วอยซ์ออฟอเมริการายงานเมื่อ 28 มี.ค. ว่า นายฮุน โท หลานชายนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกหนังสือพิมพ์ดิเอจ
สื่อชื่อดังของออสเตรเลียรายงานว่า พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติประเภทเฮโรอีนและมีพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน ประกาศจะฟ้องสื่อฉบับนี้เพื่อเรียกค่าเสียหาย ฐานหมิ่นประมาท ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย โดยจะยื่นเรื่องทั้งในกัมพูชาและออสเตรเลีย
นายฮุน โท ลูกชายของนายฮุน เนง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกัมปงจาม
ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ของกัมพูชา ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการค้าเฮโรอีน และการฟอกเงิน ดิเอจกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว
ด้านนายเขียว โสพีก โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาประสานงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียมาโดยตลอด และทางการกัมพูชาไม่เคยได้รับรายงานที่กล่าวหานายฮุน โท ดังที่เป็นข่าว
ก่อนหน้านี้ ดิเอจอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของออสเตรเลีย (เอซีซี) ทีเผยว่า
นายฮุน โท หลานชายผู้ทรงอิทธิพลของนายฮุนเซน ซึ่งมีภรรยาและลูกอาศัยอยู่ที่นครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดที่ลักลอบส่งเฮโรอีนจากกัมพูชามายังออสเตรเลีย โดยซุกซ่อนมากับสินค้าประเภทไม้ซุง และยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน ทางการออสเตรเลียพยายามเรียกตัวนายฮุน โท มาสอบสวนระหว่างปี 2545-2547 แต่ตำรวจไม่สามารถจับกุมหรือสอบสวนนายฮุน โทได้ เนื่องจากสถานทูตออสเตรเลียในกรุงพนมเปญไม่อนุมัติหนังสือเข้าประเทศหรือวีซ่าให้นายฮุน โทด้วยเหตุผลทางการทูต โดยบุคคลเดียวที่ถูกจับในคดีนี้คือนายเพนนี ไท ชาวกัมพูชาที่มีกิจการในออสเตรเลียและช่วยลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากกัมพูชา
เมื่อปี 2554 ออสเตรเลียขึ้นบัญชีกัมพูชาและเวียดนามในฐานะประเทศที่เป็นศูนย์กลางขบวนการลักลอบขนเฮโรอีนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายังออสเตรเลีย โดยกล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศเกี่ยวข้อง