ดีเดย์ 1 ต.ค.62 ผู้ป่วยบัตรทองรับยาร้านขายยาแทนรพ.


ดีเดย์ 1 ต.ค.62 ผู้ป่วยบัตรทองรับยาร้านขายยาแทนรพ.

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยร้านยาแผนปัจจุบัน(ข.ย.1)ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า การให้ผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองนำใบสั่งยาจากรพ.ไปรับยาที่ร้านขายยาคุณภาพที่มีเภสัชกรประจำเข้าร่วมโครงการแทนการรอรับยาที่รพ. เป็นทางเลือกให้กับประชาชนได้เข้าถึงบริการสะดวกมากขึ้น เพราะเป็นการรับยาจากร้านยาในชุมชนใกล้บ้านใกล้ใจ ซึ่งจะเป็นยาแบบเดียวกันกับรพ.ทุกอย่าง อีกทั้ง มีเวลามากขึ้นในการที่จะให้เภสัชกรได้อธิบายการใช้ยากับผู้ป่วย โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ต.ค.2562 ในโรงพยาบาล 50 แห่งที่ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) / โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวนมาก และ 500 ร้านยาทั่วประเทศ

เบื้องต้นจะดำเนินการในส่วนของโรคที่ป่วยต้องรับยาต่อเนื่องและโรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จิตเวช และหอบหืด ประมาณการว่าจะมีผู้ป่วยเลือกมารับยาที่ร้านยาราว 2 ล้านครั้ง จากที่มีการใช้บริการที่รพ.7 ล้านครั้ง โดยคาดว่าจะผู้ป่วยไปรับยาที่ร้านยาร้านละ 15 คนต่อวัน



นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบริหารจัดการ ในระยะแรกคือในปีงบประมาณ 2563 จะใช้งบฯที่เหลือจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในปีที่ผ่านมา จำนวน 150 ล้านบาท ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว โดยน่าจะจ่ายเพิ่มเติมให้รพ.ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นค่าบริหารจัดการยาแห่งละ 30,000 บาทต่อปี และให้ร้านยา 70 บาทต่อผู้ป่วย 1 คน อย่างไรก็ตามจะต้องมีการหารือรายละเอียดในหลักเกณฑ์อีกครั้งว่าเป็นตัวเลขที่ทุกฝ่ายพอใจหรือไม่ ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.)ในวันที่ 2 ก.ย.2562 เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ ส่วนงบประมาณที่จะดำเนินการโคงการในปีต่อๆไปอาจจะต้องตั้งเป็นงบประมาณเฉพาะที่ขอเพิ่มเติมประมาณการว่าจะอยู่ที่ 800 ล้านบาทต่อปี

"การที่ผู้ป่วยจะมารับยาที่ร้านยาที่เปรียบเสมือนห้องยาของรพ.ได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องเข้าระบบของรพ.ก่อนในการตรวจวินิจฉัยยโดยแพทย์แล้วมีใบสั่งยามาแสดงที่ร้านยา หรือเป็นผู้ป่วยที่แพทย์มั่นใจแล้วว่าสามารถคุมโรคหรืออาการที่เป็นได้ ซึ่งจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาหลังจากผู้ป่วยไปรับการตรวจที่รพ.แล้ว ครั้งต่อไปก็อาจจะมารับยาที่ร้านยาได้เลย โดยที่ร้านยามีการเชื่อมต่อข้อมูลออนไลน์กับรพ. ซึ่งคนไข้ที่ไปรพ.100 คนจะเป็นกลุ่มโรคเรื้อรัง 60-70% และประเมินว่าในจำนวนนี้จะเลือกมารับยาที่ร้านยาใกล้บ้านราว 30 % ก็จะช่วยลดความแอออัดของรพ.ไปได้ และผู้ป่วยก็มีความสะดวกมากขึ้นในการรับบริการ" นพ.ศักดิ์ชัยกล่าว

 


ดีเดย์ 1 ต.ค.62 ผู้ป่วยบัตรทองรับยาร้านขายยาแทนรพ.

เครดิตแหล่งข้อมูล : nationtv


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:14 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์