ส่งฟ้อง2ผัวเมีย ให้สินบนททท.

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอพีรายงานความคืบหน้าคดีสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.)
 
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า นายเจอรัลด์ กรีน วัย 75 ปี และนางแพทริเซีย ภรรยา วัย 52 ปี สองผู้บริหารบริษัทผลิตภาพยนตร์ในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ถูกคณะลูกขุนกลางยื่นฟ้องศาลเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ในข้อหาแรกสมรู้ร่วมคิดเพื่อให้สินบนและข้อหาการจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติอีก 6 ข้อหา รวมเป็นทั้งหมด 7 ข้อหา 


ทั้งนี้  สืบเนื่องจากนายเจอรัลด์และภรรยาถูกกล่าวหาว่า

กระทำผิดกฎหมายปราบปรามการคอรัปชันในต่างประเทศของสหรัฐฯ ถูกจับเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.50 ที่สนามบินนานาชาตินครลอสแอนเจลิส หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย ด้วยข้อหาให้สินบนผู้บริหารระดับสูง ททท. คนหนึ่งเป็นเวลากว่า 5 ปี รวมเป็นเงิน 900,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30,600,000 บาท แลกกับสัญญาการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ “แบงคอก อินเตอร์แนชนัล ฟิล์ม เฟสติวัล” ที่กรุงเทพฯ มูลค่ามากกว่า 7 ล้านดอลลาร์ หรือ 238,000,000 บาท ระหว่างปี 2545-2550 ซึ่งหากศาลตัดสินว่ากระทำผิดจริง ผู้ต้องหาทั้งสองคนอาจรับโทษจำคุกสูงสุดข้อหาละ 5 ปี  หรือรับโทษจำคุก รวม 35 ปี อย่างไรก็ดี  ข่าวไม่ได้ระบุว่ากำหนดวันเวลาการพิจารณาคดีนี้จะมีขึ้นเมื่อใด


ด้านนางมาริลีน เบดนาร์สกี ทนายความของนางแพทริเซีย กล่าวว่า

ได้อ่านเอกสารคำฟ้องร้อง จะโต้แย้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ขณะนี้นางแพทริเซียยื่นขอประกันตัวออกไปด้วยวงเงินประกัน 200,000 ดอลลาร์ ส่วนนายเจอรัลด์ประกันตัวด้วยวงเงิน 500,000 ดอลลาร์  ด้านอัยการสหรัฐฯ  เปิดเผยว่า  นายและนางกรีนตั้งบริษัท “ฟิล์ม เฟสติวัล เมเนจเมนท์” ขึ้นมาเมื่อปี 2546 เพื่อร่วมประมูลสัญญาการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงเทพฯ และพยายามปกปิดการให้เงินสินบนผู้บริหารระดับสูง ททท.ในสมัยนั้น ผ่านทางธุรกิจหลายๆ อย่าง ใช้ชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ปลอม จ่ายเงินสินบนผ่านบัญชีคนกลางหลายบัญชีที่เปิดในต่างประเทศหลายครั้ง รวมทั้งบัญชีของลูกสาวของผู้บริหารระดับสูง ททท.คนดังกล่าว  


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า

ขณะนี้ต้องรอผลการตัดสินคดีนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หากศาลของสหรัฐฯ ยืนยันว่านายเจอรัลด์และนางแพทริเซีย จ่ายสินบนให้ผู้บริหารระดับสูง ททท.จริง ดีเอสไอจะประสานขอคำตัดสินจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ มาใช้ เป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน  ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดีการติดสินบนและการฮั้วประมูลบางกอกฟิล์มเฟสติวัล  กำลังขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานทั้งหมดจาก ททท.เพื่อนำมาตรวจสอบร่วมกับเอกสารผลการสอบสวนของเอฟบีไอ 


ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษกล่าวอีกว่า

  การตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินสินบน หลังเอฟบีไอพบว่ามีการโอนเงินให้ลูกสาวของผู้บริหารระดับสูงของ ททท.  และโอนต่อไปอีกหลายทอดนั้น  ขณะนี้ทราบเส้นทางการเงินหมดแล้ว  ส่วนจะต้องเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและต้องเดินทางไปหารือกับเอฟบีไอที่สหรัฐฯ นอกจากนี้ ตรวจสอบงบประมาณจัดจ้างงานบางกอกฟิล์มเฟสติวัล ในช่วงปี 2546-2548  ใช้งบประมาณจัดงานต่อครั้งสูงถึง 200 ล้านบาท  เมื่อเปลี่ยนผู้บริหาร ททท.ในปัจจุบัน  มีการปรับลดงบประมาณจัดงานเหลือเพียง 70 ล้านบาท  ซึ่งจำนวนเงินต่างกันมาก  คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในกลางเดือน ก.พ.นี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์