3 ศาลตะเพิด! วาสนา-ปริญญา-วีระชัย ห้ามคุมเลือกตั้ง

3 ศาลตะเพิด! วาสนา-ปริญญา-วีระชัย ห้ามคุมเลือกตั้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤษภาคม 2549 15:54 น.

บรรยากาศการประชุมร่วมกันของประมุข 3 ศาล นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด และนายผัน จันทรปาน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหาทางออกของวิกฤตการเมืองอีกครั้ง

3 ศาลสุดทน"วาสนา-ปริญญา-วีระชัย" ยังเป็นทองไม่รู้ร้อน ไล่ตะเพิดพ้นเก้าอี้ห้ามคุมการเลือกตั้งอีกต่อไป ชี้หากปล่อยให้ทำหน้าที่อีกจะสร้างความเสียหายกับบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง พร้อมทั้งให้ทั้ง 3 คนรีบลาออกเพื่อเปิดทางให้ศาลฎีกาและวุฒิสภาเฟ้นกกต.ชุดใหม่ที่เป็นกลางและมีความอิสระปราศจากบุญคุณความแค้นจากฝ่ายใดอย่างแท้จริงโดยเร็ว

วันนี้(16 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายจรัล ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา แถลงที่สำนักงานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังการประชุมของประธานทั้ง 3 ศาลอันประกอบด้วย ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ซึ่งมีรายละเอียดคำต่อคำ ว่า ผลการประชุมได้มีข้อยุติหลายประการ ประการแรก ท่าน(ทั้ง 3 ศาล) มีความเห็นว่า การที่จะมีการขอให้ทางศาลเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ ทางศาลยังไม่มีทางที่จะเข้าไปร่วมดำเนินการกับการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 4 คน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเวลานี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปร่วมในรูปแบบใดก็ตาม เหตุผลก็เนื่องจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้ได้ถูกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการจัดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นความลับ ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการเลือกตั้งที่ผิดพลาดอย่างสำคัญในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เนื่องจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยมีหลักที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งว่า จะต้องดำเนินการเป็นการลับอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้มีช่องว่าง หรือเปิดทางให้มีการใช้เล่ห์กลโกงในลักษณะใดลักษณะหนึ่งในการแข่งขันการเลือกตั้งได้

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้ง 4 คน ได้ดำเนินการอย่างผิดพลาดไปอย่างใหญ่หลวงเช่นนั้น ทำความเสียหายให้เกิดแก่ประเทศชาติอย่างมาก หากปล่อยให้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นไปได้มากว่า จะไม่สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรมได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ที่ประชุมของท่านประธานศาลทั้ง 3 ศาล จึงเห็นพ้องกันว่า ทางศาลจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ก็ต่อเมื่อมีการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ จากบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง และมีความเป็นอิสระ ปราศจากบุญคุญ ความแค้น แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เข้ามาทำหน้าที่ และการดำเนินการในเรื่องนี้ก็จะดำเนินการได้ต่อเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบันทั้ง 4 คน ได้เสียสละลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่ดำเนินการ เพื่อเปิดทางให้กระบวนการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ โดยศาลฎีกา และวุฒิสภา สามารถดำเนินไปได้ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

สำหรับกรรมการการเลือกตั้งที่มีข่าวว่าได้เสียสละลาออกจากตำแหน่งไปแล้วนั้น ทางที่ประชุมท่านประธานศาลทั้ง 3 ให้ความชื่นชมในความเสียสละและความสำนึกรับผิดชอบในภารกิจของบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าที่เหลืออีกทั้ง 3 ท่าน จะใช้ช่วงโอกาสนี้เสียสละเพื่อประเทศชาติตามแบบอย่างที่ดีต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมี กกต. ชุดใหม่แล้ว การดำเนินการ ของ กกต.ชุดเก่าวานนี้ จะมีผลผูกพันธ์อย่างไรหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ท่านได้มอบหมายให้ทางฝ่ายวิชาการของศาลศึกษาในข้อกฎหมาย โดยข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ แต่ทางฝ่ายวิชาการของทั้ง 3 ศาลเห็นว่า การเริ่มดำเนินการของ กกต.วานนี้ ยังไม่เป็นการดำเนินการของ กกต.ที่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ถือเป็นมติที่ชอบด้วย มาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ 2541 ที่ระบุว่า องค์ประชุม ของ กกต.จะต้องมีไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ของ กกต.ทั้งหมด ขณะนี้ กกต.เหลือ 4 คน องค์ประชุม จะครบต่อเมื่อ ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่วานนี้การประชุม มีผู้เข้าร่วมเพียง 3 คน เทียบได้เพียง 75 เปอร์เซ็นต์ ของ กกต.ที่เหลืออยู่ทั้งหมด จึงเป็นการดำเนินการที่ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

ต่อข้อถามที่ว่า การประชุมที่ไม่ครบองค์ประชุมวานนี้ กกต.เพื่อต้องการจะเลี่ยงกฎหมายหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า จริงๆแล้ว กกต.ต้องยุติและไม่ควรดึงดันต่อไป เนื่องจากความเสียหาย ที่ประเทศชาติได้รับจากการดำเนินการ ของ กกต.ชุดนี้ เป็นรูปธรรมชัดเจน และไม่สามารถอยู่ปฎิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไป

สำหรับกกต.ที่ยังปฏิบัติหน้าที่มีอยู่ด้วยกัน 3 คนประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และ นายวีระชัย แนวบุญเนียร ส่วน พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ได้ยื่นใบลาออกแล้วโดยลงนามเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการพูดคุยไม๊ว่าการกระทำที่ไม่ครบองค์ประชุมมีเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมายหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ไม่ได้มีการวินิจฉัยจุดนี้ ขอให้ทางศาลได้วิเคราะห์ทั้งในด้านข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ชัดเจน ก่อนที่จะนำเสนอประธาน 3 ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป

ต่อข้อถามว่าจริงๆ แล้วกกต.ควรจะยุติการปฏิบัติหน้าที่ และลาออกเลยอย่างนั้นใช่หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ความเสียหายที่ประเทศชาติได้รับจากการดำเนินการที่ผิดพลาดของกกต.ชุดนี้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยมาตรฐานของผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีนั้น จะไม่สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของศาลได้เคยมีการเสนอแนะทางออกต่อกกต.แล้ว แต่ทางกกต.ก็ไม่ได้สนใจในยการปฏิบัติตาม แต่ครั้งนี้หวังว่าทางกกต.จะยอมรับข้อเสนอเพียงใด นายจรัญ กล่าวว่า มีสัญญานที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ โดยข่าวการลาออกของกกต.คนแรก จึงน่าเชื่อไปในทางที่ดีว่าอีก 3 ท่าน คงจะใช้โอกาสนี้ตัดสินใจ เสียสละให้แก่บ้านเมือง ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้มากเท่านั้น แต่ถ้าการแสดงความรับผิดชอบไม่เกิดขึ้น และต้องล่าช้าออกไปความเสียหายที่จะลุกลามและเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ก็จะต้องตกแก่ท่านที่ยังมิได้ใช้โอกาสนี้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง

อย่างนี้เป็นอันว่าหากกกต.ไม่ยอมลาออก จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า อันนี้ไม่ได้เป็นคำวินิจฉัยหรือมติที่ประชุม ท่านมอบหมายเพียงว่าถ้ากกต.ชุดนี้ยังคงที่จะยืนยันทำหน้าที่ต่อไป ทางศาลไม่สามารถเข้าร่วมรับผิดชอบหรือช่วยเหลือสนับสนุนได้ คนที่ดำเนินการไปเกิดเสียหายอย่างไรขึ้นแก่บ้านเมือง จะต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัว

ความรับผิดชอบนี้หมายถึงกกต.อาจถูกดำเนินคดีในทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีหลายคดีที่อยู่ในศาลใช่หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ไม่ได้มีการตกลงกันในเรื่องคดีความ เป็นการหาทางที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง แก้ปัญหาความติดขัดในบ้านเมือง

นอกจากการขอร้องให้กกต.ลาออกมีแนวทางอื่นไม๊ ที่จะทำให้กกต.หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายจรัญกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหาทางออกทางอื่น เพราะมั่นใจว่าโดยสภาพของเนื้อหาไม่มีเหตุผลใดๆ สำหรับกกต.ชุดนี้ที่จะดึงดันทำหน้าที่ต่อไป

มีการพูดถึงหรือไม่ ว่าถ้ากกต.ลาออกไป กระบวนการทั้งหมดที่ศาลจะดำเนินการสรรหากกต. ชุดใหม่จนถึงกระบวนการจัดการเลือกตั้งจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน นายจรัญกล่าวว่า ช่วงเวลานั้นจะไม่มากกว่าปกติมากมายนัก อาจจะไม่มากกว่าเท่าที่มีการกำหนดไว้ล่วงหน้าวานนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มติของกกต.วานนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของคณะรัฐมนตรี จะนำมติไปกำหนดวันเลือกตั้งได้หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า ไม่ได้บอกว่ามติไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการประชุมไม่ครบองค์ประชุม การลงมติอย่างนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมาย

ต่อข้อถามว่า หากกกต.ยอมเสียสละให้มีการแต่งตั้งกกต.ชุดใหม่ และศาลเชื่อว่าจะสามารถแต่งกกต.ชุดใหม่ถึงเวลาเลือกตั้งได้ภายในกรอบเวลาเดิมนั้นหมายถึงว่า จะให้มีการปลดล็อก 90 วัน ด้วยใช่หรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อยุติในการประชุมประเด็นนี้ แต่โดยหลักการทางศาลต้องการให้การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ นอกจากจะดำเนินไปโดยเรียบร้อยสุจริตยุติธรรมราบรื่นแล้ว ก็ควรจะต้องให้โอกาสทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าอย่างนี้จะทำให้พรรคการเมืองใหม่สามารถเข้ามาร่วมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ นายจรัญ กล่าวว่ายังไม่ได้วินิจฉัยไปไกลขนาดนั้น แต่ได้พูดคุยในหลักการว่าควรจะเปิดโอกาสให้คนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมให้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกกต.ที่เหลืออีก 3 คน หากยังดึงดันจะทำหน้าที่ต่อไปนั้น จะสามารถปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งต่อไปได้หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้มีข้อยุติในเรื่องนี้ แต่ว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุว่า กรรมการที่เหลือก็สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ แต่การทำหน้าที่ต่อไปได้นั้นเมื่อไม่มีความชอบธรรม ไม่ได้รับความไว้วางใจที่จะให้ทำหน้าที่แล้วนั้น หากดำเนินการอย่างใดผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป ก็จะเป็นประเด็นที่ถูกขยายให้ลุกลามต่อไปได้

มีการประเมินหรือไม่ว่ามีเหตุผลอะไรที่กกต.ชุดนี้ดื้อดึงไม่ยอมลาออก นายจรัญกล่าวว่านั้นเป็นปัญหาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ก็คงจะต้องแสวงหาคำตอบกันต่อไป

ต่อข้อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่ากกต.ควรจะลาออกเมื่อใด เพื่อให้กระบวนการสรรหากกต.ชุดใหม่ได้พอเหมาะกับเวลาในการจัดการเลือกตั้งครั้งหน้า นายจรัญกล่าว่า ถ้ากกต.เสียสละลาออกได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนตัวของประเทศชาติ มีผลกระทบต่อภาวะสุญญากาศของการเมืองการปกครอง กระทบถึงหลายเรื่องที่สำคัญ การแสดงความรับผิดชอบที่เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณค่ามากเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการพิพากษาของศาลปกครองวันนี้ ในเรื่องกกต.จัดการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีน้ำหนักเพิ่มให้กกต.ใช้พิจารณาตัวเองด้วยใช่หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่าหากคำพิพากษาไปในแนวทางนั้น ประเด็นการดำเนินการที่ผิดพลาดก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นที่กกต.น่าจะแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์