มิสภูฏานปิ๊งไทย ปลื้มส้มตำยิ้มสยาม


หลังจากได้รับตำแหน่งมิสภูฏาน 2008 การประกวดนางงามของประเทศที่มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี ของราชวงศ์วังชุก และการรณรงค์บทบาทสตรีในประเทศ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปลายปีที่ผ่านมา น.ส.โชคีย์ โชโม คาร์ชุง (Tshokey Tsomo Karchung) หรือเรียกสั้นๆ ว่า โชคีย์ สาวผิวน้ำผึ้ง วัย 24 ปี ตอนนี้เข้ามาหาประสบการณ์การทำงานด้านแฟชั่นในประเทศไทย

ในงานเปิดตัวนาฬิกาโฆรุ่ม รุ่นโกลเด้น บริดจ์ เลดี้ ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม โชคีย์อวดโฉมในฐานะนางแบบดาวเด่นของงาน พร้อมกับนางงามของไทย ซินดี้ สิริดา เจนเซ่น มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2550 และ รยากร สุวรรณ์ นางสาวเชียงใหม่ 2550

โชคีย์ เล่าว่า จบปริญญาตรีทางด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดา หลังจากนั้นมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงเข้ามารักษาตัวอยู่ที่ประเทศไทยและศึกษาต่อ ด้านวิดีโอโปรดักชั่น ที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ วิทยาเขตหัวหิน เป็นเวลา 1 ปี จนจบการศึกษา ทำให้พูดและเข้าใจภาษาไทยได้บ้าง

นางงามสาวภูฏาน กล่าวว่า มีอาหารที่ชอบในไทยคือส้มตำรสเผ็ด ประทับใจคนไทยในเรื่องความอบอุ่นที่สัมผัสถึง รอยยิ้มที่แจ่มใสของคนไทย รวมถึงอากาศที่ดี ทำ ให้อยากมาอยู่ประเทศไทย

ระหว่างการเดินแบบครั้งนี้ โชคีย์เผยรอยสักเป็นตัวอักษรที่แขนด้านซ้ายมือ สาวงามภูฏานกล่าวว่า เป็นบทสวดมนต์ที่มีความหมายว่าทุกสิ่งทุกอย่าง มีเกิดมีตาย เพราะฉะนั้น ต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังสักไว้เพื่อป้องกันตัวเองจากการที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงอีกด้วย


โชคีย์เล่าถึงการจัดประกวดมิสภูฏานที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกว่า เพื่อต้องการให้ผู้หญิงมีบทบาทมากยิ่งขึ้น การได้รับตำแหน่งทำให้เธอมี หน้าที่ประชาสัมพันธ์ประเทศภูฏาน ในปีที่ผ่านมาราชอาณาจักรภูฏานจัดพระราชพิธี เฉลิมฉลอง 3 เรื่องพร้อมกันคือ 1.พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก 2.การเฉลิมฉลอง 100 ปีราชวงศ์ภูฏาน และ 3.การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข

ในการประกวดมีการสวมชุดว่ายน้ำ แต่จะให้คณะกรรมการดูเท่านั้น เมื่อขึ้นบนเวทีจะสวมชุดราตรี และมีการตอบคำถามที่คำนึงถึงความเฉลียวฉลาดและสติปัญญา เพราะตำแหน่งนี้จะเป็นตัวแทนประเทศต่อไป

ทางด้านครอบครัว บิดาเป็นเจ้าของสถานีเคเบิล EMT มารดามีธุรกิจส่วนตัวทางบริษัททัวร์และบริษัทก่อสร้าง มีพี่สาว 1 คน และน้องชาย 1 คน

ขณะนี้ตั้งใจว่าจะอยู่ประเทศไทยอย่างไม่มี กำหนด เพื่อศึกษาต่อด้านบุคลิกภาพและด้านแฟชั่น โดยยังไม่ระบุสถานที่เรียน รวมถึงการทำงานทางด้านวงการบันเทิงด้วย

หากให้เปรียบเทียบความแตกต่างของผู้ชายไทยและผู้ชายภูฏาน โชคีย์ตอบอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า ชายภูฏานอยู่กับภูเขาทำให้แข็งแกร่ง อดทน ไม่ค่อยนุ่มนวล แตกต่างกับชายไทยที่อยู่บนพื้นราบ จะนุ่มนวลและอ่อนหวานมากกว่า ซึ่งตอน นี้ยังไม่มีความรักจึงไม่สามารถบอกได้ว่าชอบแบบไหน

โชคีย์พูดถึงผู้หญิงที่ประเทศภูฏานว่า มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น สมัยก่อนหญิงภูฏานมีหน้าที่เพียงเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ดูแลครอบครัว แต่ตอนนี้กลับมีบทบาทมากขึ้น ทั้งด้านตำแหน่งหน้าที่การงานต่างๆ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์