กองทัพอียิปต์ลั่นจะไม่ทนกับฝ่ายที่ สร้างความแตกแยก อีกต่อไป

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เกี่ยวกับแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยอียิปต์
 
ซึ่งระบุว่า ผู้ต้องขังฝ่ายสนับสนุนอดีตรัฐบาลทั้ง 36 คนก่อจลาจล พร้อมกับควบคุมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเป็นตัวประกัน เพื่อพยายามหลบหนีออกจากเรือนจำอาบู ซาบาล ชานกรุงไคโร เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ที่เหลือจึงพยายามควบคุมสถานการณ์โดยใช้แก๊สน้ำตา เจ้าหน้าที่ซึ่งถูกควบคุมตัวหลบหนีออกมาได้แต่บาดเจ็บสาหัส ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ยิงวิสามัญทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มภราดรภาพมุสลิมออกแถลงการณ์โต้แย้งว่า
 
จำนวนผู้เสียชีวิตแท้จริงอยู่ที่ 52 ศพ ส่วนสาเหตุมาจากการขาดอากาศหายใจภายในรถบรรทุกที่แออัด และเจ้าหน้าที่ระดมยิงกระสุนจริงและฉีกแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อ "สังหารหมู่"

ด้านพลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ผู้บัญชาการทหารบกอียิปต์
 
แถลงเป็นครั้งแรกหลังนำกำลังโค่นอำนาจประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ว่ารัฐบาลรักษาการและกองทัพยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศตามระบบประชาธิปไตย แต่จะไม่ขออดทนกับพฤติกรรมยั่วยุและ "ก่อการร้าย" เพื่อสร้างความวุ่นวายและแตกแยกในประเทศอีกต่อไป

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส
 
แถลงเรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ 2 ประเทศมหาอำนาจในตะวันออกกลาง แสดงท่าทีที่ "ชัดเจน" กว่านี้ ต่อสถานการณ์ในอียิปต์ หลังทางการซาอุดิอาระเบียแถลงว่า ขอให้ความสนับสนุนรัฐบาลรักษาการอียิปต์ ขณะที่กาตาร์ออกมาเรียกร้องก่อนหน้านี้ ขอให้ทุกภาคส่วนในอียิปต์หันหน้ามาเจรจากัน

การปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพกับฝ่ายสนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิมตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 800 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 4,000 คน