วันนี้ ( 2 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า บรรยากาศการจำหน่าย “ไอแพด มินิ” แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของแอปเปิ้ล ที่เริ่มวางจำหน่ายใน 32 ประเทศ เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ไม่คึกคักอย่างที่หลายฝ่ายประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย
บรรดา “สาวก” แอปเปิ้ล และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีชาวญี่ปุ่นราว 300 คน มาต่อแถวกันหน้าแอปเปิ้ล สโตร์ในย่านกินซ่า กลางกรุงโตเกียว ในจำนวนนี้มี 20 คน ที่มาค้างคืนอยู่หน้าร้านอย่างไรก็ตาม แถวที่ยาวเหยียดกลับเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ทันทีที่ร้านเปิดทำการ ทำให้ผู้ที่มาซื้อถัดจากนี้ไม่จำเป็นต้องต่อแถวอีกต่อไป
ขณะที่บรรยากาศหน้าแอปเปิ้ล สโตร์ในฮ่องกง มีผู้มาต่อแถวเพียง 30 คน ซึ่งเป็นภาพที่ค่อนข้างหน้าประหลาดใจ เมื่อเทียบกับชาวฮ่องกงหลายร้อยคนที่มาต่อแถวยาวเหยียด เพื่อรอจับจองเป็นเจ้าของ “ไอแพด 2” และประชาชนกว่า 1,500 คนที่อดทนต่อแถวข้ามคืน เพื่อขอให้ได้เป็นเจ้าของ “ไอโฟน 4เอส” เร็วที่สุด เมื่อปีที่แล้ว
เช่นเดียวกับบรรยากาศบริเวณหน้าแอปเปิ้ล สโตร์ ในเมืองซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ที่ไม่มีการต่อแถวยาวเหยียดแต่อย่างใด ซึ่งผู้ซื้อรายหนึ่งกล่าวว่า อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่หันมาสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีหลายรายแสดงทรรศนะไปในทางเดียวกันว่า การเปิดตัว ไอแพด มินิ ด้วยราคาเริ่มต้น 329 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10,199 บาท ) อาจกลายเป็นผลเสียต่อแอปเปิ้ลมากกว่า เนื่องจากแท็บเล็ต “เน็กซัส” ของกูเกิ้ล และ “ไคน์เดิล ไฟร์” ของแอมะซอน ที่กำลังก้าวขึ้นมาแย่งส่วนแบ่งในตลาดไอแพด เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 199 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,169 บาท ) อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลอาจไม่ต้องการเน้นตลาดแท็บเล็ตขนาดเล็กจนเกินไป
ขณะที่นายฟิล ชิลเลอร์ รองประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสฝ่ายการตลาดของแอปเปิ้ล ยืนยันว่า ไอแพด มินิ คือ ไอแพดรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ใช่การนำไอแพดรุ่นก่อนหน้ามาย่อให้ขนาดเล็กลง ซึ่งไอแพด มินิ มีน้ำหนักเพียง 308 กรัม เบากว่าไอแพดรุ่นก่อนเกือบ 50% และหนาเพียง 7.2 มิลลิเมตรเท่านั้น