รัฐเร่งช่วยเหลือเหยื่อภัยนํ้าท่วม

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่หมวกเหล็ก-ปากช่อง

อุตุฯ เตือนซ้ำ 20 จว. รับมือน้ำท่วม ด้านภาคเหนือ-อีสาน อ่วมอรทัยจมบาดาลหลายพื้นที่ จังหวัดลพบุรีประกาศ 8 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ขณะที่ รพ.มวกเหล็ก วิกฤติหนักน้ำท่วมสูง 1 เมตร ต้องขนย้ายผู้ป่วยวุ่น เสียหายยับกว่า 8 ล้าน สธ. ส่งเวชภัณฑ์ 5,000 ชุดช่วย ระทึกน้ำป่าทะลักเมืองเลย ชายชราติดอยู่ในบ้าน จนท.กู้ภัยระดมช่วยออกมาได้ “สมชาย” เรียกหน่วยงานถกปัญหาน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 18 เรื่องฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

หลังพบร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง และ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยโดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เช่น บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดร ธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในที่ราบลุ่ม และบริเวณที่ลาดเชิงเขาระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 2-3 วันนี้

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม รพ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่

นายชวรัตน์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และได้รับสั่งให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานออกให้บริการ ตรวจรักษาประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ อ.มวก เหล็ก และ อ.ปากช่อง อย่างเต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในวันนี้กระทรวงฯได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 2 ทีมใหญ่ ออกให้บริการผู้เจ็บป่วย พร้อมทั้งจัดส่งยาสามัญประจำบ้านจำนวน 5,000 ชุด เพื่อมอบให้ประชาชน ในพื้นที่ประสบภัย และให้สถานพยาบาลเปิดให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

รักษาการ รมว.สธ. กล่าวต่อว่า ในขณะที่ รพ.มวกเหล็ก ซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนมิตรภาพ ได้ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี

จุดที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ห้องเก็บวัสดุ โรงครัว โรงซักฟอก รั้วโรงพยาบาล บ้านพักเจ้าหน้าที่ 2 ครอบครัว ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 8 ล้านบาท และเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย รพ.ได้งดรับผู้ป่วยชั่วคราว โดยได้ย้ายผู้ป่วยอาการหนัก 12 ราย ไปที่ รพ. สระบุรี และรพ.ปากช่องนานา

วันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตนจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องจากทุกฝ่ายทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัด เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานแยกย้ายลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรม ราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสนใจแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยเร่งด่วน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลพบุรี นายจารุพงศ์ พลเดช ผวจ.ลพบุรี กล่าว ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ว่า จังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 8 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว

ราษฎรเดือดร้อนกว่า 23,500 หลังคาเรือน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยใน 3 อำเภอ ยังมีความรุนแรง คือ อ.โคกสำโรง อ.เมือง และ อ.บ้านหมี่ น้ำยังท่วมสูง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีก 2-3 วันนี้ จะกลับสู่ภาวะปกติได้ ขณะที่หมู่บ้านจัดสรร ในเขตเทศบาลเขาสามยอด อ.เมือง ได้ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ทหารได้นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือ สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังสามารถรองรับน้ำได้ถึง 960 ล้านลูกบาศก์เมตร

ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายณรงค์ มหรรณพ หน.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า จากที่มีภาวะฝนตกต่อเนื่อง น้ำป่าท่วมพื้นที่ด้านล่างรอบอุทยาน

จึงได้ประกาศแจ้ง เตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังดิน-หินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก พร้อมสั่งห้ามลงเล่นน้ำตกทุกแห่งในทุกเขตอุทยาน รวมถึงงดการเดินป่าด้วย ส่วนที่เขตพื้นที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา ได้มีน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะภายในโครง การบ้านจัดสรรจามจุรี หมู่ 10 บ้านหนองตาคง ถูกน้ำท่วมสูง บ้านเรือนราษฎรรวมกว่า 200 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดนาย อนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย พร้อมคณะได้ออกเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในตำบลหมูสี

ที่ จ.อุดรธานี ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ทำให้บ้านเรือนราษฎรและถนนหนทาง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองหนองสำโรง อ.เมือง

ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 4,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 1 ราย คือ ด.ช.ชนะชัย อินทร์จัน อายุ 6 ขวบ ขณะที่น้ำป่ายังไหลหลากเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู สูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ราษฎรได้รับความเสียหายร้อยกว่าหลังคาเรือน ด้านนายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผวจ.หนองบัวลำภู พร้อมคณะได้นำถุงยังชีพไปมอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ขณะที่ จ.เลย ฝนได้ตกติดต่อกันเป็นเวลากว่า 48 ชั่วโมง จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเลยมีปริมาณมากขึ้น น้ำที่ไหลจาก อ.ภูหลวง ผ่าน อ.วังสะพุง เข้าสู่เทศบาลเมืองเลย

ทำให้น้ำล้นเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร บริเวณบ้านล่างเขตเทศบาลเมืองเลย ทำให้ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น เนื่องจากระดับน้ำได้สูงขึ้น เร็วและต่อเนื่อง รวมถึงบริเวณถนนสายเลย-ท่าลี่ ถูกน้ำท่วมสูง 50 ซม. ขณะที่บริเวณริมถนน กม. 3 ปรากฏว่ามีนายสมบัติ จันทรวิเศษ อายุ 70 ปี ติดอยู่ในกระท่อมกลางสวนพร้อมสุนัข 1 ตัว ไม่สามารถออกมาได้เพราะกระแสน้ำแรง ต้องติดอยู่กว่า 3 ชม. ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคีรีธรรม จึงระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือจนปลอดภัย

สำหรับที่ จ.พิษณุโลก หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง
ขณะที่ บริเวณถนนสายพิษณุโลก-วังทอง ใกล้กับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 ระดับน้ำในคลองหนองแหวนได้เพิ่มสูงขึ้นจนไหลท่วมถนน 4 เลน ทั้ง 2 ช่องทางการจราจร ขาเข้า-ออกเมืองพิษณุโลก สูง 30 ซม. ส่วนที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก น้ำยังท่วมห้องขังผู้ต้องโทษถึง 4 แดน ทางผู้บัญชาการเรือนจำต้องอพยพผู้ต้องขังจำนวน 1,485 คนไปอยู่ในแดน 5 และเร่งนำเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากเรือนจำ รวมถึงทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก ก็ถูกน้ำไหลเข้าท่วม ภายในส่งผลให้ผู้ต้องขังหญิง 486 คนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวเพื่อกั้นน้ำท่วมขัง

ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.กบินทร์ กล่าวว่า น้ำป่าที่ไหลหลากมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ซึ่งท่วมพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ก่อนหน้านี้ได้ลดระดับมาไหลรวมที่ต้นแม่น้ำปราจีนบุรี แล้วไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนชุมชนตลาดเก่า ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำติดริมต้นน้ำปราจีนบุรีกว่า 600 ครอบครัว ระดับน้ำท่วมสูงถนนสูงกว่า 45 ซม. การช่วยเหลือเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ของประชาชนหนีน้ำเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย พร้อมจัดเรือท้องแบน 3 ลำ มาบริการประชาชน

ต่อมาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายเมธาดล วิจักขณะ ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานหน้าวัดไชยวัฒนาราม หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยกำลังมี การวางแนวก่อสร้างแนวป้องกันแบบถอดพับได้ แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ นายเมธาดล เปิดเผยว่า ขณะนี้อุทยานประวัติศาสตร์ฯ ได้ประสาน กับสำนักโยธาในการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรที่บริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม และหมู่บ้านโปรตุเกส ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างการวางฐานล่าง ไม่สามารถที่จะทันกับการใช้ป้องกันในปีนี้ ดังนั้นจึงได้เตรียมการใช้แนวป้องกันเดิมซึ่งใช้บังเกอร์คอนกรีตมาวางตั้งแล้วใช้ผ้าใบคลุม โดยมีความสูง 2.50 เมตร คาดว่าจะทำการติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 2 วัน

ด้านนายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกสำรวจพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก

โดยได้ให้ทุกอำเภอตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ส่วนที่เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ ได้มีการเร่งระบายน้ำเต็มกำลังลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อเร่งระบายน้ำหลากที่ไหล มาจาก จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี พบว่าระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่งท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำป่าสักแล้วในจุดที่ลุ่มใน อ.ท่าเรือ และ อ.นครหลวง.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์