“เทพเทือก”ยันรัฐบาลไม่มีนโยบาลฆ่าตัดตอน

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง “เทพเทือก”ยันรัฐบาลไม่มีนโยบาลฆ่าตัดตอน

“สุเทพ” ป้อง “อัศวิน” เชื่อทำดีที่สุดแล้ว ชี้วิฯ “โจ๊ก ไผ่เขียว” ตามหลักสากล สั่งขันน็อตปราบยานรกครั้งใหญ่ ลั่นใครเอี่ยวเจอเชือด ลุยยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะ 3 ยันไม่มีนโยบายประกาศสงคราม-ฆ่าตัดตอน

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึงการหารือกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ.10) รรท.ผบช.ภ.1 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้เชิญมาเพื่อขอบคุณ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ได้ช่วยทำให้ประชาชนรู้สึกมีความหวังและมีความมั่นใจว่าเมื่อมีปัญหาอาชญากรรมขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดำเนินการจับกุม นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะคดียิงน้องโตมีถือว่าสะเทือนใจคนมาก พล.ต.อ.อัศวิน ได้จัดทีมพิเศษระดมไปช่วยกันทำงานและทำได้สำเร็จ ซึ่งต้องขอบคุณและชื่นชมเขา ขณะเดียวกันตนได้ขอให้ พล.ต.อ.อัศวิน ช่วยขยายผลกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด เพราะคนกลุ่มนี้กระทำการด้วยควาเหิมเกริมมาก เมื่อมีพยานหลักฐานพอที่จะสาวไปถึงคนอื่นได้ก็ให้เร่งดำเนินการ ส่วนที่ระบุว่าจะให้ พล.ต.อ.อัศวิน เป็น ผบช.ภ.1 ตัวจริงนั้น ตนคิดว่าการรักษาการณ์เขาทำได้ดีอยู่แล้ว ขวัญและกำลังใจของตำรวจภูธรภาค 1 ก็ดีขึ้นและจริงจังขึ้น ซึ่งตนยังพอใจอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่มีคลิปหลุดระหว่างการจับกุมและวิสามัญ นายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้เห็นว่าคลิปเป็นอย่างไร แต่ก็ได้ให้ พล.ต.อ.อัศวิน เล่าให้ฟังว่าทำงานอย่างไร จึงคิดว่าตำรวจได้ทำดีที่สุด และทำตามอำนาจหน้าที่ เพราะคนร้ายได้ต่อสู้เจ้าหน้าที่ ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามหลักที่ตำรวจทั้งหลายในโลกนี้ก็ต้องปฏิบัติอย่างนั้น

เมื่อถามว่า เครือข่ายแก๊งไผ่เขียวใหญ่ขนาดไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่ลงไปลึกขนาดนั้น

แต่พูดหลักการไปแล้วว่าขบวนการนี้มีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับใครก็ต้องเข้าไปดำเนินการ ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เลี้ยงไข้แก๊งค้ายาเสพติด จนปราบปรามไม่สำเร็จเสียที เมื่อมีคนทำความผิดก็ต้องจับกุมมาดำเนินคดี แต่บางทีตำรวจอาจจะขาดขวัญ กำลังใจในบางพื้นที่ จึงต้องมีผู้นำหน่วยที่มีความเข้มแข็ง เพื่อไปกวดขันกับผู้บังคับบัญชาในระดับชั้นให้ดูแลตำรวจให้ทำงานอย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า นายจิ๊บและโจ๊ค ไผ่เขียว ทำกันมาเป็นปีจะมีนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานการเกี่ยวข้องอย่างนั้น แต่ยืนยันได้ว่าไม่ว่าเป็นนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ ถ้าใครเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีวันยอมให้ยาเสพติดเด็ดขาด

ส่วนปัญหาที่มีการสั่งซื้อขายยาเสพติดมาจากนักโทษในเรือนจำนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะสกัดได้ คนที่ทำผิดก็ต้องลงโทษเพิ่มเติม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้เข้มงวดกวดขันและลงไปคุมเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ส่วนที่มีการปล่อยให้ใช้โทรศัพท์สั่งซื้อมาจากในเรือนจำนั้น ต้องหาทางป้องกันให้ได้ ไม่ให้ลักลอบนำโทรศัพท์เข้าไป รวมทั้งจะเข้มงวดกับการตัดสัญญาณโทรศัพท์ภายในเรือนจำสำคัญ ๆ ด้วย ส่วนปัญหาที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ตนเชื่อว่ามีน้อย แต่ถ้าเจ้าหน้าที่คนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะดำเนินการทันที รับรองไม่มีอนาคตแน่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ให้ออกจากราชการไปมากแล้ว

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่าที่ยาเสพติดระบาดมากอีกครั้งเพราะอำนาจรัฐอ่อนแอ นายสุเทพ กล่าวว่า อำนาจรัฐอ่อนแอไม่ได้ ไม่เช่นนั้นประเทศจะเสียหาย และประชาชนจะเดือดร้อน จึงต้องทำให้เข้มแข็ง

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. เพื่อระดมสรรพกำลังทำงานให้เข้มแข็งมากขึ้น

เพราะประชาชนกังวลใจมาก ก่อนหน้านี้ตนลาออกไปสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเกือบ 2 เดือน จึงทำให้การทำงานเรื่องนี้ขาดช่วงไป ตอนนี้ก็ต้องรีบมาดำเนินการให้รวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตามคงไม่ถึงขั้นประกาศสงครามกับยาเสพติด เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายฆ่าฟันให้ล้มตายกันหรือฆ่าตัดตอนโดยเด็ดขาด แต่เราจะปฏิบัติตามกฎหมายและกวดขันให้เคร่งครัด โดยใช้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันเป็นหลักและกำหนดแผนปฏิบัติการเป็นระยะ ซึ่งขณะนี้นายกฯ ได้ลงนามในคำสั่งแผนปฏิบัติการระยะที่ 3 แล้ว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีใหม่นี้เป็นต้นไปเป็นเวลา 1 ปี

ขณะเดียวกันตนก็จะเน้นการปราบปราม ซึ่งเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ได้สั่งการไปยังตำรวจนครบาลทั้ง 9 แห่งแล้วให้ลงไปถึงระดับชุมชน

ทั้งผู้ค้าและผู้เสพต้องถูกดำเนินคดี และในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ จะประชุมตำรวจตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการลงไปจนถึงผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัด เพื่อสั่งการให้ปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่ จากนั้นหลังปีใหม่เมื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับการเสร็จเรียบร้อยก็จะเรียกประชุมระดับผู้กำกับทั่วประเทศอีกครั้งต่อไป.