ชาวเกาหลีใต้ 50 คนสุดท้ายจากนิคมฯแคซอง เตรียมกลับประเทศวันนี้

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คนงานชาวเกาหลีใต้เดินทางกลับประเทศเพิ่มอีก 126 คน พร้อมด้วยรถยนต์ที่บรรทุกสัมภาระและอุปกรณ์ต่างๆเต็มคันรถ ที่ได้รับการอนุมัติเอกสารจากเจ้าหน้าที่ของทางการเปียงยางล่วงหน้าเพียง 30 นาทีเท่านั้น

นายคิม ฮยุน-ซอก โฆษกกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ระบุว่า ได้แจ้งทางการเกาหลีเหนือว่า ชาวเกาหลีใต้กลุ่มสุดท้ายจำนวน 50 คน มีกำหนดเดินทางข้ามด่านตรวจในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่ส่วนใหญ่เป็นวิศวกรด้านการสื่อสารและไฟฟ้า แต่ยังคงไม่ได้รับการอนุญาต

นายยุน บยอง-เซ รมว.กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ แถลงว่า เกาหลีใต้ยังพร้อมที่จะเจรจากับเปียงยางอยู่เสมอ และเกาหลีเหนือควรเข้าใจและยอมรับว่า โครงการนิวเคลียร์และทดสอบจรวดนำวิถีเป็นเพียงการสร้างวิมานในอากาศ

ด้านผู้สังเกตการณ์บางรายเชื่อว่า การปิดนิคมอุตสาหกรรมครั้งนี้จะเป็นการปิดแบบถาวร แม้ว่าจะมีผู้เชื่อว่านิคมฯจะกลับมาเปิดอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากที่สองฝ่ายเปิดการเจรจา ขณะที่อุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือเริ่มทรุดโทรมและขาดการดูแลเอาใจใส่ และเกาหลีเหนือก็จะนำกำลังเข้ามาประจำการยังพื้นที่นิคมฯเดิม ซึ่งเท่ากับว่าเริ่มเข้ามาใกล้ชายแดนเกาหลีใต้มากขึ้น

เกาหลีใต้ประกาศอพยพคนงานและเจ้าหน้าที่ของตนที่ยังเหลืออยู่ในแกซอง อีก 176 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังรัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธที่จะร่วมโต๊ะเจรจา เพื่อหารือเรื่องการคลี่คลายวิกฤตภายในนิคมอุตสาหกรรมร่วมระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2004 ในเขตเกาหลีเหนือ ที่ห่างจากพรมแดนระหว่างสองเกาหลีราว 10 กิโลเมตร

นิคมอุตสาหกรรมแคซองปิดทำการตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อทางการเกาหลีเหนือสั่งห้ามเจ้าหน้าที่และคนงานชาวเกาหลีใต้ในโรงงานรวม ถึงรถบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ เข้าไปในนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งเกาหลีเหนือได้สั่งถอนคนงานชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด 53,000 คน ออกจากนิคมฯ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ