กรีซ เผยอัตราฆ่าตัวตายภายในประเทศพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ เหตุวิกฤตหนี้พ่นพิษ ทำคนว่างงาน-จมหนี้
รอยเตอร์ส รายงานว่า กรีซกำลังเผชิญปัญหาการฆ่าตัวตายที่พุ่งสูงขึ้นในระดับที่น่าตกใจ โดยเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรุงเอเธนส์ อาทิ การปลดข้าราชการและการปรับลดเงินเดือนและบำนาญ เพื่อกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมาตรการเหล่านี้กำลังส่งผลให้ชาวกรีซจำนวนมากสิ้นหวัง จากการตกงานและประสบปัญหาหนี้ จนปัจจุบันพบว่าการฆ่าตัวตายนั้นเกิดขึ้นแทบรายวัน
รายงานระบุว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กรีซถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายต่ำสุดประเทศหนึ่ง โดยอยู่ที่เพียง 2.8 คนต่อประชากร 1 แสนคน
ทว่า กระทรวงสาธารณสุขของกรีซ เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2553 หรือ 1 ปีหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ อัตราการฆ่าตัวตายกลับพุ่งสูงถึง 40% และสำหรับปี 2554 มีการคาดการณ์ว่า อัตราการฆ่าตัวตายพุ่งสูงเกือบเท่าตัว คือ อยู่ที่ราว 5 คนต่อประชากร 1 แสนคน
ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การฆ่าตัวตายในกรีซเข้าข่าย “การฆ่าตัวตายทางการเมือง” โดยสะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความรู้สึกไร้ทางออกของสังคม
“เป็นธรรมชาติของชาวกรีซอยู่แล้ว ที่ไม่ต้องการเป็นภาระของใคร” นิคอส ซีเดอร์ริส นักจิตวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางการยังเผยอีกว่า ชาวกรีซยังหันมาพึ่งยาคลายความเครียดมากขึ้นเช่นกัน โดยหลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน