บราซิลตัดสินจำคุกตำรวจรายละ 156 ปี เกี่ยวข้องเหตุสังหารหมู่คุกคารันดิรู111 ศพ

ศาลบราซิลตัดสินจำคุกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 23 นาย รายละ 156 ปี ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องเหตุสังหารหมู่ในเรือนจำที่นครเซาเปาโล เมื่อปี 1992

เจ้าหน้าที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสังหารนักโทษ 13 ราย ในเรือนจำคารันดิรู ระหว่างการปฏิบัติการเพื่อยุติเหตุจลาจล อย่างไรก็ดี มีการพบนักโทษ 111 รายเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว และอัยการแย้งว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกยิงในระยะเผาขน ฝ่ายทนายความของเจ้าหน้าที่เตรียมขอยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน โดยกล่าวแย้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเพื่อป้องกันตัวเอง หลังจากถูกกลุ่มนักโทษบุกเข้าทำร้าย ขณะที่ศาลตัดสินปล่อยตัวจำเลย 3 รายให้พ้นจากข้อกล่าวหา

แด่เดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิล 23 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เกษียณอายุราชการแล้ว ถูกกล่าวหาว่าสังหารผู้ต้องขัง 15 ราย ต่อมาภายหลังจึงทราบว่าผู้ต้องขัง 2 ราย ถูกสังหารโดยนักโทษด้วยกันเอง ขณะที่คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกนำตัวเข้าไต่ สวนเพิ่มเติมอีก

เหตุจลาจลนองเลือดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1992 หลังจากเหตุวิวาทระหว่างนักโทษ 2 ราย ลุกลามกลายเป็นเหตุใหญ่โต ท่ามกลางการเผชิญหน้าระหว่างสมาชิกแก๊งอาชญากรรมคู่อริ  ในเรือนจำคารันดิรู ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นเรือนจำมี่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ที่คุมขังนักโทษไว้ราว 10,000 คน ที่รู้จักกันในชื่อ"การสังหารหมู่คารันดิรู" อย่างไรก็ดี เหตุดังกล่าวไม่พบตำรวจที่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ แต่นักโทษ 111 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 87 คน

อดีตนักโทษรายหนึ่งกล่าวว่า ไม่มีใครคิดว่าเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาและใช้ปืนกลกราดยิงนักโทษแบบไม่เลือก หน้า ทั้งคนที่ถูกขัง หรือคนที่ยอมจำนน ท่ามกลางการส่งเสียงโห่ร้องยินดีของเจ้าหน้าที่ เพราะไม่ใช่ผู้ต้องขังทุกคนที่ร่วมกับการก่อจลาจลในครั้งนั้น ส่วนทนายของตำรวจแย้งว่า การกระทำเป็นไปตามหน้าที่และเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากนักโทษหลายคนมีอาวุธร้ายแรง

เรือนจำคารันดิรู ถูกปิดตัวและทุบทำลายเมื่อปี 2002 ไม่นานนักหลังนักโทษใน 27 เรือนจำทั่วรัฐเซาเปาโล ร่วมก่อเหตุลุกฮือจับผู้เข้าเยี่ยมนักโทษเป็นตัวประกันหลายพันคน