แม่ทัพยันสงบศึก มาร์คนัดฮุนเซน

เขมรยังเสริมกำลังตามแนวชายแดน ตรึงกำลังเขาพระวิหารไว้ทุกด้าน ขณะที่ทหารไทยก็มีการสับเปลี่ยนกำลัง แต่ไม่เพิ่มทหาร แม่ทัพภาค 2 เผยผลการเจรจาเรียบร้อย ยันที่ผ่านมาไทยอยู่ในกรอบตลอด แต่เขมรละเมิด จนเกิดการปะทะกัน

ยืนยันทหารไทยตาย 2 เจ็บ 10 ผลการปะทะวันก่อน ทำให้ร้านค้าของชาวกัมพูชาบริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารถูกไฟเผาวอดไปกว่า 200 หลัง "มาร์ค" นัดถก "ฮุนเซน" ในการประชุมอาเซียน


เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากการที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา และมีการเจรจาระหว่างพล.ต. กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กองกำลังสุรนารี กับพล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา

เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และมีการจับมือตกลงหยุดยิง ทำให้สถานการณ์รอบบริเวณเขาพระวิหารกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง แต่จากการตรวจการณ์ของทหารไทยพบว่า ทหารกัมพูชายังคงใช้รถยีเอ็มซีและรถปิกอัพ ทยอยขนทหารกัมพูชาไปประจำตามฐานปฏิบัติการต่างๆ รอบบริเวณเขาพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะที่การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าทำให้ร้านค้าของชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณทางด้านซ้ายมือทางขึ้นปราสาทพระวิหารถูกไฟเผาวอดไปกว่า 200 หลังคาเรือน เหลือเพียงเศษสังกะสีกองพังราบอยู่กับพื้นและยังคงมีควันไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เป็นบางส่วนเท่านั้น

ส่วนทางด้านขวามือทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ประจำปราสาทพระวิหารของจ.พระวิหาร ประเทศกัมพูชา ได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยในบริเวณร้านค้าของชาวกัมพูชานี้ ไม่มีชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากว่าทหารกัมพูชาได้อพยพชาวบ้านออกไปก่อนหน้าที่จะมีการปะทะหลายวันแล้ว

นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันต.เสาธงชัย กล่าวว่า หลังการปะทะกัน ตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดอาสาสมัครช่วยรบประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ทางราชการแจกให้ครบมือ ออกลาดตระเวนตามเขตพื้นที่หมู่บ้านทุกหมู่บ้านในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ในการดูแลรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อย

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ทหารทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และสามารถตกลงกันได้ ทำให้ขณะนี้ไม่มีความรุนแรงจากการสู้รบเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว ส่วนกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกองกำลังสุรนารีได้สั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.

อย่างไม่มีกำหนดนั้น หากจะมีการเปิดเพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้อีกต่อไปนั้น ก็คงจะต้องดูที่ความพร้อมขององค์ประกอบหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และจะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางรัฐบาลว่าจะให้เปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เช่นเดิมเมื่อใด ทั้งนี้ จ.ศรีสะเกษ พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ก็คงจะไม่สามารถอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยนั่นเอง

ด้านพล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในระดับพื้นที่ก็ให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีกับผู้บัญชาการกองพลได้พูดคุยเจรจากัน ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดี และระดับผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับหน่วยที่ควบคุมกำลังทั้งสองฝ่ายก็ได้ทำความเข้าใจ และไปดูบริเวณที่มีปัญหากันเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะระดับผู้บังคับบัญชาก็ได้ไปพบปะพูดจากัน เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ได้เดินทางไปพบนายกฯ ฮุนเซน ที่กัมพูชา และได้หารือทำความเข้าใจกันแล้ว และตอนนี้ก็เดินทางกลับมาแล้ว ซึ่งจะได้มีการเริ่มประชุมคณะกรรมการปักปันเขตแดนที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาต่อไป

เมื่อถามว่า เท่าที่ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ เกิดจากฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าใช่หรือไม่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นการควบคุมกำลังพลของแต่ละฝ่ายให้อยู่ในระเบียบวินัย อยู่ในกรอบของการเจรจา อยู่ในกรอบของข้อตกลง และตนยืนยันได้ว่าที่ผ่านมา ทหารไทยอยู่กรอบ แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่อยู่ในกรอบก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้อย่างที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อข้อถามที่ว่า ขณะที่เรากำลังพูดคุยเจรจาแต่ฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังพลขึ้นมายังเขาพระวิหาร ทหารไทยจะเสริมกำลังหรือไม่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการเพิ่มเติมอะไร เพียงแต่ว่าเราหมุนเวียนหน่วยที่เหนื่อยล้า หมุนเวียนเปลี่ยนหน่วยขึ้นไปเท่านั้น เพื่อเสริมความมั่นคงบริเวณที่มีการปะทะ เพื่อให้มีความมั่นใจ และเพิ่มเติมอาวุธที่ใช้ไปทดแทน และกำลังพลให้มีความสดชื่น โดยไม่มีการเพิ่มเติมกำลังพลมากมาย เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งสองฝ่ายจะถอนกำลังออกมาเพื่อให้มีการปักปันเขตแดน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ผลการประชุมระดับนโยบายว่าจะตกลงกันอย่างไร เราเป็นผู้ปฏิบัติก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งอยู่แล้ว

"สำหรับความสูญเสียในเหตุการณ์ปะทะกันล่าสุดนั้น ยืนยันได้ว่าทหารเราเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 10 นาย ในจำนวนนี้มีสาหัสอาการหนักอยู่ 1 นาย นอกนั้น 9 นายปลอดภัยหมดแล้ว ซึ่งทางพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้นโยบายต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งกำลังพล ครอบครัว ทายาท ทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ก็ได้รับสิทธิตามที่ทางราชการกำหนดไว้ ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ห่วงใยและได้กรุณามอบสิ่งของไปเยี่ยมกำลังพลที่อยู่ตามแนวชายแดนตลอดเวลา ตนเรียนว่าทหารของเราขวัญกำลังใจดีมาก" พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว

วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะหยิบยกประเด็นกัมพูชาไปหารือในที่ประชุมอาเซียน ว่า ตนขอปฏิเสธว่าตนถูกสื่อถามว่าในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนบวก 3 บวก 6 ที่พัทยา จะมีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับสมเด็จฮุนเซนหรือไม่ ตนก็บอกว่าจะใช้โอกาสในช่วงนั้นที่จะพบปะกันอยู่แล้ว ย้ำจุดยืนกรณีที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา แต่ไม่ใช่หมายความว่าจะนำเข้าไปหารือในที่ประชุม เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาทวิภาคี ซึ่งสามารถพูดคุยทำความตกลงกันได้อยู่แล้ว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่ชายแดน จ.สุรินทร์ เท่าที่ติดตามทราบว่าสถานการณ์ดีขึ้นโดยลำดับ ต้องให้ระดับพื้นที่สงบอยู่สักระยะหนึ่งและน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตอนนี้มีการทำความเข้าใจในหลายๆ ระดับ และคิดว่าเป็นไปในทางที่ดี ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลวิเคราะห์หรือไม่ว่าเกิดปัญหาตามแนวชายแดนตึงเครียดขึ้นทุกครั้งในช่วงที่การเมืองภายในมีปัญหา ว่าเป็นเพราะอะไร นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นเช่นนั้น แต่มองว่าปัญหาที่กระทบกระทั่งกันมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะมีกำลังตรึงอยู่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการจะต้องช่วยกันหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่ที่กัมพูชา และสอดคล้องกับที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น คิดว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะสรุปอย่างนั้นได้ รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายไป ซึ่งแนวโน้มการคลี่คลายสถานการณ์ก็ดีขึ้น เพราะได้พูดคุยกันในระดับนโยบายและทำความเข้าใจในระดับพื้นที่ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่การตรึงกำลัง ยังคงต้องมีอยู่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องหลักต้องใช้กระบวนการเจรจา และต้องระมัดระวังมากขึ้นในแง่การเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นเงื่อนไขให้นำไปสู่ความเข้าใจผิดหรืออุบัติเหตุ และทำให้เกิดการปะทะกัน

เมื่อถามว่า กรณีกล่าวอ้างว่ากับระเบิดได้มาอยู่ในพื้นที่เขตแดนไทย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีข้อตกลงความร่วมมืออยู่ที่จะต้องจัดเก็บทุ่นระเบิดให้หมด เป็นข้อตกลงกันอยู่แล้ว ก็ต้องพูดเรื่องนี้กัน เมื่อถามอีกว่า แต่เจ้าหน้าที่รายงานว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งวาง นายกฯ กล่าวว่า ดังนั้น ต้องมีการหยิบยกขึ้นมาพูด หากไทยพิสูจน์ได้ก็สามารถหยิบยกขึ้นมาพูดกันได้แน่นอน ต่อข้อถามว่าในประเด็นนี้ทางการไทยจะต้องประท้วงเพิ่มเติมไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการประท้วงกันไปมาอยู่ เป็นการรักษาสิทธิของแต่ละฝ่ายและจะใช้การเจรจาต่อไป

"ถ้าเป็นทุ่นใหม่ จะหยิบขึ้นมาพูดเหมือนกับคราวที่แล้วได้มีการหยิบยกขึ้นมา เพราะประมาณกลางปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุแบบนี้ ส่วนแนวเขตแดนที่ยังถูกอ้างกันอยู่นั้น ผมขอย้ำว่าเรายึดตามสันปันน้ำ แต่ส่วนของเขายึดตามแผนที่ฝรั่งเศส จึงมีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิกันอยู่ เราจะพิจารณาว่าอะไรจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผลประโยชน์ของชาติ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่อยากดำเนินการในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน แต่ขณะนี้ทำอะไรไม่ได้เลยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แถลงการณ์ร่วมที่เป็นปัญหา ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว และกลับเข้าสู่กระ บวนการตามเอ็มโอยู 2543 แล้ว ส่วนเงื่อนไขที่ค้างอยู่กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก รัฐบาลจะดำเนินการกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์