เนื่องจากรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นการขนส่งมวลชนหลักของชาวนิวยอร์กยังไม่เปิดบริการ สะพานบรูคลีนส์จึงคลาคล่ำไปด้วยมนุษย์เงินเดือนที่ตัดสินใจพึ่งขาของตนเองเดินไปทำงาน ซึ่งอาจใช้เวลาน้อยกว่าเดินทางด้วยรถที่ติดหนักยาวเหยียด อีกทางเลือกหนึ่งที่ชาวนิวยอร์กและชาวนิวเจอร์ซีย์หันมาใช้ทดแทนรถไฟใต้ดินก็คือ เรือข้ามฟากแม่น้ำฮัดสัน ไม่เพียงแต่รถไฟใต้ดินเท่านั้นที่ยังไม่อาจให้บริการได้ รถโดยสาร และรถรางก็หยุดบริการเช่นกัน องค์การขนส่งมหานครก็ยังไม่อาจให้คำตอบได้ว่าบริการขนส่งมวลชนจะกลับมาให้บริการตามปกติได้เมื่อใด
ทางด้านนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการนิวยอร์ก ได้ประกาศเริ่มให้บริการรถไฟรถใต้ดินอย่างน้อย 2 สาย
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ได้แก่ สายที่เชื่อมต่อลอง ไอส์แลนด์ กับเขตเวสต์เชสเตอร์ และเชื่อมต่อคอนเนตทิคัตไปยังภาคเหนือ พร้อมกันนั้นจะเพิ่มบริการรถโดยสารเชื่อมต่อระหว่างแมนฮัตตันกับบรูคลีนส์ เนื่องจากอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำอีสต์ริเวอร์ 4 อุโมงค์ จากทั้งหมด 7 อุโมงค์ ยังคงเต็มไปด้วยน้ำท่วมขัง นายคูโอโมย้ำว่า ภาระหนักของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้ไม่เพียงแค่ฟื้นฟูระบบขนส่งมวลชนให้กลับมาสู่ภาวะปกติเท่านั้น แต่จะต้องฟื้นฟูสาธารณูปโภคสำคัญอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน ขณะที่สนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี และสนามบินนวร์ก ลิเบอร์ตี้ ได้เริ่มเปิดบริการแล้ว หลังจากปิดบริการมาหลายวัน อันเป็นผลมาจากพายุเฮอริเคนแซนดี้
การท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งได้เตือนผู้โดยสารให้ตรวจสอบตั๋วเครื่องบินกับสายการบินให้แน่ชัดก่อนเดินทางมาสนามบิน
เพราะสนามบินยังไม่พร้อมในด้านอาหารที่จะบริการแก่ผู้โดยสาร สำหรับสนามบินลา การ์เดีย ในนิวยอร์ก และเทเทอร์โบโร ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ยังคงปิดบริการ
ทางด้านตลาดหุ้นนิวยอร์กเริ่มเปิดการซื้อขายเมื่อวานนี้ หลังจากปิดทำการเป็นเวลา 2 วัน นายไมเคิล บลูมเบิร์ก เป็นผู้ตีระฆังเปิดการซื้อขายด้วยตนเอง ตลาดหุ้นนิวยอร์กต้องใช้ไฟฟ้าสำรอง เนื่องจากโรงไฟฟ้ายังจ่ายไฟฟ้าให้ไม่ได้
ซึ่งทุกครั้งที่มีความเดือดร้อนเกิดขึ้น ความงดงามจากน้ำใจก็จะผุดขึ้นมาให้เห็นอยู่เสมอ
เหมือนกับเด็กน้อยชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ตั้งโต๊ะให้บริการชาร์จไฟอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดแก่ผู้ประสบภัยเฮอริเคนแซนดี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
เด็กน้อยจิตอาสาคนนี้มีชื่อว่า ลูซี่ วัย 11 ขวบ อาศัยอยู่ในเมืองโฮโบเก้น รัฐนิวเจอร์ซีย์
ที่ถูกซูเปอร์สตอร์มแซนดี้พัดถล่ม แต่บ้านของเธอไม่ได้ถูกน้ำท่วม และยังมีกระแสไฟฟ้าใช้ ทำให้พ่อและตัวเองตัดสินใจตั้งโต๊ะตรงหน้าบ้านเพื่อให้เพื่อนบ้านและผู้คนทั่วไปที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้มาชาร์จไฟอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอแพด แล็ปท็อป หรืออุปกรณ์อื่นที่จำเป็นต้องชาร์จไฟ ความคิดของเด็กน้อยคนนี้ทำให้หลายคนได้ใช้โทรศัพท์ แล็ปท็อบ หรือแท็บเล็ต ติดต่อกับญาติพี่น้องเพื่อนฝูง เพื่อส่งข่าวถึงกัน ลูซี่ ไม่ได้คิดค่าบริการแต่อย่างใด เพียงแค่บอกว่าใครที่พอจะช่วยเหลือคนอื่นได้ก็ช่วยบริจาคเงินให้กับสภากาชาด เพื่อเขาจะได้นำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย