สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า สำนักงานนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กประกาศเมื่อวันอังคารว่า คดีฆาตกรรมและการใช้อาวุธปืนยิงกันได้ลดลงเป็นประวัติการณ์ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้จนถึงวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา มีคนถูกฆ่าตาย 213 ราย เมื่อเทียบกับคนถูกฆ่า 290 รายในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555
นอกจากนั้น การฆ่ากันด้วยอาวุธปืนก็ลดลงไปร้อยละ 29.7 ซึ่งมีการยิงกัน 708 ครั้ง เมื่อเทียบกับ 957 ครั้งของปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า นครนิวยอร์ก ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่มีการใช้ความรุนแรงมากที่สุดในโลก ได้สร้างสถิติใหม่ หลังปี 2555 โดยจำนวนการฆาตกรรมลดลง และการใช้อาวุธปืนยิงกันก็ลดลงเป็นประวัติการณ์ในประวัติศาสตร์ของนครนิวยอร์ก ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว นครนิวยอร์กมีเหตุฆาตกรรมทั้งสิ้น 419 ครั้ง และใช้อาวุธปืนยิงกัน 1,314 ครั้ง
สำหรับนโยบายหยุดและตรวจค้น(อาวุธปืน)ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในความพยายามของนิวยอร์กที่จะหยุดการก่อความผิด ภายหลังมีการใช้ความรุนแรงที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดในช่วงทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990
ด้าน นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กกล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นหนึ่งในเครื่องมือปราบอาชญากร ที่ทำให้นครนิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่ที่มีความปลอดภัยที่สุดในอเมริกา