น้ำท่วมยุโรปยังวิกฤต-เช็กสั่งเปิดเขื่อนระบายน้ำแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
 
ถึงความคืบหน้าของสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในแถบตอนกลางของยุโรปว่า ประชาชนนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่ทางการเช็กจำเป็นต้องเปิดเขื่อนเพื่อระบายน้ำเข้าสู่กรุงปราก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันอยู่ที่อย่างน้อย 10 ศพ
 

ฝนที่ยังคงตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายประเทศแถบตอนกลางของยุโรป
 
โดยเฉพาะประเทศที่ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มที่เป็นเส้นทางไหลผ่านของแม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายที่ใหญ่และยาวที่สุดของภูมิภาค มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สวนสัตว์แห่งชาติในกรุงปราก ต้องเร่งอพยพสัตว์กว่า 1,000 ตัว หลังกระแสน้ำจากแม่น้ำวิลตาวาเริ่มเอ่อล้นคันกันน้ำ และคาดว่าจะไหลเข้าท่วมเมืองหลวงของเช็กในเร็ววันนี้

ขณะที่รัฐบาลเช็กซึ่งประกาศให้ทั่วประเทศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติตั้งแต่วันอาทิตย์

ได้ออกประกาศซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและตึงเครียดไปทั่วทั้งเมืองหลวงว่า ปริมาณน้ำในเขื่อน 9 แห่งอยู่ในขั้นวิกฤตและไม่อาจรองรับน้ำเพิ่มได้อีก จึงจำเป็นต้องมีการระบายน้ำออกส่วนหนึ่ง ซึ่งกระแสน้ำที่ถูกปล่อยออกจากประตูระบายน้ำจะทยอยไหลเข้าสู่กรุงปรากตั้งแต่วันนี้ เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 01.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ตามเวลาในประเทศไทย ) ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเฉพาะในเช็กอยู่ที่อย่างน้อย 7 ศพ และสูญหายอีก 4 คน

ด้านสถานการณ์อุทกภัยทางตอนใต้ของเยอรมนียังคงวิกฤตหนัก โดยเมืองพาสเซาในรัฐบาเยิร์นได้รับผลกระทบหนักที่สุด
 
เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้ระดับน้ำที่ทางการประเมินว่า สูงที่สุดในรอบกว่า 400 ปี นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนีสั่งระดมกำลังทหารหลายพันนายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งเสริมคันกันน้ำตามแนวแม่น้ำดานูบ และแม่น้ำเอลเบทางตะวันออก ที่มีรายงานว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสั่งให้ประชาชนในรัฐซัคเซิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญคือเดรสเดน และไลป์ซิก อพยพไปอาศัยยังศูนย์พักพิงเป็นการชั่วคราว

ส่วนที่ออสเตรีย พื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือทางเหนือและทางตะวันตก โดยเฉพาะที่เมืองซาร์ลสบวร์กและโรเซนไฮม์ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพจากดินถล่ม ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ยืนยันยังควบคุมสถานการณ์ได้ แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ

อุทกภัยที่เกิดขึ้นในแถบตอนกลางของยุโรปครั้งนี้ ถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เมื่อปี 2545 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตเฉพาะที่เช็กมากถึง 17 ศพ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 ล้านยูโร ( ราว 8 แสนล้านบาท )