ลูกชายหลอกพ่อป่วยโรคอัมพฤกษ์มาทิ้งวัด

ชายชราป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ถูกลูกในไส้หลอกขึ้นรถกระบะ นำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัดย่านคลองหลวง เผยหลังล้มป่วยยกสมบัติให้ลูกคนเล็ก แต่กลับถูกนำมาปล่อยวัด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 ก.พ.50 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพระหลง ฐิตาจาโร พระลูกวัดคุณหญิงส้มจีน ม.14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ว่ามีชายชราถูกนำมาทิ้งไว้หน้าวัด ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทางวัดได้น้ำมาดูแลไว้ชั่วคราว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพื่อจะได้ติดตามตัวลูกหลานมารับกลับไปดูแล

หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ โดยพบชายชราทราบชื่อคือนายชูใจ จันทร์ผาสุข อายุ 55 ปี เป็นชาว ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักอาศัยอยู่บริเวณศาลาริมน้ำหน้าวัด ในสภาพร่างกายซีกซ้ายเป็นอัมพฤษ์ ต้องคอยใช้ไม้เท้าคอยค้ำยันตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบถุงพลาสติดหูหิ้วบรรจุเสื้ออยู่จำนวนหนึ่ง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต เพื่อนำตัวไปให้รักษาอาการในเบื้องต้น

นายชูใจ จันทร์ผาสุข เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีลูกชาย 2 คน และในอดีตเคยทำงานเป็นคนขับรถทัวร์ปรับอากาศมาก่อน ต่อมาเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ได้ล้มป่วยเป็นโรคเบาหวานและเป็นอัมพฤกษ์ มานานหลายปี ปกติจะอยู่ที่ ต.หินดาด กับลูกชายชื่อนายวิชาญ จันทร์ผาสุข อายุประมาณ 32 ปี ซึ่งแต่งงานแล้ว โดยลูกชายทำนาทำไร่อยู่ที่บ้าน ซึ่งตนเองมีที่อยู่ทั้งหมด 30 ไร่ และวัวพันธุ์อีก 5 ตัว จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ได้ยกมรดกที่ดินทั้งหมดให้กับนายวิชาญ ผู้เป็นลูกชาย เพราะเห็นว่าเป็นคนที่คอยดูแลเรามาตลอด ส่วนลูกชายอีกคนคือนายพิชิต ได้ไปทำงานอยู่ที่ กทม.และหายไป ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน และไม่มีการติดต่อกลับมา ทำให้ตนเองอยู่กับลูกชายคนเล็กมาโดยตลอด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ศุกร์ ที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา นายวิชาญ ได้บอกว่า จะพาไปหาลูกชายอีกคนที่ชื่อนายพิชิต ซึ่งไปทำงานอยู่ในกรุงเทพ ด้วยความดีใจจึงตอบตกลง โดยนายวิชาญ ได้พยุงขึ้นท้ายกระบะหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าเข้า กทม. ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน ไม่รู้ว่ารถวิ่งไปถึงที่ใด แต่แล้วลูกชายก็จอดรถ และอุ้มตนลงจากรถ พร้อมทั้งยื่นเงินให้จำนวน 200 บาท พร้อมถุงผ้า 1 ถุง จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยทันที ตนเองจึงมองไปรอบๆตัว ก็เห็นว่าเป็นวัด จากนั้นจึงใช้ไม่เท้าพยุงตัวเดินเข้าไปขอพระ เพื่ออาศัยหลับนอน ซึ่งพระที่วัดก็ให้ไปนอนที่ศาลาท่าน้ำจนถึงวันนี้

"เมื่อรู้ตัวว่าถูกลูกชายน้ำมาทิ้ง ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เราเลี้ยงดูเขามา และให้ทรัพย์สมบัติ แต่เขากลับนำพ่อมาทิ้ง อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ยังอยากกลับไปอยู่กับลูกๆ อยากให้ลูกมารับกลับไปอยู่ด้วยเหมือนเดิม"นายชูใจ จันทร์ผาสุข กล่าว

ด้านพระหลง ฐิตาจาโร กล่าวว่า เห็นชายชราคนดังกล่าวเดินวนไปมาอยู่ในวัดตั้งแต่คืนวันศุกร์ จึงให้ไปนอนที่ศาลาท่าน้ำ เมื่อสอบถามจึงทราบว่า ถูกลูกชายนำมาทิ้ง จึงให้ความช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านข้างๆวัด และพระในวัดนำอาหารมาให้กินทุกวัน ซึ่งชายคนนี้มีบาดแผลที่เท้ามีแมลงวันเกาะเต็มไปหมด จึงได้ทำการล้างแผลและทำแผลให้ เห็นแล้วรู้สึกน่าเวทนา เพราะไม่น่าเชื่อว่า คนเป็นลูกในไส้จะทำได้ถึงขนาดนี้

ด้าน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้นำนายชูใจ ซึ่งมีอาการอิดโรย อ่อยเพลีย ส่งไปให้แพทย์ดูแลอาการ จากนั้นจะได้ติดต่อไปยังลูกชายของนายชูใจ ที่นายชูใจให้การว่า เป็นคนนำมาทิ้ง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร และเป็นการจงใจนำมาทิ้งจริงหรือไม่ ทั้งนี้ คงต้องให้รายละเอียดแน่ชัดเสียก่อน จากนั้นจึงจะได้ดำเนินการต่อไป