แย่งเข็นผักยิงสนั่นคลองเตยไม่มีเจ็บ-ตาย

คมชัดลึก :คลองเตยเดือดอีกไฟดับ-เสียงปืนดังสนั่นตลาดนับร้อยนัด โชคดีไม่มีตาย-เจ็บ รอยกระสุนเจาะเต้นท์รักษาการณ์ ตร.บุกตรวจลานจอดรถบ.ลีเกิ้ลฯพบปืน-เสื้อเกราะซุกในรถ จับชายฉกรรจ์กว่า 20 ทำประวัติที่สน.ท่าเรือ เผย เหตุรุนแรงมาจากแย่งเข็นผักในตลาด

เมื่อ 23.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม ร.ต.ท.กิตติ เฮงเจริญ รองสวป.สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณท้ายตลาดเพชร ซึ่งอยู่ภายในตลาดคลองเตย ซอย 8 ถนนสุนทรโกศา แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่สายตรวจ และชุดสืบสวนสน.ท่าเรือ 


ที่เกิดเหตุภายในตลาดไม่พบผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ภายในเต้นท์ที่พักชั่วคราว

ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ประสานงานของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5)ที่มารักษาความปลอดภัย บริเวณกันสาดเป็นไม้กระดานติดกับกำแพงลานจอดรถของศูนย์รักษาความปลอดภัยของบริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด มีรูกระสุน 1 รู มีร่องรอยกระสุนปืนภายในเต้นท์ 2  รู ที่หลังคาเต้นท์ 1 รู และที่ป้อมรับแจ้งเหตุของตำรวจติดอยู่กับเต้นท์ 1 รู และพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 2 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.5 และสน.ท่าเรือ ประมาณ 50 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจสอบในตลาด

ออกค้นหามือปืนที่ยิงเข้ามาในเต้นท์ แต่ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด ซึ่งช่วงนั้นทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ไม่พอใจที่มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังจากนั้นเจ้าหน้าได้ตรวจค้นภายในลานจอดรถศูนย์รักษาความปลอดภัยของบริษัทลีเกิ้ลฯพบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทลีเกิ้ลฯประมาณ 20 คน อยู่ในลานจอดรถ
เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นอาวุธทุกคน พร้อมทั้งตรวจรถที่จอดหลายคัน ปรากฎว่าภายในรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ธว 7869 กทม. พบเสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว ซองปืนสั้น 1 อัน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง และปืนบีบีกัน อีก 1 กระบอก นอกจากนี้ตรวจค้นในรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ลร 7777 กทม. พบอาวุธปืนยาวซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นเบาะหลังจำนวน 1 กระบอก มีดดาบจำนวน 1 ด้าม เจ้าหน้าที่จึงนำชายฉกรรจ์ทั้งหมดไปสอบสวนทำประวัติที่สน.ท่าเรือ


พ.ต.อ.วัชรพงศ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลระวังรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุรุนแรง

จากการตรวจสอบพบว่ากระสุนปืนยิงเข้ามาที่เต้นท์ของตำรวจที่รักษาการณ์เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุเกิดจากการแย่งรถเข็นผักในตลาด ซึ่งปกติหลังมีรถเข็นผักมาลงก็จะมีคนเข็นผักมารับ
โดยก่อนหน้าที่มีบริษัทลีเกิ้ลฯ ที่ได้รับสัมปทานนำคนมาประมาณ 20 คน เพื่อมาเข็นผัก แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าบริษัทเก่า ก็จะไปแย่งเข็นผัก จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเจรจาไปแล้วว่าใครจะจ้างใครก็จ้างไปแต่อย่าให้มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน ทั้งสองกลุ่มแยกย้ายกันไปแล้วหลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น


ด้าน ร.ต.ท.กิตติ กล่าวว่า ระหว่างที่ขับรถออกตรวจพื้นที่รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและมีเสียงปืนดังขึ้นในตลาดคลองเตย ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบ

แต่ระหว่างที่จะเข้าไปภายในท้ายตลาดเพชร ไฟฟ้าดับลงมืดสนิท แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดเป็นระยะโดยไม่รู้ทิศทางว่ามาจากทางไหน เสียงปืนดังประมาณ 5 นาที ก็เงียบลงแล้วไฟในตลาดก็สว่างขึ้นมา จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษบก.น.5 ที่มาคอยดูแลความปลอดภัยในตลาดคลองเตย เข้าไปตรวจสอบแล้ว


ขณะที่ ส.ต.อ.กิตปกรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 ที่คอยรักษาความปลอดภัยอยู่ตลาดคลองเตย กล่าวว่า ช่วงประมาณ 22.20 น.

ตอนนั้นเห็นแม่ค้าเอารถมาลงของที่ตลาด ช่วงนั้นมีบริษัทลีเกิ้ลฯกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า  เข้ามายื้อแย่งเพื่อเข็นผักไปวางขายจนเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นถึงขนาดมีการตบตีกัน
จากนั้นไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้นนับร้อยนัด จากบริเวณลานจอดรถของบริษัทลีเกิ้ลฯ และมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นประมาณ 2-3 ลูก แต่ไม่รู้ว่าเป็นการยิงขู่หรือไม่ หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆจากหลายจุด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยต่างก็หลบวิถีกระสุนเพราะเกรงจะโดนลูกหลง จนเสียงปืนเงียบลงจึงเข้าไปตรวจสอบในตลาดก็ไม่พบคนร้ายที่ยิงปืน


นางโสภา พรหมสุข อายุ 36 ปี แม่ค้าขายผัก กล่าวว่า ปกติแล้วเวลาที่ตนนำผักมาลงในตลาด ก็จะมีคนของบริษัทเก่ามารับเข็นผัก

แต่ตอนหลังก็มีบริษัทลีเกิ้ลฯเข้ามารับเข็นผัก จนเกิดการแย่งกันกับบริษัทเก่า ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่อยากให้มีเรื่องมีราวเกิดขึ้น เพราะต้องทำมาหากิน ตนก็ไม่อยากเอาผักลงกับบริษัททั้งสองแห่งจึงไปจ้างคนกลางมาเข็นผักแทน


นายเรืองชัย โพธิ์ศรี อายุ 53 ปี หัวหน้ารปภ.บริษัทลีเกิ้ลฯ กล่าวว่า สาเหตุที่ทางกลุ่มแม่ค้าของบริษัทเก่าไม่ต้องการให้บริษัทลีเกิ้ลฯมาลงของเข็นผัก แล้วพาพวกมากดดันจำนวนมาก

ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าใครเป็นฝ่ายยิงใครก่อน แต่บริษัทลีเกิ้ลฯที่เข้ามาบริหารตลาด เข้ามาทำงานก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในตลาดหลายคน ทางหัวหน้าของบริษัทจะเน้นกำชับไม่ให้มีการปะทะกับพ่อค้าแม่ค้าทุกครั้ง เมื่อมีการปะทะกันระหว่างพ่อค้าแม่ค้ากับพนักงานของบริษัททางตำรวจก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์