ศิริราชส่องกล้องรักษาแฝดในครรภ์แก้ไขหลอดเลือดที่รกผิดปกติสำเร็จแห่งแรกในอาเซียน

ศิริราช 18 พ.ค.- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ ผ่าตัดส่องกล้อง “ฟีโตสโคป” รักษาแฝดในครรภ์แก้ไขหลอดเลือดที่รกผิดปกติ ขณะนี้ทารกแฝดคลอดออกมาสมบูรณ์ทั้ง 2 คน นับเป็นความสำเร็จแห่งแรกในอาเซียน
 

ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานแถลงข่าวร่วมกับคณะแพทย์

เรื่อง “ศิริราชส่องกล้องรักษาแฝดในครรภ์แก้ไขหลอดเลือดที่รกผิดปกติ สำเร็จเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ผศ.นพ.ตวงสิทธิ์ วัฒกนารา ผู้ทำการผ่าตัดรักษาทารกครรภ์แฝดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยวิธีส่องกล้อง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคณะแพทย์ ได้ใช้กล้องส่องตรวจทารกในครรภ์ หรือ ฟีโตสโคป (fetoscope) เนื่องจากเป็นแฝดเกิดจากไข่ใบเดียวกัน และที่หลอดเลือดทารกเชื่อมต่อกันผิกปกติ ทำให้เกิดการถ่ายเลือดระหว่างทารกทั้งสอง ทางการแพทย์เรียกว่า “โรคถ่ายเลือดในครรภ์แฝด” หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทารกคนหนึ่งจะเติบโตช้า แคระ แกร็น ขณะที่อีกคนกลับมีขนาดตัวโตผิดปกติ จากการได้รับเลือดมาก และถ้าปล่อยไว้อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตทั้ง 2 คน


ขั้นตอนการผ่าตัดใช้กล้องขนาดเล็กเพียง 2 มิลลิเมตร สอดเข้าโพรงมดลูกแล้วใช้เลเซอร์จี้ตัดหลอดเลือดที่ผิดปกติให้ขาดออกจากกัน

เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดที่เชื่อมระหว่างทารกทั้ง 2 คนหยุดลง ช่วยให้ทารกเจริญเติบโตได้ตามศักยภาพของตนเอง ทั้งนี้ การผ่าตัดจะได้ผลดีต้องอยู่ในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 16-24 สัปดาห์ หลังจากนั้นต้องอยู่ในความดูแลของสูตินารีแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ส่วนกรณีคนไข้รายนี้ได้ตัดสินใจที่จะผ่าคลอดขณะตั้งครรภ์ได้ 35 สัปดาห์โดยผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ ได้ทารกแฝดเพศชาย น้ำหนักแรกคลอด 2,540 กรัม และ 2,180 กรัม เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา


ด้านนางญานี โพธิบัวทอง อายุ 41 ปี คุณแม่ครรภ์แฝดที่ได้รับการรักษา กล่าวว่า รู้สึกกังวลกับการผ่าตัด

ซึ่งการทำเลเซอร์สามารถกระตุ้นน้ำคร่ำ อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือแท้งได้ แต่จำเป็นต้องทำเลเซอร์เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยหลังการผ่าตัดได้พักฟื้น 7 วัน หลังจากคลอดแล้วก็ได้ดูแลทารกตามปกติ
ผศ.นพ.ตวงสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ การผ่าตัดรักษาด้วยวิธีส่องกล้องยังใช้แยกแฝดในครรภ์แบบกาฝาก (acardiac twins) ซึ่งเป็นภาวะที่ทารกแฝดไข่ใบเดียวกันที่คนหนึ่งมีความพิการอย่างรุนแรง ไม่สามารถพัฒนาเป็นอวัยวะ แต่จะดูดเลือดและสารอาหารจากทารกที่ปกติตลอดเวลา หากไม่ได้รับการรักษา ทารกปกติจะแท้งในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์