เติ้งขอโทษเหตุพลุระเบิดยันเยียวยาเต็มที่

เติ้งขอโทษเหตุพลุระเบิดยันเยียวยาเต็มที่

จากกรณีพลุระเบิด ในพิธีเปิดงานตรุษจีนมังกรสวรรค์ ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร
 
ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 100 คนและเสียชีวิต 4 คนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าวันนี้ ( 25 ม.ค.)นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อสำรวจดูความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ เพราะยังมีบ้านเรือนประชาชน กุฏิพระ หลังคาโบสถ์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง พร้อมทั้งนำเชือกมากั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากพลุจำนวนมากที่กองอยู่ในที่เกิดเหตุ  และเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีได้จัดรถดับเพลิงมาเตรียมไว้ และฉีดน้ำพรมบริเวณดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก

นายสมศักย์ เปิดเผยว่า สาเหตุระเบิดของพลุยังสันนิษฐานได้ไม่ชัดเจนว่าเป็นความบกพร่องจากบุคคลหรือเหตุบกพร่องทางเทคนิคหรือวิธีการจุด

ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบ แต่ที่ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้น พบว่าสถานที่ใช้จุดพลุเป็นหลุมระเบิดใหญ่มาก บริเวณฐานเป็นพื้นคอนกรีตเป็นหลุมลึกเกือบหนึ่งเมตร ขนาดกว้างประมาณ 1– 2 เมตร มีผู้เสียชีวิตจากพลุระเบิดจากแรงอัดของพลุหรืออาจจะเป็นวัตถุที่ไปกระทบทำให้เกิดรอยยุบบนรถดับเพลิงของเทศบาล สภาพศพมีรอยไหม้เกรียม บางศพขาด 2 ท่อน บางศพหน้าท้องแตก แสดงว่าพลุระเบิดรุนแรงมาก ส่วนบริเวณโดยรอบความเสียหายที่เกิดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝ้า เพดาน กระจกบ้านเรือนต่างๆ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุมาจนถึงริมแม่น้ำท่าจีนในฝั่งของมังกร ปรากฎร่องรอยความเสียหายอย่างมากมาย เพราะฉะนั้นความเสียหายในครั้งนี้น่าจะอยู่หลายสิบล้านบ้าน บ้านเรือนของประชาชนที่ถูกเพลิงไหม้อยู่บริเวณใกล้เคียงนั้น เป็นชุมชนแออัดและบริเวณโดยรอบเสียหายเพราะถูกแรงอัดจากระเบิด แต่ที่ชาวบ้านรับไม่ได้เนื่องมาจากจุดที่เกิดเหตุอยู่ใกล้บ้านใกล้ชุมชน ทำให้ชุมชนได้รับความเสียหายมาก

ขณะที่ตนลงไปดูเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้มีชาวบ้านเข้ามาต่อว่า เพราะฉะนั้นต้องไปตรวจสอบว่าสัญญาที่ทางห้างร้าน หรือเอกชนที่รับมาจุดพลุในครั้งนี้

ได้กระทำด้วยความรอบคอบหรือไม่ หรือประมาทอย่างไรบ้าง แต่เท่าที่ดูในพื้นที่แล้วเป็นพื้นที่ว่างเปล่าหลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แต่อีกด้านหนึ่งก็อยู่ใกล้ชุมชนแออัด เมื่อไปตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว ยังพบพลุที่เตรียมใช้งานในวันต่อๆไปอีกจำนวนมาก จึงออกประกาศควบคุมห้ามเคลื่อนย้าย และได้ประสานกับหน่วยทหารโดยใช้อำนาจพระราชบัญญัติป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในการควบคุม และขอให้ทางทหารนำพลุไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยต่อไป แต่ในระหว่างนี้ใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา

"ในส่วนของการจัดงานนั้น ทางมูลนิธิศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ต้องประชุมกันอีกครั้ง ขณะนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นทางมูลนิธิฯ ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามหลักเกณฑ์ราชการอย่างรวดเร็ว พร้อมกับประสานตำรวจให้ระดมพนักงานสอบสวนจากโรงพักต่างในพื้นที่ มารับแจ้งความจากผู้ที่บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และที่วัดแค ส่วนการลงทะเบียนแจ้งความเสียหายนั้น มีพนักงานสอบสวนจากโรงพักต่างๆ กว่า 30 นาย มารับแจ้งความที่บริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และที่สภ.เมืองสุพรรณบุรี คาดว่าจะมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้กว่า 200 ครัวเรือน” ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่าขณะนี้ได้ระดมพนักงานสอบสวนจากโรงพักต่างๆประมาณ 30 นาย
 
มารับแจ้งความในส่วนของความเสียหาย ในส่วนของการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้รับจัดงาน คือ นายศุภวัฒน์ หรือ“ศุภักษร” จงศิริ นั้น ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับผิดชอบ สำหรับการเก็บกู้พลุส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500-600 ลูก ขณะนี้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD)ของภ.จว.สุพรรณบุรี กำลังตัดสายชนวนถอดเชื้อปะทุ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 18.00 น. ของวันนี้ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ทหารสรรพาวุธ นำไปดำเนินการตามกระบวนการต่อไปส่วนสาเหตุของการเกิดระเบิดนั้น ได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ความประมาทเลิ่นเลอของทีมงาน และเรื่องของการจัดเก็บพลุ ว่ามีมาตรการในการจัดเก็บถูกต้องตามระเบียบที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะในเบื้องต้นทราบมาว่ามีการนำพลุมาเพื่อใช้จุดในงานนี้กว่า 5,000 ลูก ตลอดงานตั้งแต่วันที่ 24-29 ม.ค.55 โดยในวันที่เกิดเหตุจุดพลุไปได้เพียง 500 ลูก จึงเหลือพลุที่ยังไม่ได้จุดอีกหลายพันลูก แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบถึงสาเหตุที่แท้จริงก่อนว่าเกิดจากเหตุใด ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น

ขณะที่นายสมชาย เลิศพงศ์ภากรณ์ รองผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นพัฒนาสังคมจ.สุพรรณบุรี ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย โดยพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช 19 ราย รพ.ศุภมิตร 5 ราย เป็นเงิน 100,000 บาท ซึ่งทางจังหวัดจะให้การดูแลผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที

ต่อมาเวลา 13.20 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวฯ
 
ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และรพ.ศุภมิตร โดยนายบรรหารได้กล่าวให้กำลังใจ พร้อมกล่าวขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาการจัดงานไม่เคยมีปัญหาและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นายบรรหารยังกล่าวอีกว่าไม่ต้องห่วง ตนจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งการรักษาพยาบาลและค่าซ่อมแซมบ้านพร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้บาดเจ็บคนละ 1 หมื่นบาท จากนั้นได้ไปตรวจดูที่เกิดเหตุและกล่าวขอโทษกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในชุมชนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ขณะที่นางสุพิศ ดิททริส กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกว่า 500 ชุด ประกอบไปด้วยหม้อหุงข้าว กระทะ จาน ช้อน ตะหลิว ทัพพี เสื้อผ้า มุ้ง มามอบให้กับผู้ประสบอัคคีภัยเพื่อบรรเทาทุกข์


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์