ตร.เมืองย่าโมรวบ มล.ร่วมกับเพื่อนสนิทลอบขนไม้พะยูงส่งลูกค้าแถวบึงกาฬ สารภาพทำธุรกิจล้มเหลวเลยหันมาเอาดีเดินสายรับซื้อไม้ต้องห้ามเขตโคราชส่งขายต่อ
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่หน้าอาคารสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.เอนก ศรีกิจรัตน์ ผกก.สภ.โนนแดง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ม.ล.ไพโรจน์ จรูญโรจน์ อายุ 44 ปี และนายชูชาติ ชูทิพย์ อายุ 40 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป 18 แผ่น มูลค่ากว่า 1 แสนบาทบาท รถยนต์มิตซูบิชิ ไตร์ตั่น สีดำ ทะเบียน กง 7671 ชัยภูมิ 1 คัน
พล.ต.ต.กรกต กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากทราบว่า ผู้ต้องหาจะทำการลักลอบขนไม้พะยูงมาตามถนนมิตรภาพ-ขอนแก่นต.โนนตาเถร อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา จึงได้ตั้งด่านสกัดจับ ต่อมาพบผู้ต้องหาทั้งคู่ขับรถฝ่าด่านตรวจหลบหนีเลี้ยวออกจากถนนมิตรภาพไปทาง อ.บัวใหญ่ ไปถึงบริเวณบ้านอ้อยช้าง หมู่ 7 ต.กุดจอก อ.บัวใหญ่ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะจอดรถวิ่งหลบหนีลงกลางทุ่งนา เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่จับกุมได้อย่างทุลักทุเล พร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน ม.ล.โพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่าทำธุริจหลายอย่างไม่ประสบความสำเสร็จ จึงได้ร่วมกับนายชูชาติ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน หันมาค้าไม้พะยูง เนื่องจากเห็นว่ารายได้ดี จึงหาเงินลงทุนเดินสายซื้อไม้ในโคราชไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.บึงกาฬ เพื่อส่งออกนอก โดยครั้งนี้ได้ไปรับซื้อไม้พะยูงทั้งหมดมาจาก อ.ปากช่อง ในราคา 25,000 บาท เพื่อไปขายต่อให้ลูกค้าในราคา 70,000 บาท โดยนัดส่งของกันที่ จ.บึงกาฬ ทั้งนี้ เคยก่อก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง โดยขนไปเพียง 7 ท่อน ก่อนจะก่อเหตุอีกครั้ง และถูกจับกุมได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้าม (พะยูง) อันยังไม่ได้แปรรูปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมกับเตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ขายต่อใน อ.ปากช่อง และคนรับซื้อเขต จ.บึงกาฬ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป