ชูวิทย์พาลูกมอบตัว-จวกตร.

จากกรณีนายอิทธิ วรวุฒิ นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าเเจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน

ว่าถูกนายต้นตระกูล และนายเติมตระกูล ลูกชายของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทำร้ายร่างกายภายในร้านกรู๊ฟรูม ปากซอยเอกมัย 21 จนนายชูวิทย์ได้ออกมาตอบโต้ว่า รปภ.ของร้านทำรุนเเรงเกินไปที่นำเครื่องชอร์ตไฟฟ้ามาชอร์ตลูกชายตน ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมด้วยนายต้นตระกูล และนายเติมตระกูล ลูกชาย เดินทางมายัง สน.คลองตัน ภายหลังทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน จะออกหมายเรียกลูกชายทั้ง 2 คนมารับทราบข้อกล่าวหา เเต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ใน สน. จึงได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชน ก่อนเดินทางกลับไป

นายชูวิทย์กล่าวว่า วันนี้พาลูกชายมาเพื่อมาให้ปากคำกรณีถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเห็นว่าลูกตนก็เป็นวัยรุ่นคนธรรมดาเหมือนกัน

หากผิดจริงก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงนั้นผู้เสียหายไม่ได้อยากแจ้งความแต่อย่างใด เพราะเค้าเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนมัธยมกันมา แต่เขาบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาพบให้มาสอบปากคำ ในฐานะคนจัดงานในวันเกิดเหตุเท่านั้น ส่วนลูกชายตนก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน แต่พอมาแล้วโทรศัพท์ติดต่อนายตำรวจที่ดูแลคดีแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และใน สน.คลองตันวันนี้ก็มีแต่ตำรวจยศพันตำรวจตรีเท่านั้น ใหญ่กว่านั้นไม่อยู่เลย อยากให้ผู้สื่อข่าวเป็นพยานด้วย และหากมีหมายเรียกมาก็คงต้องมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังยืนยันว่าจะไม่มีการให้ลูกชายแจ้งความดำเนินคดีแน่นอน ทั้งที่ลูกชายตนก็ได้รับบาดเจ็บ เพราะเขาเป็นเพื่อนกัน ส่วนทางร้านตนก็ไม่แจ้งเพราะเข้าใจดี เพราะตนนั้นเคยทำสถานบริการมาก่อน

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ลูกตนนั้นกำลังตกเป็นเหยื่อของสังคม เพราะว่าเค้าเป็นลูกของนายชูวิทย์ แค่เรื่องที่เกิดขึ้นก็แค่ทะเลาะกันไม่ได้ไปฆ่าใครตาย

แถมยังเป็นเพื่อนกัน อย่างมากก็ถูกปรับ ไม่ได้เจ็บสาหัส ถ้าเป็นคนแซ่อื่นก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่โตอย่างนี้ แต่นี่ดันแซ่กมลวิศิษฎ์เลยเป็นเรื่อง ตนอยากบอกว่าลูกตนก็เป็นวัยรุ่นคนธรรมดา คนโตอายุ 19 กำลังศึกษาอยู่เอแบค ส่วนคนที่ 2 อายุยังไม่ 18 ดีเลย เพิ่งสอบเข้าศิลปากรได้ วันเกิดเหตุก็บอกว่าจะไปเลี้ยงฉลองกันที่ร้านหมูกระทะ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พอมีเรื่องก็ถึงรู้ว่าแอบไปเที่ยวกัน ซึ่งตนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกๆ อยู่ด้วยนั่งดูทีวีกันทุกคืน แต่คงทำไม่ได้เพราะวัยรุ่นเป็นไงก็รู้กันอยู่ เราไม่สามารถไปดูแลได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่แทนที่สังคมจะช่วยกันดูแลอีกทางหนึ่ง โดยการเข้มงวดตรวจบัตรตามสถานบริการไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้าก็จะดีเหมือนกัน เพราะหลังเกิดเรื่องตนถามลูกว่าเวลาเข้าไปเที่ยวเขาไม่ตรวจบัตรเลยหรือ ลูกบอกว่าไม่เคยตรวจเลย มีตั้งหลายร้านย่านคลองตัน ทองหล่อ และเอกมัย เลยอยากถามสังคมว่าลูกตนผิด หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจผิด ที่ปล่อยให้สถานบริการเปิดให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปดื่มสุรา

"ผมอยากถามนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับผบช.น.หรือผบ.ตร. คงไม่ถามระดับผู้กำกับหรอกเพราะเล็กไป ว่าประเด็นที่หนึ่ง การที่สถานบริการมีการให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยไม่มีการตรวจบัตรประชาชนเลย และการที่สถานีตำรวจท้องที่ปล่อยปละละเลยให้สถานบริการเปิดเกินเวลา ถึงตี 2 ตี 3 ให้กลับไปดูพ.ร.บ.สถานบริการ มาตรา 3 วงเล็บ 5 อีกที อย่ามี 2 มาตรฐาน ส่วนประเด็นที่สอง คุณรู้สึกอย่างไงกับการกินเหล้าเคล้าบุญ อย่างที่นายตำรวจอ้างว่านักศึกษามาขอเช่าสถานที่จัดกิจกรรมอย่างนี้เพื่อหาเงินช่วยการกุศล แล้วอนุญาตให้เด็กๆ เข้าไปดื่มสุรากันได้อย่างอิสระอย่างนี้ได้หรือ ไม่ผิดใช่ไหม ที่อื่นจะได้ทำกันบ้าง" อดีตเจ้าพ่ออ่างกล่าว

ด้านนายต้นตระกูลกล่าวว่า วันเกิดเหตุประมาณ 4 ทุ่น ตนกับน้องบอกพ่อจะไปกินหมูกระทะกัน แต่มาที่ร้านดังกล่าวเพราะมีเพื่อนที่จุฬาฯ ชักชวนไปว่ามีการจัดคอนเสิร์ตการกุศลของนิสิตจุฬาฯ

เพื่อหาเงินออกค่ายอาสาต่างจังหวัด โดยมีการขายบัตรค่าเข้าใบละ 600 บาท แล้วสามารถเข้าไปดื่มกินได้ตามสบาย กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนเห็นโต๊ะข้างๆ เริ่มมีการกระทบกระทั่งกันเลยเข้าไปดู แต่ถูก รปภ.ของร้านล็อกตัวออกมาแล้วถูกชอร์ตไฟฟ้า เมื่อตั้งสติได้เลยเข้าไปดึงตัวน้องชายออกมาข้างนอก อีกทั้งยังมีคนไล่ตามเอาขวดมาตีตนอีก จึงรีบหนีกลับบ้าน กระทั่งตอนเช้าเห็นข่าวว่าตนและน้องถูกแจ้งความดำเนินคดี รู้สึกงงมาก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์