นครบาลดึงหม่ำ-โก๊ะตี๋พรีเซ็นเตอร์สายตรวจปะฉะดะ

คมชัดลึก :นครบาล ดึง “หม่ำ จ๊กมก-โก๊ะตี๋ “ พรีเซ็นเตอร์ โครงการ "สายตรวจจู่โจมพิเศษ “ดูแลพื้นที่ป้องกันอาชญากรรม ระงับเหตุเฉพาะหน้า ดันตำรวจร่างใหญ่ร่ำบึ้ก 8 สน.สังกัด บก.น.1 จำนวน 17 นาย ป้องกันเหตุร้าย-ลดปัญหาอาชญากรรม " เตรียมเปิดตัวกลางอนุสาวรีย์ชัย " 16 พ.ค. นี้ "

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ  ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ( บก.น. 1 )  กล่าวถึงโครงการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ “ปะฉะดะ “

จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการวันที่ 16 พ.ค.เวลา 08.00 น.บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยมีนายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก และ นายเจริญพร อ่อนละม้าย (โก๊ะตี๋ อารามบอย ) เป็นฟรีเซ็นเตอร์โดยจะให้ทั้งสองแต่งชุดตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์ในวันเปิดโครงการด้วย   โดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนและสัญญาญาบัตรจาก 8 สน.ในพื้นที่ บก.น.1


ประกอบด้วย สน.ดุสิต สน.สามเสน สน.มักกะสัน สน.พญาไท สน.ดินแดง สน.ห้วยขวาง สน.นางเลิ้ง  และ สน.ชนะสงคราม 

ที่มีบุคลิค " ร่างกายฉกรรจ์กำยำแข็งแรง " มีความสูงไม่ต่ำกว่า  180 เซ็นติเมตร  จำนวน 16 นายและหัวหน้าชุดอีก 1 นายเข้ารับการฝึกอบรมแผนเผชิญเหตุ การป้องกันระวังอาชญากรรม การจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน การเข้าระงับเหตุเฉพาะหน้าอาทิ คดีฉกชิงวิ่งราวลักวิ่งชิงปล้นเป็นต้น รวมถึงการให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามจุดต่างๆที่มาปัญหาการจราจรติดขัด อีกทั้งยังสามารถเข้าไปสืบสวนหาข่าวในชุมนุมได้อย่างคล่องตัว  ใช้รถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ 4 สูบ เป็นพาหนะตระเวนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
 
ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า  การทำงานของชุดปฏิบัติการตามโครงการนี้จะทำหน้าที่ลักษณะ " ชุดจู่โจมปะฉะดะ "

ตรวจตราความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบเปรียบเหมือน " นายอำเภอในต่างประเทศ "  ที่ออกตรวจความเป็นอยู่ทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับ " หน่วยช็อปเปอร์ระวังภัย " ชุดนี้ที่มีประสิทธิภาพการทำงานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนับเป็นโครงการหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดีในการจัดซื้อรถจักรยายนต์พาหนะ 18 คันพร้อมเครื่องแต่งกายโดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติจะแต่งกายในชุดสีดำลักษณะคล้ายชุดหมีมีป้ายชื่อยศตำแหน่งและสัญลักษณ์โครงการติดที่หน้าอกอย่างชัดเจน สวมหมวกกันน็อคสีดำ แว่นตาดำ รองเท้าบู๊ต  พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเบื้องต้นครบมือออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 06.00 น.- 18.00 น.ทุกวันรับผิดชอบท้องที่ละ  2 นายเน้นจุดที่มีประชาชนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก อาทิ ย่านอนุสาวรีย์ชัย ถนนข้าวสาร ป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าและสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ   


"โครงการสายตรวจจู่โจมฯ นี้ผสมผสานหลายอย่าง แต่เดิมผมดำเนินการตั้งชุด”ปะ ฉะ ดะ” ของ บก.น.2 สมัยเป็น รอง ผบก.น.2 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

และเมื่อย้ายไป จ.บุรีรัมย์  โดยนำตำรวจชุด ตปพ. มาดำเนินการซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี  เมื่อผมมารับตำแหน่ง ผบก.น.1 วันนี้ก็ตั้งใจจะทำอีก แต่ปรับปรุงให้ตำรวจสายตรวจจู่โจมพิเศษ มีความน่าเชื่อถือ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้พบเห็น มีความสง่างาม แต่งเครื่องแบบแล้วแลดูสมาร์ท เด็กเยาวชนจะได้มีความคิดที่อยากจะมาเป็นตำรวจบ้าง ทำหน้าที่สกัดจับในการตรวจค้นจับกุม ช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังจะช่วยเหลือชาวต่างชาติในเรื่องต่างๆ เราฝึกทักษะในเรื่องของภาษาอังกฤษอย่างน้อยสื่อสารประโยคง่ายๆ ได้จะช่วยแนะนำนักท่องเที่ยวในเรื่องต่างๆ ได้พอสมควร  ชุดนี้นอกจากเป็นสายตรวจแล้วยังจะเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว เช่น กรณีที่นายกฯ ไปงานที่สหประชาชาติ เราก็จะแจ้งให้ชุดจู่โจมไปดูแลความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญจำนวน 17 คันก่อนเลย หากเป็นชุดสายตรวจก็ติดอาวุธเป็นปืนพกสั้นประจำตัวกาย หากเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วก็จะมีปืนยาว ปืนยิงแก๊สน้ำตาไปด้วย " ผบก.น.1 กล่าวในที่สุด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์