ประจำเครื่องบินลำที่ตกกระแทกรันเวย์สนามบินซาน ฟรานซิสโก เมื่อวันเสาร์ ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจากกล่องดำเพิ่มความกระจ่างมากขึ้นว่า สาเหตุของอุบัติเหตุอาจเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของนักบิน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนของทางการสหรัฐเริ่มสอบปากคำนักบิน 4 คนของสายการบิน "เอเชียนา แอร์ไลน์ส" ประจำเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเพิ่มเติมจากอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน หรือ "กล่องดำ" เริ่มชี้ชัดขึ้นว่า การตัดสินใจที่ "ผิดพลาด" ของนักบิน อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
นางเดบอราห์ เฮอร์สแมน ประธานคณะกรรมการสอบสวนความปลอดภัยทางการขนส่งแห่งชาติ ( เอ็นทีเอสบี )
ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุเที่ยวบิน โอแซท 214 ของสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ส บรรทุกผู้โดยสาร 291 คน และลูกเรือ 16 คน ซึ่งใช้เครื่องบินโดยสารของโบอิ้ง รุ่น "777-200 อีอาร์" ตกกระแทกทางวิ่ง ( รันเวย์ ) ที่สนามบินซาน ฟรานซิสโก เมื่อวันเสาร์ แถลงว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำกัปตัน และนักบินผู้ช่วยอีก 3 คน ว่าใช้ความเร็วต่ำเกินไปขณะทำการร่อนลงจอดจริงหรือไม่ หลังข้อมูลเพิ่มเติมจากกล่องดำระบุชัดว่า นักบินใช้ความเร็วต่ำกว่าความเร็วมาตรฐานสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งต้องอยู่ที่ 137 น็อต
นอกจากนี้ รายงานจากกล่องดำเผยด้วยว่า 54 วินาทีก่อนเครื่องบินจะตกกระแทกรันเวย์ นักบินควบคุมเครื่องบินด้วยความเร็ว 149 น็อต
บนระดับความสูง 1,000 ฟิต ก่อนมีการลดระดับความเร็วเหลือ 134 น็อต ที่ระดับ 500 ฟิต เมื่อ 34 วินาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ต่อมาบนระดับความสูง 200 ฟิต ความเร็วของเครื่องบินเหลืออยู่ที่ 118 น็อต ซึ่งเป็นเวลา 16 วินาทีก่อนลงจอด
และที่ระดับความสูง 125 ฟิต หรือ 8 วินาที ก่อนเกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หมายความว่า นักบินพยายามปฏิเสธการลงจอดด้วยการเร่งเครื่องยนต์เต็มกำลัง หรือ "โก-อะราวด์" จนกระทั่ง 3 วินาทีสุดท้าย ความเร็วของเครื่องบินเหลืออยู่เพียง 103 น็อตเท่านั้น ขณะที่ความเร็วช่วงที่ตัวเครื่องกระแทกรันเวย์อยู่ที่ 106 น็อต
ด้านนายยูน ยัง-ดู ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของเอเชียนา แอร์ไลน์ส แถลงว่า
คงเป็นเรื่องที่ "ยากจะยอมรับ" หากอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ซึ่งเป็นเด็กสาวชาวจีนวัยเพียง 16 ปี และ 17 ปี เกิดจากความผิดพลาดของนักบินจริง แต่ทางสายการบินจะตรวจสอบ "อย่างละเอียด" ที่สุด
แถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้ของสายการบิน ระบุว่า แม้กัปตัน ลี คัง-คุก จะมีประสบการณ์ชั่วโมงบินเกือบ 10,000 ชั่วโมง แต่นักบินวัย 46 ปีมีประสบการณ์กับเครื่องบินโบอิ้งตระกูล 777 เพียง 43 ชั่วโมงเท่านั้น