ปู่เย็นเฒ่าทรนงแห่งลุ่มน้ำเพชรบุรีอายุ108ปีสิ้นใจแล้ว

สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ว่า
 
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา   นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี อายุ 108 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือพระราชทาน จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ได้นอนหมดสติ  ไม่รู้สึกตัว เนื่องจากเกิดอาการช็อคอยู่บนเรือ ทั้งนี้ ระหว่างนำตัวปู่เย็นส่งโรงพยาบาลชีพจรของปู่เย็นได้หยุดเต้นพยาบาลจึงให้ยากระตุ้นหัวใจและปั๊มชีพจร แต่ร่างการของปู่เย็นตอบสนองต่อยาน้อยมาก
ทีมแพทย์อยู่ระหว่างการปั๊มหัวใจช่วยชีวิต ล่าสุดเมื่อเวลา 10.40 น. ปู่เย็นได้เสียชีวิต และลงความเห็นว่า ปู่เย็นมีอาการหัวใจวายเนื่องจากอายุมากแล้ว ประกอบกับปู่เย็นมีโรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน ปอดอักเสบ อยู่ก่อนหน้านี้

ด้านนายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ว่า

ปู่เย็นได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคหัวใจวาย หลังหมดสติและหัวใจหยุดเต้น โดยการดำเนินการต่อจากนี้ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อนานแล้ว  ได้เคยคุยกับนางน้อย บุตรส่าวบุญธรรมของปู่เย็น และบุตรเขย ก็ได้ความว่า ปู่เย็นเคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าเสียชีวิตก็ขอให้ลูกหลานนำไปประกอบพิธีฝัง ตามศาสนาอิสลาม ที่ต.ท่าแร้ง พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ไม่มีเค้าลางถึงสิ่งที่บ่งยบอกเหตุของการจากไปของปู่เย็นเลยแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้  เมื่อวันที่ 19 ก.ย.  เรือพระราชทานฯ ของปู่เย็น

  ได้จมน้ำอยู่ในแม่น้ำเพชรบุรีที่เชิงบริเวณสะพานลำไย ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี  หลังเกิดฝนตกหนัก โดยที่ตัวของปู่เย็นก็ได้ตกน้ำลงไปด้วย โดยชาวบ้านก็ได้ช่วยกันนำร่างปู่เย็นขึ้นมาจากน้ำและพยายามนำปู่เย็นที่กำลังหนาวสั่นขึ้นรถโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรีแต่ปู่เย็นไม่ยอมไป กลับทรุดลงนั่งที่บริเวณบันไดพักขั้นสุดท้ายของสะพานใกล้เคียงจุดที่เรือล่มเนื่องจากห่วงใยทรัพย์สินและเป็นห่วงเรือพระราชทาน จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันกู้เรือมาไว้ที่ริมตลิ่ง โดยปู่เย็นนั่งดูการกู้เรือด้วยอาการเศร้าสร้อยและมีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้าง ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะอุ้มปู่เย็นขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งตรวจอาการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเรือของปู่เย็นไปซ่อมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา และเพิ่งได้รับมอบเรือลำใหม่ไปเมื่อวันที 1 ต.ค. ที่ผ่านมานี้นั่นเอง
  
 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำปู่เย็นนั่งรถเข็นจากบ้านญาติ เดินทางไปที่เรือพระราชทาน โดยทันทีที่เห็นเรือปู่เย็นได้เอามือลูบเรือพร้อมหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะอุทานออกมาว่า "โอ้...ดีโว้ย ...ลำนี้ใหญ่กว่าลำเก่าโว้ย..สวยไปเลยโว้ย"

พร้อมกับกล่าวว่า

ไม่อยากนำเรือลำนี้ออกมาใช้ อยากจะเอาเก็บไว้เพราะเสียดาย ดีใจเป็นอย่างมาก รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นห่วงเป็นใยในชีวิต มีรับสั่งซ่อมแซมเรือให้ในครั้งนี้ จะดูแลรักษาเรือลำนี้เป็นอย่างดี ไม่ให้เรือจมน้ำอีก  ซึ่งทันทีที่ปู่เย็นลงไปนั่งในเรือ ปรากฏว่าปู่เย็นดีใจจนยิ้มแก้มปริ พร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มากอดแนบอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำเรือพาปู่เย็นล่องไปตามลำน้ำไปยังที่จอดเรือของปู่เย็นบริเวณใต้เชิงสะพานลำไย ท่ามกลางชาวบ้านนับพันคนที่มายืนปรบมือให้กับผู้เฒ่าทรนง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์