สยอง2คดี-4ศพ สวป.-ดต.สิ้นชีพ เซ่นพิษรักแรงหึง


รักสามเส้าพ่นพิษใส่เหยื่ออีกจนได้

คราวนี้เกิดเรื่อง กับครอบครัวตำรวจถึง 2 ราย รายแรกเกิดเหตุสลดกับตำรวจยศ พ.ต.ท. สารวัตรปราบปรามโรงพักปากช่อง เมืองโค ราช ที่เครียดเรื่องเมียหลวง-เมียน้อย ใช้ปืน 9 ม.ม. จ่อยิงเมียน้อยดับ ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย อีกรายเกิดเหตุสลดกับนายดาบตำรวจสน.ลาดพร้าว ที่โดนเมียสาววัยรุ่นหึงหวงยิงตายคาห้องพัก ในขณะที่เมียหนีความผิด ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายตามไป

วันเดียวเกิดเหตุสลดขึ้นถึง 2 ราย!!

เหตุร้ายรายแรกเกิดตอนตี 1 วันที่ 9 มิ.ย. ร.ต.อ.วุฒินันท์ เนตรสูงเนิน ร้อยเวร สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 209/25 หมู่บ้านทานตะวัน เขตเทศบาลเมืองปากช่อง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถาน

เมื่อไปถึงพบที่นั่นเป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว มี 2 ห้องนอน ห้องแรกพบศพ พ.ต.ท.ไสว เหือดขุนทด สวป.สภ.ปาก ช่อง แต่งกายครึ่งท่อนอยู่ในสภาพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณราวนมซ้าย 1 นัด คิ้วขวา 1 นัด ข้างตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. และปลอกกระสุน 5 ปลอกตกอยู่ ปลายเท้าพบศพ น.ส.สมจิตร ต้นสาลี อายุ 34 ปี ภรรยา น้อย สารวัตรฯ ไสว เสียชีวิตในลักษณะนั่งอยู่ด้านหลังประตูห้อง มีบาดแผลถูกยิงที่จมูกด้านซ้าย และหน้าอกซ้าย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรายละเอียดไว้

ตำรวจสอบปากคำพยานทันที

นางวิไลเลิศ ต้นสาลี แม่ของน.ส. สมจิตร เล่าว่า ลูกสาวอยู่กินกับ พ.ต.ท.ไสว มานานกว่า 9 ปี โดยตอน นั้นพ.ต.ท.ไสว ได้เลิกกับภรรยาเก่า แต่มาทราบภายหลังว่ากลับมาคืนดีกันอีก เลยทำให้ทั้งคู่มีปัญหากัน ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.ไสว กลับจากทำงานและเกิดมีปากเสียงกับลูกสาว เรื่องเมียหลวงตามมาอาละวาดถึงบ้าน ทะเลาะกันรุนแรงก่อนจะสิ้นเสียงไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากห้องนอนหลายนัด

พอเข้าไปดูก็พบว่าเกิดเรื่องแล้ว

"แฟนลูกยังไม่ตัดขาดจากเมียเก่า แต่ก็บอกว่ารักลูกสาวจริง และจะไม่ไปไหนทั้งนั้น และถ้าหากว่ามีเหตุที่จะต้องตาย ก็จะตายพร้อมกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นจนได้" นางวิไลเลิศ กล่าว

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า พ.ต.ท.ไสว เกิดอาการเครียดจึงตัดสินใจยิงน.ส.สมจิตรตาย ก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม สำหรับ "สวป.ไสว" นับเป็นนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกล และเป็นที่รักใคร่ของลูกน้องและเพื่อนๆ ตำรวจร่วมโรงพักปากช่อง ก่อนเสียชีวิตกำลังคลี่คลายคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีปาหินในท้องที่ปากช่องที่เพิ่งจับคนร้ายได้

น่าเสียดายที่ต้องจากไปแบบนี้

อีกรายเกิดขึ้นเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ สุวรรณชัยรบ พงส.(สบ3) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุยิงกันตาย บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ ถนนโพธิ์แก้ว 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานพ.ต.อ.สมชาติ มาสำราญ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท. จิตเทพ อินทร์เล็ก รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส. พ.ต.ท.วันชัย ขาวรัมย์ สวป. พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชร.พ.ตำรวจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ ปลูกติดกัน 3 คูหา ติดถนนโพธิ์แก้ว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายอาหารอีสาน จากการตรวจสอบภายในห้องเช่าห้องที่ 1 พบศพด.ต.วิวัฒธนา ทวีอร่ามเรือง อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ป. ทำหน้าที่สายตรวจสน.ลาดพร้าว สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลม สีเทา กางเกงขาสั้น สีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าที่ท้าย ทอย 1 นัด

ใกล้กันพบศพนางพรทิพย์ ทวีอร่ามเรือง อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นภรรยา นอนตายจมกองเลือดในชุดนอนลายดอก สีแดง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียว กัน เข้าที่ขมับขวา ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 ตกอยู่ที่ขา นางพรทิพย์ ในห้องไม่พบร่องรอยต่อสู้หรือสิ่งผิดปกติใดๆ

เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดไว้

นางบัวผัน เพ็งสี อายุ 55 ปี แม่นางพรทิพย์ซึ่งพักอยู่ในบ้าน ให้ การว่า ด.ต.วิวัฒธนา คบหากับลูกสาวมาประมาณ 3 ปีแล้ว เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุตอนบ่ายสอง ด.ต.วิวัฒธนากลับจากทำงาน จากนั้นจึงมานั่งกินข้าวก่อนที่จะเข้าไปนอนหลับพักผ่อนภายในห้อง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด

พอวิ่งมาดูก็พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว!!

สาเหตุครั้งนี้แม่ผู้ตายมั่นใจว่าน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง เพราะทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ ซึ่งก่อนหน้าที่ด.ต.วิวัฒธนา จะมาอยู่กินกับนางพรทิพย์ ดาบวิวัฒธนาก็เคยมีภรรยามาแล้ว 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าผู้ลงมือน่าจะเป็นนางพรทิพย์ โดยนางพรทิพย์อาจอาศัยจังหวะที่ด.ต. วิวัฒธนา กำลังหลับอยู่ หยิบอาวุธปืนยิงใส่ด.ต.วิวัฒธนา ก่อนที่จะยิงตัวตายตาม

ในส่วนของด.ต.วิวัฒธนา นับเป็นตำรวจที่ขยันทำงาน และเนื่อง จากดาบวิวัฒธนามีภรรยาอายุน้อย จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัย และด้วยตำรวจมีภารกิจมาก โดยเฉพาะต้องดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม เลยทำให้ภรรยาเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าด.ต. วิวัฒธนา ไปมีหญิงอื่นอีกจึงเกิดความหึงหวง ซึ่งก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ทั้งคู่ก็ทะเลาะกันเนื่องจากภรรยาต้องการให้ด.ต.วิวัฒธนาพาไปเที่ยว แต่ด.ต.วิวัฒธนา ไม่มีเวลาพาไป เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ จึงเกิดมีปากเสียงกันรุนแรงจนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะได้นำศพทั้งสองคนส่งผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชต่อไป

พิษรักแรงหึงพ่นพิษอีกจนได้!!?

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์