่นๆ มาเลยขออภิปรายไม่ลงมติ ยื่นมาก็ได้ ยื่นมาผมก็ ท่านประธานท่านก็รับ แต่การยื่นไปยื่นผ่านสภา สภาก็จะแจ้งให้ผมทราบ เขาก็แจ้งทางข่าว เดี๋ยวนี้ทันสมัย ไม่ต้องให้ประธานแจ้ง บอกว่าวันที่ 23 ขอพูดเลย และคาดคั้นว่า 23 ต้องตอบ ถ้าไม่มาตอบแปลว่า หลบเลี่ยง ถ้าไม่มาตอบ เห็นไหมว่า คนนี้มันแย่จริงๆ รัฐบาลนี้ จะไม่ให้ไปต่อสู้ข้างถนน อุตส่าห์เข้ามาในสภาแล้วยังไม่ใช้สิทธิ์ กลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ผมนี่จะต้องตอบ ผมต้องตอบเป็นทางการแน่นอน ถามมา ผมก็ตอบได้ แต่ทว่าวันที่ 25 จะอภิปรายงบประมาณ ทุกกระทรวงเตรียมการกันหมด จะต้องเข้าไปอยู่กัน 2 วัน 3 คืน ก็สุดแท้แต่ กำลังดำเนินการ 25 อภิปรายงบประมาณ 23 จะขออภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านทั้งหลายที่เป็นเจ้าของประเทศ ท่านช่วยลองคิดสิครับว่า อะไรสมควร ไม่สมควร"

นายสมัครยังอ้างด้วยว่า ในการอภิปรายงบประมาณ ปกติก็มีการซักถามเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว

"ผมย้ำเลยนะครับว่า งบประมาณ 2 วัน 3 วันข้างหน้านี้ ไม่รู้จะชอกช้ำขนาดไหน แต่ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ ผมย้ำให้ฟังเวลาที่พูดไปพูดมาโดนมากๆ เข้า นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะต้องร้องถามบอก นี่อภิปรายงบประมาณหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจครับ แล้วก็หัวเราะกันครื้นๆ เป็นทำนองอย่างนั้น" นอกจากนี้ นายสมัครยังย้ำด้วยว่า จะไม่มีการขยายเวลาเปิดสมัยประชุมออกไป เพราะเป็นการเปิดไว้เพื่ออภิปรายงบประมาณ และการอภิปรายงบประมาณก็มีความจำเป็นเร่งด่วนกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

"นั่นล่ะครับกำลังจะทำวันที่ 25-26 อาจจะคาบไป 27 ถ้าเขาต้องการมากกว่า เสร็จแล้ววันที่ 23 วุฒิสมาชิกขออภิปรายไม่ไว้วางใจ มันไหวไหมครับ พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าให้คิด 179 ให้ทำเอง ผมก็บอกว่ายังไม่ทำ จะยื่นเลย ก็ต้องให้ยื่นสิครับ ก็ยื่นมา และทำยังไง กฎหมายบอกว่ายื่นแล้วต้องบรรจุ อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องด่วน แล้วถามว่างบประมาณไม่ด่วนเหรอครับ งบประมาณก็ด่วน ไม่ไว้วางใจก็ด่วน และทำอะไรก่อนครับ ไม่ไว้วางใจก่อนเหรอครับ แล้วขยายเวลางบประมาณออกไป ผมไม่ทำหรอกครับ พระราชกฤษฎีกาไม่ได้กำหนดไว้เปิดมาเพื่ออะไร เปิดมา เพราะจะอภิปรายงบประมาณนี่ล่ะครับ เขาไม่เขียนใส่ไว้ตรงนั้นล่ะครับ เผื่อว่าจะมีอะไรจะได้เติมได้ แต่ว่าไม่ใช่เผื่อเอาไว้ว่าไม่ไว้วางใจจะได้สอดแทรกเข้ามาได้"

นายสมัครย้ำว่า ไม่ได้กลัวการอภิปราย และมองว่าฝ่ายค้านกระเหี้ยนกระหือรือเกินไป ทั้งที่รัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 4 เดือนเท่านั้น และไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด
 

"ผมต้องย้ำตรงนี้นะครับ ผมไม่ได้กลัว ไม่ได้เกรงท่าน บริหารมา 4 เดือนครับ 4 เดือนเท่านั้น จะโทษจะทำอะไรผิด ยังไม่ผิดหรอก ยกตัวอย่าง เช่น จะใช้คำนี้เดี๋ยวจะว่าผมอีก แต่ผมต้องใช้คำว่า กระเหี้ยนกระหือรือ พจนานุกรมบอกไว้แล้วว่า คำนี้ไม่หยาบคาย ใช้ได้ จะเอากันล่ะ แล้วยังไงครับ พอคิดเท่านั้นล่ะ ความคิดดำเนินการ แน่นอนทุกอย่างจะต้องคิด ต้องแสดงอาการ ยังไม่ทันประกาศเชิญชวน ยังไม่ได้ปฏิบัติการทั้งสิ้นเลยครับ โอ้โหข้อกล่าวหามาหมด ผมถึงบอกว่าผมยิ้มได้ล่ะครับพรรค์อย่างนี้ล่ะก็คือ ทำไมรีบร้อนรีบนั่นเหลือเกินกระเหี้ยนกระหือรือจะเปิดอภิปรายให้ได้ และถ้าไม่ยอมเปิดแปลว่าไม่ทำตามกติกา บอกว่าเขาด่าว่า เขาเล่นกันข้างถนน อุตส่าห์จะเอามาในสภา ถึงในสภาก็ไม่ยอม ถ้าถามว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ผมเป็นฝ่ายค้านยอมไหม สภาพเดียวกันนี้บอกประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอยู่เวลานี้ สภาพอย่างนี้ยอมเปิดไหมครับ ผมไม่ได้ดื้อรั้น และผมไม่ได้คิดว่ากลัวเกรงเลย 4 เดือนยังไม่ทำอะไรผิดพลาดหรอกครับ"

นี่เป็นจุดยืนของนายสมัครที่บ่งชี้ว่าจะไม่ยอมเปิดให้มีการอภิปรายทั่วไป ท่ามกลางความไม่พอใจอย่างหนักของ ส.ว.ที่จะขออภิปรายชำแหละรัฐบาลโดยลำพัง ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็เตรียมเปิด "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" โดยมีรายชื่อของรัฐมนตรีที่จะขึ้นเขียงแล้ว