สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ว่า แถลงการณ์จากทำเนียบขาวกรุงวอชิงตัน ระบุว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ เพื่อหารือกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่เกิดขึ้นใกล้กับกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นความเป็นไปได้ที่จะมีการตอบโต้จากนานาชาติในเรื่องนี้
ขณะที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงว่า
ประธานาธิบดีโอบามาและนายกรัฐมนตรีคาเมรอนแสดงความวิตกอย่างมากที่มีสัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีด้วยฝีมือของฝ่ายรัฐบาลซีเรียต่อประชาชนของตนเอง เป็นข้อเท็จจริงขึ้นมาว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ไม่ได้ร่วมมือกับสหประชาชาติที่ระบุว่า ซีเรียปกปิดอะไรบางอย่าง ดังนั้น การใช้อาวุธเคมีจึงควรได้รับการตอบโต้อย่างร้ายแรงจากประชาคมระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังได้หารือประเด็นนี้กับนายสตีเฟ่น ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาด้วย
ด้านรัฐบาลซีเรีย โดยนายออมราน อัล-โซบี รัฐมนตรีประชาสัมพันธ์ของซีเรีย แถลงว่า รัฐบาลซีเรียไม่เห็นด้วยกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีจากฝ่ายสหรัฐ เพราะการกระทำเช่นนั้น เสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง เปรียบได้กับลูกไฟลูกใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะมอดไหม้ซีเรียเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับนายอับบาส อารักจี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน แถลงที่กรุงเตหะรานว่า หากสหรัฐใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงในซีเรีย ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์สับสนวุ่นวายยิ่งขึ้น