ยาสูบเอาใจขี้ยาเปิดสโมสรขายถูก

นางชื่นใจ ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด โรงงานยาสูบ (รยส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รยส. กำลังทำหนังสือเสนอต่อผู้อำนวยการ รยส.

เพื่อขออนุมัติให้ รยส. เข้าไปแทรกแซงตลาด ด้วยการนำบุหรี่ไปขายให้แก่ผู้ค้าปลีกในต่างจังหวัดโดยตรง ส่วนใน กทม. ผู้ค้าปลีกสามารถมาซื้อได้ที่สโมสร รยส. ในพื้นที่ รยส. ที่คลองเตยได้เลย ซึ่งแต่ละวันจะมีผู้เข้าคิวขอซื้อมาก แต่ยืนยันว่ารยส. มีสำรองเพื่อขายเพียงพอ เพื่อบรรเทาปัญหาการกักตุนบุหรี่ ซึ่งจากการสอบถามกลุ่มผู้ค้าส่ง (ป1) ที่ซื้อบุหรี่จาก รยส. โดยตรงนั้น พบว่า กลุ่มนี้ซื้อแล้วส่งขายหมดทันที แต่การกักตุนจะเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ขายส่งช่วง (ป2)
 
ปัจจุบันนี้ รยส. ยังคงผลิตบุหรี่ในระดับปกติที่ วันละ 16,000 หีบ หรือ 16 ล้านมวน

เป็นบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์ 8,000 หีบ สายฝน  และวันเดอร์เขียว 3,000 หีบ ที่เหลือจะเป็นยี่ห้ออื่น ๆ รวมกัน ขณะที่ปริมาณการขายต่อวันอยู่ที่ 19,000 หีบ ซึ่งปริมาณการขายจะมากกว่ายอดผลิตแต่ละวัน เนื่องจากนำสต๊อกเก่ามาขายด้วย ทั้งนี้คำสั่งซื้อบุหรี่ไทยในแต่ละวันยังอยู่ในระดับปกติ
 
“แม้เราจะมีสิทธิผลิตบุหรี่เพิ่มได้ แต่คงไม่ผลิตเพิ่ม เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีประโยชน์ เพราะบุหรี่จะถูกกักตุนโดยกลุ่มผู้ค้าช่วงอยู่ดี ทั้งนี้ รยส. เตรียมนำบุหรี่ยี่ห้อใหม่จำหน่าย เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาราคาบุหรี่แพง”

 
นางชื่นใจ กล่าวว่า รยส. คาดว่ายอดขายบุหรี่ลดลง เมื่อราคาปรับเพิ่มขึ้นแล้ว จากปกติมียอดขายเดือนละ 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นบุหรี่ที่ 2.5 ล้านหีบ จะลดเหลือ 2 ล้านหีบ

แต่จากการเก็บข้อมูลในอดีตพบว่า ยอดขายที่ปรับลดลงจะกินเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น จากนั้นยอดขายจะกลับมาอยู่ที่ระดับปกติ โดยปัจจุบันนี้บุหรี่ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 80% ที่เหลือเป็น ของบุหรี่นอก ซึ่งแอลเอ็มมีส่วนแบ่งของบุหรี่นอกมากที่สุดที่ 90% เพราะมีราคามากกว่าราคาบุหรี่ไทยเพียง 4 บาทเท่านั้น
 
ด้านนายกิตติ แสงวัฒนะ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบกล่าวว่า สมาคมได้หารือกันถึงปัญหาบุหรี่ขาดตลาด

และได้ข้อสรุปว่า จะขอเพิ่มคำสั่งซื้อบุหรี่จาก รยส. เป็นพิเศษเพิ่มอีก 10,000 หีบ เพื่อบรรเทาปัญหา ซึ่งจะขายตรงต่อร้านขายปลีก (ป3) โดยตรง ไม่ผ่านตัวแทนขายช่วง ลดปัญหากักตุนสินค้า แต่ รยส. ไม่เพิ่มจำนวนให้ตามที่ขอ โดยเพิ่มให้เพียง 2,000 หีบเท่านั้น 
 
ปัญหาโควตาจัดจำหน่ายบุหรี่จาก รยส. ถือว่ายืดเยื้อมานาน และยิ่งเกิดกรณีกระทรวงการคลังจะเพิ่มราคาบุหรี่ถึงซองละ 11 บาท ยิ่งซ้ำเติมปัญหาที่ยังไม่มีใครแก้ได้

เนื่องจากโควตาจัดจำหน่ายหลักปัจจุบันนี้ มีตัวแทนกว่า 200 ราย แต่ตัวแทนหลักรายใหญ่รายเดียวครอบครองโควตากว่า 30% และสั่งซื้อได้เป็นรายวัน ขณะที่ตัวแทนอีก 200 ราย ซึ่งรวมโควตายังไม่เท่ากับรายใหญ่ สั่งซื้อบุหรี่ได้เป็นรายสัปดาห์ ฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหากักตุน รายใหญ่จึงได้ประโยชน์เต็มที่.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์