สนธิ แฉเล่ห์ทรราชยุบสภา ยันรวมพลังไล่ ทักษิณ ยืดเยื้อ

สนธิ แฉเล่ห์ทรราชยุบสภา ยันรวมพลังไล่ ทักษิณ ยืดเยื้อ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2549 01:21 น.

วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.25 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยกล่าวว่าการไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอนนี้เริ่มมีปัญหาเพราะว่า ยมบาลห้ามส่งทักษิณลงไปนรก เพราะกลัวจะเอานรกไปขายให้สิงคโปร์อีก วันนี้เทียนได้จุดติดแล้ว นายทักษิณดูถูกสติปัญญาของประชาชน เพราะใช้วิธีนั่งพูดจาเพ้อเจ้อทุกวันเสาร์ตั้งแต่วันเสาร์แรกปี 2544 จนถึงเสาร์สุดท้าย 25 ก.พ. 2549 วานนี้ พูดโกหกอยู่คนเดียว ตนทนไม่ไหวจึงขอพูดบ้าง โดยผ่านเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่อง 9 เมื่อกลางปี 2547 พูดความจริงให้ประชาชนฟังได้ถึง 9 ก.ย.2548 เพราะแทงใจดำทุกเรื่อง ตั้งแต่กรณีพระสังฆราช 2 พระองค์ กรณีโผแต่งตั้ง กรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา จึงมีคำสั่งด่วนถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ให้ยุติรายการทันที

หากเป็นคนธรรมดาก็คงจะเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ทำอะไร แต่ตนเห็นว่าชีวิตนี้มีแต่ความว่างเปล่า ถ้าทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองถึงตายก็คุ้ม จึงตัดสินใจสู้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.2548 ที่ตนจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพราะต้องไล่เป็นขั้นตอนให้เข้าใจ สาเหตุที่มีการประกาศยุบสภาเพราะมีจุดเริ่มต้นจากจุดนี้ เมื่อวันนั้นเราหาสถานที่จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ไม่ได้ จึงติดต่อไปที่ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขออนุญาตใช้หอประชุมเล็ก ก็มีพวกกเฬวราก ผีที่ไม่ผุดไม่เกิด พรรคไทยรักไทยหัวเราะเยาะ บอกให้จัดไปเถอะเพราะจะมีคนฟังไม่เกิน 100 คน แต่วันแรกหอประชุมเล็กธรรมศาสตร์ จุคนเต็มที่ไม่เกิน 600 คน แต่คนทะลักออกนอกห้องเกือบ 2,000 คน

นายสนธิ กล่าวว่า จัดได้ 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 จึงตัดสินใจขอย้ายมาที่หอประชุมใหญ่ที่จุดคนได้เต็มที่ 3,000 คน แทน ซึ่งตนกังวลว่าจะไม่เต็มจึงขอร้องให้พรรคพวกที่ทำงานด้วยกันมาช่วยนั่งให้เต็ม แต่ปรากฏว่าคนทะลักกว่า 8,000 คน จัดได้ไม่นานคนของ ไอ้หน้าเหลี่ยม ได้ส่งคนมาข่มขู่ธรรมศาสตร์ รองเลขาฯ พรรค นายจตุพร (พรหมพันธ์) ของไทยรักไทย ที่แอบอ้างว่าเป็นนักศึกษารามคำแหง มาเดินถือป้ายด่าพ่อล่อแม่ ขนาดเรียกชื่อยังเรียกตนว่า สินธุ เลย จึงไม่อยากให้อาจารย์สุรพลไม่สบายใจจึงต้องย้ายไปสวนลุมพินี นี่คือวิวัฒนาการมาถึงการยุบสภา เพราะยิ่งจัดคนยิ่งมาก

นายสนธิ กล่าวว่า พอจัดที่สวนลุมพินี คนก็มากจนล้นห้องเช่นเดิม แต่สันติบาลรายงานว่ามีแค่ 1,000 คน เมื่อจำนวนคนเพิ่มขึ้นเป็นหลายหมื่น ทั้งนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายภูมิธรรม เวชยชัย คนเดือนตุลา ก็เตือนว่าอย่าให้ตนพาคนเดิน เพราะจะเหมือน 14 ต.ค. จึงเกิดการกลั่นแกล้วทุกทาง ทั้งจ้างกุ้ยคลองเตยคนละ 500 บาท มาหาเรื่องทะเลาะกับประชาชนที่ฟังรายการ แต่พวกเรามาด้วยสันติ เป็นที่ทราบกันดีว่าท้องที่ของลุมพินีเป็นของ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ซึ่งคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นคนแต่งตั้งเอง ทำให้ช่วงหลังมีการก่อกวนการจัดรายการมากขึ้น ในขณะที่ผู้ร่วมฟังก็มากขึ้นด้วย เพราะประชาชนเริ่มโกรธเพราะเห็นว่าถูกรังแก และยังมีนายศิธา ทิวารี ใส่ความว่าประชาชนที่มาฟังเพราะรับเงิน

ต่อมา ตนจึงนัดหมายเพื่อจะได้เสียกันไปเลย พวกปากกล้าขาสั่นได้ยินก็กลัวจึงทำให้มีคำสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศเดินสายฟ้องร้องตนกับนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ และขบวนการตามล่า ตามสังหาร วางแผนให้ออกหมายจับตนที่ จ.ยโสธร แล้วมีการเตรียมรถบรรทุกไว้คอยชนอีกที แต่คนร่วมวางแผนทนไม่ได้มาเล่าให้ฟังก่อน เรื่องนี้ตนไม่เคยเปิดเผยมาก่อน นายทองก้อน (วงศ์สมุทร) จากวัดป่าบ้านตาด โทร.มาบอกให้ออกจากบ้านไปวัดป่าบ้านตาดเลย เพราะหลังจากนั้นมีคน 12 คน มาที่บ้านตน ส่วนสาเหตุที่ต้องจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ที่วัดป่าบ้านตาด เพราะไม่สามารถกลับมาจัดรายการที่สวนลุมฯ ได้ มีคนขับรถไม่มีหมายเลขทะเบียนวนเวียนที่วัดป่าบ้านตาด หลวงตาเมตตาไม่ให้กลับ และเทศน์ว่าถ้าจะจับสนธิให้มาจับหลวงตาไปด้วย หลวงตาจะกอดคอสนธิตายไปด้วย

นายสนธิ กล่าวว่า มีความพยายามที่จะให้ศาล จ.ยโสธร ออกหมายจับตน แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่ออกหมายจับ เพราะยังไม่มีหมายเรียกเลยแล้วยังพิจารณาข้อกล่าวหากรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่าไม่มีมูลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกระบวนการกล่าวหาว่าตนมีผลประโยชน์ส่วนตัวในการออกมาต่อต้าน มีคำสั่งไปที่ กสท ให้ระงับรายการ ASTV ห้ามถ่ายทอด สั่งระงับอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ผู้จัดการ จึงต้องฟ้องศาลปกครองขอให้คุ้มครอง ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจบัญชีของผู้จัดการ

เมื่อจำนวนคนมากขึ้น จึงเกิดการชุมนุมเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งตนประกาศขอนำครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มีคนมากว่าแสนอยู่กันจนเช้า เราชุมนุมด้วยความสงบ ยึดหลักอหิงสา คนที่สร้างความวุ่นวาย คือนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่พาพวกป่าไม้เอาระเบิดพลาสติก ขนคนเมาเหล้ามา 50% เป็นพวกพม่า เอามาไล่คนไทย ดังนั้น เมื่อทักษิณลงไป คนต่อไปที่ต้องเช็กบิล ก็คือนายยงยุทธ

คนที่ก่อเหตุคือฝ่ายตรงข้าม เราเป็นพวกอหิงสา รักสันติ ผมมาพูดเอาธรรมนำหน้า ไม่ได้เอากิเลสนำ เอาความจริงมาพูด แต่ไปเข้าหูอธรรมก็เลยไม่อยากฟัง แสลงใจ จากนั้นก็จัดวันที่ 11 ก.พ. ทักษิณ เป็นปัญหาของแผ่นดินไทย เป็นที่มาของการระดมพันธมิตรทั่วประเทศ องค์กรเอกชน ครู นักศึกษา นักเรียก มาร่วมมือกันเปล่งเสียงออกไปให้พระสยามเทวาธิราชได้ยิน ทักษิณเป็นปัญหาของประเทศ

นายสนธิ กล่าวว่า มีการประเมินว่าการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.นี้จะเป็นเรือนแสน และก่อนหน้านี้ตนและพันธมิตรได้เดินสายที่ จ.ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ไปภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา นครศรีธรรมราช เมืองเกือบแตก พอเห็นก็กลัวเพราะนึกไม่ถึงว่ามีคนเกลียดมากขนาดนี้ ไม่เคยคิด 19 ล้านเสียงที่แอบอ้างเป็น 19 ล้านเสียงที่เอาเงินฟาดหัวได้ แต่คนที่อยู่นี่เอาเงินฟาดหัวไม่ได้ ดังนั้น ทำให้มีการยุบสภา ก่อนวันที่ 26 ก.พ.เพราะยังคิดว่ายุบสภาแล้วก็จะหลอกลวงประชาชน ยุบแล้วก็เลือกตั้งใหม่ โกหกจนวินาทีสุดท้ายเพราะไม่เคยสนใจว่าเคยพูด 17-18 วันก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ พูดต่อหน้าประชาชน ที่ทำเนียบ ที่จ่ายคนละ 500 บาทเพื่อเอาดอกกุหลาบไปให้ ถ้าลาออกหรือยุบสภา ถือว่าทรยศต่อประชาชน แต่ 17 วันให้หลังยุบสภาเลย

โดยตามจารีตประชาธิปไตย การยุบสภาฯจะทำ 3 กรณี คือ 1.แพ้เสียงเสนอกฎหมายสำคัญ 2.แพ้เสียงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3.เกิดความวุ่นวายในสภา แต่ไม่เคยมีการยุบสภาฯ เพื่อหนีความผิด ซึ่งมีครั้งนี้แหละ

ขณะนี้เทียนจุดติดแล้ว สังคมเริ่มสว่าง ไอ้หน้าเหลี่ยมอยู่ไม่ได้ เราต้องอย่าหยุด ต้องสู้ต่อไป เราจะยืนหยัดต่อไปหรือไม่ เพราะขณะนี้มีพ่อแม่พี่น้องหลายจังหวัดกำลังเตรียมเก็บหม้อเก็บไหเพื่อเดินทางมา

ผมต่อสู้มา 6 เดือน บาดเจ็บสาหัสเลือดโทรมกาย สู้เพื่อประชาชน และประเทศชาติ อย่าให้การต่อสู้ต้องสูญเปล่า วันนี้ผมขอก้มลงกราบด้วยจิตคารวะ เพื่อให้ร่วมกันสู้หน่อยครับ

หลังจากนั้น นายสนธิได้ก้มลงกราบบนพื้นเวทีฯ โดยมีประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมปรบมือ พร้อมกับตะโกนขับไล่ทักษิณ... ออกไป กึกก้องทั่วท้องสนามหลวง

อ่านรายละเอียดคำปราศรัย สนธิ

พ่อแม่พี่น้องที่รักเคารพทั้งหลาย ทั้งที่เป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาจากต่างจังหวัด พ่อแม่พี่น้องชาวใต้ พ่อแม่พี่น้องชาว จ.เพชรบุรี ชลบุรี หลายๆ ที่ ตลอดจนพ่อแม่พี่น้องที่ชุมนุมกันอยู่ในต่างจังหวัด กระผมสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขออนุญาตคารวะจิตบริสุทธิ์ที่รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยครับ พ่อแม่พี่น้องครับ เราไล่นายกฯ ทักษิณตอนนี้เราเริ่มมีปัญหา เพราะว่า เมื่อตะกี้นี้นั่งทางในแล้วยมบาลได้มาคุยกับผมบอกว่าอย่าส่งลงไปนรกได้ไหมเพราะว่าประเดี๋ยวจะเอานรกไปขายสิงคโปร์อีก

พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เราจุดเทียนติดแล้วใช่ไม่ใช่ (ผู้ชุมนุมตอบ-ใช่) คนๆ นี้ดูถูกสติปัญญาของประชาชน วิธีดูถูกของเขา เขาใช้เวลาทุกวันเสาร์มานั่งพูดจาเพ้อเจ้อ หลอกลวงพวกเราตั้งแต่วันเสาร์แรกของปี 2544 จนวันเสาร์สุดท้ายเมื่อวันเสาร์ คือเมื่อวานนี้ พูดอยู่คนเดียว โกหกพกลม จนกระทั่งวันหนึ่งมีพี่น้องประชาชนบางคนรวมทั้งผมทนไม่ไหวก็บอกว่า คุณจะโกหกมากจนเกินไปแล้วขอผมได้พูดบ้าง ผมก็เลยใช้เวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ช่อง 9 ตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2547 เริ่มกล้าพูดความจริงให้พ่อแม่พี่น้องฟัง พูดจนกระทั่งถึงวันที่ 9 กันยายน 2548 มันไปแทงใจดำเขาทุกๆ ประการ มันไปแทงใจดำในเรื่องของกรณีสังฆราช 2 พระรูป 2 พระองค์ ไปแทงใจดำเขากรณีของโผแต่งตั้ง ไปแทงใจดำเขากรณีคุณหญิงจารุวรรณ เขาก็เลยสั่งมาโดยด่วนให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ให้ยุติรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ไปทันที

พ่อแม่พี่น้องครับ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ต้องทำอะไรแล้วพอแล้วอยู่เฉยๆ แต่ผมเห็นว่า ชีวิตนี้มีแต่ความว่างเปล่า ถ้าทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองถึงตายก็คุ้ม ใช่ไม่ใช่ (ผู้ชุมนุมตอบ-ใช่) ผมก็เลยตัดสินใจสู้ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2548 ที่ผมต้องพูดเรื่องนี้เพราะผมจะได้ไล่ให้ฟังเป็นขั้นตอน พ่อแม่พี่น้องจะเข้าใจว่า เขายุบสภาเมื่อ 1-2 ที่ผ่านมานี้ ทำไมเขาถึงยุบสภา เพราะว่าในที่สุดแล้วที่เขายุบสภานั้นมันมีสาเหตุจุดเริ่มต้นมาจากวันที่ 23 กันยายน 2548 23 กันยายน เราหาสถานที่จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ไม่ได้ เราก็เลยติดต่อท่านอธิการบดี ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ท่านอธิการบดีบอกว่า มาจัดได้ อาจารย์บางคนในธรรมศาสตร์บอกว่า นี่มันเป็นรายการการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาล อาจารย์สุรพลท่านบอกว่า ถ้าเราเอาเรื่องไร้สาระของบริษัทแกรมมี่ให้มาขอยืมหอประชุมจัดรายการได้ทำไมเราไม่กล้าพอที่จะเอาเรื่องที่มีสาระทางการเมืองให้ประชาชนและนักศึกษาได้มาศึกษาบ้าง พวกเราปรบมือให้ อาจารย์สุรพลด้วยครับ

พอเรามาจัดรายการเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2548 ก็มีพวกกระเฬวราก พวกผีที่ไม่ไปผุดไปเกิดซะที ที่อยู่พรรคไทยรักไทย ก็ออกมาหัวเราะเยาะ หลายๆ คนก็บอกว่าปล่อยให้มันจัดไป คงจะมีคนไม่เกิน 100 คน มานั่งฟังมัน วันแรกที่เราจัดหอประชุมเล็ก หอประชุมเล็กจุคนได้เต็มที่ไม่เกิน 600 คน ทั้งนั่งเก้าอี้ แล้วก็ทั้งนั่งบนพื้น ปรากฏว่าปรากฏการณ์วันนั้นมีคนทะลักออกมานอกห้องประชุม จนกระทั่งนับออกมาแล้วเกือบ 2,000 คน เราจัดไป 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เราตัดสินใจ ใจกล้าขึ้น เพราะเราคิดว่าประชาชนต้องการดูข่าวสารและฟังข่าวสารที่แท้จริง เราก็เลยใจกล้าย้ายมาที่หอประชุมใหญ่ เราก็กลัวอีก ว่าคนไทยนั้นอาจจะชอบรายการบันเทิง ไม่รู้ว่าหอประชุมใหญ่นี่จุคนได้ 3,000 กว่าคนสูงสุด จะมีคนมาเต็มหอประชุมหรือเปล่า เราถึงขนาดที่เรียกว่าต้องเรียกพรรคพวกที่ทำงานหนังสือพิมพ์ด้วยกัน บอก เฮ้ย ถ้าเย็นนี้ว่างให้ไปช่วยนั่งกันหน่อย ให้มันดูเต็มๆ ปรากฏว่าคนล้นห้องประชุมใหญ่ ทะลักออกมาข้างนอก มีคนทั้งหมด ทั้งห้องประชุมใหญ่และเล็ก 8,000 กว่าคน เราจัดอยู่ได้สักพักหนึ่ง ไอ้หน้าเหลี่ยมมันก็ส่งคนมาข่มขู่ธรรมศาสตร์ เพราะว่ามันคิดว่ามีคนมาฟังไม่เกิน 100 คน ปรากฏว่าคนมาก ไอ้รองเลขาฯ พรรคไทยรักไทย นายจตุพร มันก็ไปเอากุ๊ยแถวหน้ารามคำแหง แล้วมันก็แอบอ้างบอกเป็นนักศึกษารามคำแหง มาเดินถือป้ายด่าพ่อล่อแม่ผม ขนาดมันเรียกชื่อผมมันยังเรียกชื่อผมว่า สินธุ ไอ้ควาย! ชื่อยังเรียกผิดแล้วมาประท้วงอะไรกัน

หลังจากนั้นแล้ว เราก็เลยไม่อยากที่จะให้อาจารย์สุรพลต้องไม่สบายใจ เราก็เลยย้ายไปที่สวนลุมพินี ที่ผมต้องเล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่พี่น้องฟัง พ่อแม่พี่น้องจะได้เข้าใจวิวัฒนาการ และพัฒนาการ มาจนถึงการยุบสภา ที่มันยุบสภานี่ไม่ใช่อะไร เพราะว่าเราจัดแล้วจัดอีก จนกระทั่งคนมีมากขึ้นๆ พอเราไปจัดที่สวนลุมฯ สวนลุมฯ ก็แตก ห้องที่นั่งอยู่คนก็ล้นออกมาข้างนอก ล้นออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว สันติบาลก็ไปรายงานว่ามีทั้งหมด 1,000 คน รายงานไปรายงานมา ปริมาณคนก็เพิ่มมากขึ้น พอคนเริ่มเป็นหลายหมื่นคน พอมีหลายหมื่นคนขึ้นมา เจ้าหมอเลี้ยบ หมอพรหมินทร์ แล้วก็นายภูมิธรรม คน 14 ตุลาฯ เก่า ก็เลยบอกว่าอย่าให้สนธิพาพ่อแม่พี่น้องเดิน เดี๋ยวจะเหมือน 14 ตุลาฯ อีก ก็เลยเกิดกระบวนการกลั่นแกล้งพวกเราจำได้ไหมพ่อแม่พี่น้อง มันแกล้งทุกวิถีทาง มันไปจ้างไปพวกกุ๊ยแถวคลองเตยคนละ 500 บาท เข้ามาเพื่อหาเรื่องทะเลาะกับพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่าพ่อแม่พี่น้องเป็นคนซึ่งหนักแน่น มีขันติ มาด้วยสันติ เผอิญไอ้ท้องที่ลุมพินีนั้น จำได้เปล่าพ่อแม่พี่น้อง อยู่ในท้องที่ของ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ใช่มั้ยใช่ แล้วพ่อแม่พี่น้องรู้มั้ยว่านายโกสินทร์ หินเธาว์ ใครเป็นคนแต่งตั้งเขา คุณหญิงอ้อ เป็นเด็กของ พจมาน ชินวัตร นั่นคือเหตุผลว่า ในช่วงหลังๆ ในการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมฯ เขาจะพยายามหรี่ตาข้างหนึ่งให้ไอ้พวกก่อกวนสามารถเข้ามาก่อกวนเราได้ ปริมาณคนที่มาทุกอาทิตย์ก็เพิ่มขึ้น ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้นพ่อแม่พี่น้อง เพราะมันมารังแกเราใช่ไม่ใช่ (ผู้ชุมนุมตอบ-ใช่) พ่อแม่พี่น้องก็เลยโกรธ พ่อแม่พี่น้องก็เลยโกรธ

แล้วเจอไอ้ศิเทย ไอ้ศิธาที่ผมเรียกมันว่า ศิเทย ไอ้ศิธาก็ใช้ปากสุนัข ที่มาบอกว่าพ่อแม่พี่น้องรับเงิน(สัญญาณขาด) พ่อแม่พี่น้องก็เลยมาให้มันเห็น พอคนเริ่มเยอะขึ้น เยอะขึ้น พอผมบอกว่าวันที่ 9 จำได้ไหมพ่อแม่พี่น้องวันที่ 9 มาเถอะวันนี้เราจะได้เสียกันแล้ว คำว่า ได้เสียกันหมายความว่า เราจะเอาคนมาเยอะๆ เพื่อให้เขาเห็นว่า เสียงของประชาชนนั้นคุณปฏิเสธไม่ได้ เป็นธรรมชาติของไอ้คนปากกล้าขาสั่น พอมันได้ยินคำว่า ได้เสีย มันก็เลยประสาทแดก มันก็เลยคิดว่าวันนั้นเราจะพาคนไปเดิน ปรากฏว่า มันทำอะไรผมจำได้หรือเปล่า มันให้ตำรวจทั่วประเทศไทยเดินสายฟ้องผมกับคุณสโรชา จำได้ไม่ได้ (ได้) เพื่ออะไร เพื่อจะหาเหตุจับผมกับคุณสโรชาก่อนวันที่ 9 แล้วมันก็ส่งกระบวนการตามล่าผม ตามสังหารผม ว่าถ้าผมถูกหมายจับที่ยโสธรระหว่างที่เราขึ้นรถไปมันเตรียมรถบรรทุกเอาไว้ 2 คันคอยชนรถ แล้วก็บอกว่า ผบ....

คนที่เล่าให้ฟังคือคนที่อยู่ในขบวนการวางแผน แล้วมาบอกว่า พี่ผมทำพี่ไม่ได้เพราะว่าพี่เป็นคนที่รักชาติรักแผ่นดิน พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่อยู่วัดป่าบ้านตาดมีญาณสูงก็เลยโทรศัพท์สั่งทันทีคืนนั้น คืนนั้นที่ออกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พอกลับมาถึงบ้านคุณทองก้อนโทรศัพท์มาบอก คุณสนธิพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้ขึ้นรถไปเดี๋ยวนี้ ทิ้งทุกอย่าง นั่งรถไปที่วัดป่าบ้านตาดไปอยู่ในวัดเลย เพราะว่าหลังจากนั้นคืนนั้นมันส่งคนไปที่หน้าบ้านผม 12 คน มันส่งไป 12 คน (สัญญาณขาด) นี่ผมไม่เคยเล่าให้ฟัง ความ...(สัญญาณขาด) ของมันต้องมาเปิดเผยในที่นี้ท่ามกลางเวทีพ่อแม่พี่น้อง... (สัญญาณขาด) ที่วัดป่าบ้านตาด พ่อแม่ครูบาอาจารย์มีเมตตาสูง สั่งให้ผมเข้าไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ท่านหลวงตามหาบัวเดินมาล็อกประตูวัดด้วยตัวเอง แล้วสั่งบอกว่า อย่าให้ใครเข้า ท่านสั่งพระ ท่านพระอาจารย์ราญ ซึ่งเหมือนพ่อบ้านที่วัดป่าบ้านตาด ท่านไม่ต้องกินไม่ต้องนอนท่านมาเดินจงกรมหน้าบ้านที่ผมพักอยู่ เวรกรรมจริงๆ ไอ้เหลี่ยม ท่านเดินจงกรมอยู่ทั้งคืนเพื่อให้แน่นอนว่าไม่ใครลอบเข้ามาทำร้าย (สัญญาณขาด)

ไอ้ตำรวจยโสธรภายใต้ผู้บัญชาการตำรวจภูธร พล.ต.ท.สถาพร เหลาทอง นายตำรวจรุ่น 28 ซึ่งคนแต่งตั้งไอ้หมอนี่ก็คือ พจมาน ชินวัตร อีกเหมือนกัน ก็สั่งไปที่กองกำกับการตำรวจยโสธร บอกว่าให้ไปขอหมายศาล ขอให้สนธิให้ได้ ไปติดต่อที่ศาลยโสธร ศาลยโสธรประชุมองค์คณะใหญ่ แล้วบอกว่าคุณจะไปจับเขาได้ยังไง ก็ในเมื่อคุณยังไม่มีหมายเรียกไปเรียกเขามาสอบสวน มันกล่าวหาผมข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ปรากฏว่า นอกจากบอกว่าไม่ให้ออกหมายจับแล้ว เพราะว่าคุณไม่ได้ออกหมายเรียกเขามา ศาลก็ยังกรุณาพูดต่อ ว่าพิจารณาจากหลักฐานที่ส่งมาแล้ว ไม่เห็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล หมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ไหนเลย มันก็เลยหน้าแตกไปเลย พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนต่างถิ่นขับรถที่ไม่มีป้ายทะเบียน มาวนเวียนอยู่แถวๆ อุดรธานี วัดป่าบ้านตาด เพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าผมต้องเดินทางกลับมาจัดรายการที่กรุงเทพฯ ที่สวนลุมพินี หลวงตาท่านก็เมตตาจัง ท่านก็บอกว่า สนธิไม่ต้องกลับ อย่ากลับเด็ดขาดตอนนี้ ท่านถึงเทศน์ออกมา ท่านถึงบอกว่าถ้าจะจับสนธิให้มาจับหลวงตาไปด้วย หลวงตาจะกอดคอสนธิตายด้วยกัน ท่านก็บอกให้จัดที่นั่น เพราะว่าออกไปแล้วอันตราย นั่นคือที่มาของการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่วัดป่าบ้านตาด แล้วก็ถ่ายทอดมาที่สวนลุมฯ พ่อแม่พี่น้องจำได้หรือเปล่า ที่ผมไม่เคยเล่า ผมขี้เกียจพูด ผมขี้เกียจเล่าให้ฟัง ว่าไอ้เหลี่ยมกับพวกมันเนี่ยกลั่นแกล้งผมเยอะขนาดไหน มันไม่ต้องการให้มีวันนี้ เพราะว่ามีวันนี้แล้ว มันกำลังสรรหาวิธีการที่จะหนีออกจากประเทศไทย เพราะว่ามันตกกะใจ มันตกกะใจที่บอกว่า ไหนบอกว่ามี ผมดูกูเกิลแล้ว สวนลุมฯ มีแค่ 7,000 คน แล้ววันนี้มึงจะรายงานกี่คนเล่า นี่คือที่มา พ่อแม่พี่น้อง

พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีกระบวนการกลั่นแกล้งตลอดเวลา ก็บอกว่าผมมีผลประโยชน์ส่วนตัวกับมันแล้วขัดแย้ง บอกไปทุกเรื่อง สั่งให้ กสทฯ ระงับ ไม่ให้รายการ ASTV ได้ถ่ายทอด ทั้งๆ ที่ไม่ผิดกฎหมาย สั่งให้ กสทฯ ระงับการบริการอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ผู้จัดการ เราก็ฟ้องศาลปกครอง ศาลปกครองก็สั่งคุ้มครองชั่วคราว มันส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจภาษีบริษัท แม่...ง ตรวจแล้วตรวจอีก อธิบายไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจ แกล้งโง่ แกล้งไปหมดทุกอย่าง อันนั้นต้องเสีย อันนี้ต้องเสีย อันนั้นต้องเสีย อันนี้ทำไมไม่เสีย แต่พอถึง 37,000 ล้าน ของพ่อมัน มันไม่ยอมเสียเลยแม้แต่บาทเดียว

พอพ่อแม่พี่น้องเริ่มมีปริมาณคนมามากขึ้น ผมก็เลยกราบเรียนกับพ่อแม่พี่น้อง จำได้หรือเปล่า ผมบอกว่า พ่อแม่พี่น้องครับ ผมขอนำพ่อแม่พี่น้องเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายด้วยตัวเอง นั่นคือที่มาของการชุมนุมวันที่ 4 และวันที่ 5 จำได้หรือเปล่า ผมพาพ่อแม่พี่น้องมาที่ลานพระรูป ผมจำได้ ผมยังแต่งชุดขาวแบบนี้ แต่ผมโพกผ้ากู้ชาติสีขาว วันนั้นเราค้างกันที่ลานพระรูป ใช่มั้ยใช่ วันนั้นคนมาแสนกว่า เสร็จเรียบร้อยแล้ว คืนนั้นเราค้างทั้งคืน พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหม ผมลุกขึ้นมาพูดตอนตี 4 ผมบอกพ่อแม่พี่น้อง ตี 4 ของวันนั้น คืนนั้น พ่อแม่พี่น้องยังนั่งกันเต็มลานพระรูปเลย ไม่ได้ไปเลยแม้แต่คนเดียว เพราะฉะนั้น ตี 4 ตี 5 ของวันพรุ่งนี้ ถ้าพ่อแม่พี่น้องรักพวกเรา ให้อยู่กันถึงพรุ่งนี้เช้า

พอจัดถึงวันที่ 4 วันที่ 5 เราชุมนุมพ่อแม่พี่น้องด้วยความสงบ ด้วยหลักอหิงสา พิสูจน์ให้ไอ้พวกหน้าเหลี่ยมมันเห็นว่าเรามาด้วยสันติ ไอ้คนที่สร้างความวุ่นวายก็คือไอ้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ใช่ไม่ใช่ ที่เขาพาไอ้พวกป่าไม้ ไอ้พวกป่าไม้แทนที่มันจะดูแลรักษาป่ามันทะลึ่งมาดูแลรักษาต้นไม้ในสวนลุมฯ แทน เอาระเบิดพลาสติกมา ขนคนมา เมาเหล้าเมายา แล้วไอ้คนที่มันขนมา 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นพวกพม่า มันเอาพม่ามาไล่คนไทยอย่างพวกเราพ่อแม่พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้วทักษิณลงไปเราต้องเช็กบิลยงยุทธหรือเปล่า (ผู้ชุมนุมตอบ-เช็ก) ไม่ได้ยิน เราจะเช็กบิลมันไหม (ผู้ชุมนุมตอบ-เช็ก) เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัด คนที่ก่อเหตุก็คือฝ่ายตรงกันข้ามตลอดเวลา เราเป็นพวกอหิงสารักสันติ ผมเดินหน้ามาพูดกับพ่อแม่พี่น้องผมเอาธรรมนำหน้า ผมไม่ได้เอากิเลสนำหน้า เอาความจริงให้พ่อแม่พี่น้องฟัง แต่ธรรมที่ผมพูดนั้นมันไปเข้าหูอธรรม ซึ่งมันไม่เคยเชื่อในเรื่องธรรมอยู่แล้วมันถึงไม่อยากจะฟังกัน พอพูดแล้วก็แสลงใจ พอหมดวันที่ 5 ผมก็บอกว่า มาจัดกันอีกทีวันเสาร์ที่ 11 คราวนี้ ผมบอกว่าทักษิณไม่ใช่ปัญหาของผมหรือปัญหาพ่อแม่พี่น้องอีกแล้ว ทักษิณเป็นปัญหาของแผ่นดินไทย

นั่นคือที่มาของการระดมพันธมิตรกู้ชาติทั่วประเทศไทย ทั้งองค์กรเอกชน ทั้งครู ทั้งนักศึกษา นักเรียน เรามาร่วมกัน มาจับมือกอดคอกันแล้วเราเปล่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ออกไปให้สังคมไทยให้พระสยามเทวาธิราชได้ยินว่า ทักษิณ ชินวัตรนั้นเป็นปัญหาของแผ่นดินไทย ท้ากกกษิณ (ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป) ท้ากกกษิณ (ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป) ท้ากกกษิณ (ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป) พ่อแม่พี่น้องครับพอพ้นวันที่ 11 มาพวกเราพันธมิตรทั้งหมดตกลงใจกันว่า เราจะจัดงานใหญ่วันที่ 26 คือวันนี้ เราจะเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทั่วประเทศไทยเข้ามาร่วมกับเรา เข้ามาร่วมอุดมการณ์ เอาประเทศไทยของเราคืนมา วันนี้ พอพวกมันรู้เข้าขี้แตกขี้แตนกันเป็นแถว เพราะจากการที่เราชุมนุมกันวันที่ 4 วันที่ 5 แล้ววันที่ 11 ไอ้คำพูดที่บอกว่ามี 1,500 คนนั้นไม่พูดแล้ว ก่อนที่จะถึงวันที่ 26 วางแผนกันเรียบร้อยแล้วว่าจะทำวิธีไหนไม่ให้พ่อแม่พี่น้องมากัน เพราะว่ากระทรวงมหาดไทย สันติบาล ซึ่งไอ้ 2 หน่วยงานนี้ธรรมดามันก็บอก เรามีแค่ 1,500 คนเท่านั้นเอง ปรากฏว่าไปประเมินแล้ว กระทรวงมหาดไทยประเมินว่า คนจะมาเป็นแสน จู่ๆ คนที่เคยประเมินว่า 1,500 คน บอกว่าจะมาเป็นแสน ไอ้เหลี่ยมมันก็เลยขาสั่นพั้บๆๆๆๆ จากวันที่ 11 จนกระทั่งก่อนถึง 26 พ่อแม่พี่น้อง ผมเดินสายไปขอนแก่น ผมเดินสายไปร้อยเอ็ด ผมกับพันธมิตรฯ เดินสายไปภูเก็ต ภูเก็ตเมืองเกือบแตก หาดใหญ่ มอ.เกือบแตก สงขลา อ.เมืองเกือบแตก นครศรีธรรมราชเมืองเกือบแตก มันดู ASTV มันก็เลยกลัวพวกเรา เพราะว่ามันนึกไม่ถึง ว่าจะมีคนเกลียดมันเยอะถึงขนาดนี้ เพราะว่าเขาไม่เคยคิด ไอ้ 19 ล้านเสียงที่แอบอ้างนั้น เป็น 19 ล้านเสียง ที่เขาเอาเงินฟาดหัวได้ แต่พ่อแม่พี่น้องที่นั่งในนี้ เอาเงินฟาดหัวพ่อแม่พี่น้องไม่ได้ ใช่มั้ยใช่

เพราะฉะนั้นแล้ว พ่อแม่พี่น้องที่รัก นี่คือการยุบสภาก่อนวันที่ 26 เข้าใจรึยัง พ่อแม่พี่น้อง เพราะว่าเขายังคิดว่าถ้าเขายุบสภาแล้ว (มีเสียงแปลกปลอม) หวังว่าคุณคงไม่ใช่สายทักษิณนะ ผมพูดเล่น หลังจากยุบสภาแล้ว ก็จะหลอกลวงพ่อแม่พี่น้อง ว่า อ้าว ก็ผมยุบสภาแล้วคุณยังไม่พอใจอะไรอีก ก็เลือกตั้งกันใหม่สิ ดูสันดานโกหก โกหกจนวินาทีสุดท้าย ไม่เคยสนใจว่าตัวเองเคยพูดมาเมื่อ 17 วันที่แล้ว 17-18 วันที่แล้ว พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร พูดต่อหน้าประชาชนที่ทำเนียบรัฐบาล ประชาชนที่มันจ่ายเงินคนละ 100 บาท เอาดอกกุหลาบไปให้น่ะ พูดว่ายังไง พูดบอกว่า ถ้าผมลาออกหรือยุบสภา ผมเป็นคนที่ทรยศต่อประชาชน 17 วันให้หลัง มันยุบสภาเลย มันเลวมั้ยเลว (((ผู้ชุมนุมตอบ-เลว)))) โกหก ตอแหล ไม่มีดีเลย

พ่อแม่พี่น้อง คนๆ นี้ไม่เข้าใจแม้กระทั่งประชาธิปไตย หลักการยุบสภาตามจารีตประเพณีทางการเมือง เขายุบสภาเพียง 3 กรณีเท่านั้นเอง กรณีแรก รัฐบาลแพ้เสียงในเรื่องของการเสนอกฎหมาย โดยมารยาทรัฐบาลลาออกหรือยุบสภา กรณีที่ 2 รัฐบาลแพ้เสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีที่ 3 เกิดความวุ่นวายใน ส.ส. ในพรรคการเมืองต่างๆ เลยต้องยุบสภา ไม่เคยมีจารีตประเพณีของการยุบสภาเพื่อหนีความผิด เพิ่งจะมีครั้งนี้แหล่ะ พ่อแม่พี่น้อง ที่ยุบสภาแล้วหนีความผิด

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน เทียนที่เราจุดนั้นมันติดไปหมดแล้ว เห็นหรือยัง ผมเคยพูด ผมบอกว่าเมื่อเทียนติดแล้ว สังคมมันเริ่มสว่าง ไอ้พวกผีอย่างไอ้หน้าเหลี่ยมและพวกมันเนี่ยมันจะอยู่ไม่ได้ เห็นรึยัง อย่าหยุด ต้องจุดต่อไป

พ่อแม่พี่น้อง เราจะยืนหยัดกันที่นี่รึเปล่า (((ผู้ชุมนุมตอบ-ยืน))) พ่อแม่พี่น้อง ยังมีพ่อแม่พี่น้องจากต่างจังหวัดหลายจังหวัด เก็บข้าวเก็บของ เก็บหม้อเก็บไห กำลังขึ้นรถไฟ นั่งรถทัวร์ เดินทางมา วันพรุ่งนี้เย็นสนามหลวงแตกแน่ๆ พ่อแม่พี่น้อง สนามหลวงแตกแน่ๆ วันพรุ่งนี้เย็น พวกเราต้องรอต้อนรับพ่อแม่พี่น้องจากต่างจังหวัด ใช่มั้ยใช่ (((ใช่)))

พ่อแม่พี่น้องครับ ผมสู้มา 6 เดือน บาดเจ็บสาหัส เลือดโทรมกาย เจ็บช้ำน้ำใจ สู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อประชาชน อย่าให้การต่อสู้ 6 เดือนที่ผ่านมา ที่ผมต้องเสียเลือดเนื้อ ให้มันสูญเปล่า พ่อแม่พี่น้อง วันนี้ผมขอก้มลงกราบด้วยจิตคารวะ ด้วยความรักในตัวพ่อแม่พี่น้อง ให้ร่วมกันสู้กับผมหน่อยครับ (ก้มลงกราบ...คนดูโห่ร้องยินดี) ท้ากกกกกก ษิณ (((ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป))) ท้ากกกกกก ษิณ (((ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป))) ท้ากกกกกก ษิณ (((ผู้ชุมนุมตอบ-ออกไป)))

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์