สถานการณ์ไฟป่าแคลิฟอร์เนียยังวิกฤต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์ไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติ "โยเซมิตี" ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่ายังคงลุกลามขยายวงกว้างไม่หยุด เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนเพิ่มอีกหนึ่งสาย ขณะที่กลุ่มควันและฝุ่นละอองลอยไปถึงอ่างเก็บน้ำที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับประชาชนในพื้นที่แล้ว

รายงานของสำนักงานป่าไม้รัฐแคลิฟอร์เนียระบุ ไฟป่า "ริม ไฟร์" มีความรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 7 ในประวัติศาสตร์ของรัฐ เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 760 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าเมืองชิคาโก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 4,200 นายกระจายกำลังกันทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อฉีดน้ำและสารเคมีในการดับไฟ ซึ่งสามารถควบคุมการลุกลามของเปลวเพลิงได้เพียง 23% เท่านั้น

ด้วยเหตุที่สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต รวมถึงการที่ไฟป่าลุกลามเข้าสู่บริเวณทะเลสาบ "เอลีนอร์" ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปิดถนน "ติโอกา" ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ใช้ในการเดินทางเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของอุทยานแล้ว หลังปิดถนนหลวงสาย 120 เส้นทางหลักทางทิศตะวันตกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า การปิดถนนทั้ง 2 สายอาจกินเวลาถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาวในวันแรงงานของสหรัฐพอดี ซึ่งตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนก.ย.ของทุกปี และในปีนี้ตรงกับวันที่ 2 ก.ย. 

ขณะที่กลุ่มควันและเถ้าถ่านที่เกิดจากการดับไฟได้ลอยไปถึงอ่างเก็บน้ำ "เฮช เฮตชี" บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ห่างจากจุดศูนย์กลางของไฟป่าไปทางตะวันตกราว 200 กิโลเมตรแล้ว สร้างความกังวลให้แก่ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นอ่างเก็บน้ำหลักที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาสำหรับชาวเมืองซานฟรานซิสโก