วันที่ 22 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสล้อมจับนายโมฮาหมัด เมราห์ หนุ่มเชื้อสายแอลจีเรีย สมาชิกเครือข่ายอัล ไคด้า อายุ 23 ปี
ที่แฟลตในเมืองตูลูส ทางใต้ของประเทศนานร่วม 30 ชั่วโมง สิ้นสุดลงหลังเหตุการณ์ตึงเครียดดำเนินนานข้ามวันข้ามคืนมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 21 มี.ค. และดวลอาวุธกันเป็นระยะกระทั่งผู้ต้องหาคดีสังหารโหด 7 ศพ โผล่พรวดออกจากห้องน้ำในห้องพักและสาดกระสุนปืนในมือสองกระบอกใส่ตำรวจที่ล้อมจับ ก่อนกระโจนออกจากหน้าต่างแฟลต ขณะถือปืนอยู่ในมือ ก่อนตกลงมาจบชีวิตบนพื้นถนน ฝ่ายตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย และยิงกระสุนต่อสู้กันราว 300 นัด
นายโคล้ด เกออองต์ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เผยว่า
ภารกิจสิ้นสุดลงหลังตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ในห้องพักของนายเมราห์ เหลือไว้แต่ห้องน้ำ กระทั่งนายเมราห์โผล่พรวดออกมาและกราดกระสุนใส่ตำรวจอย่างดุเดือด ซึ่งเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัว จากนั้นนายเมราห์กระโดดออกจากหน้าต่างแฟลต โดยยังยิงปืนอย่างต่อเนื่องก่อนตกลงมาเสียชีวิตและจากการตรวจสอบพบว่านายเมราห์มีปืนไรเฟิล ปืนกลเบาและปืนพก
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตั้งใจจับเป็นคนร้าย และไม่ได้บุกเข้าไปทันที เนื่องจากผู้ต้องหามีกระเป๋าสะพายหลังที่ไม่รู้ว่าด้านในบรรจุอะไร
เบื้องต้นใช้วิธีตัดน้ำตัดไฟ จากนั้นฝ่ายตำรวจโยนระเบิดเข้าใส่กดดันให้มอบตัว ทำให้กระจกหน้าต่างแตกกระจาย และในช่วงเวลาเที่ยงวันของวันพฤหัสฯ ตำรวจจึงเริ่มเคลื่อนกำลังเข้าไปประชิดอพาร์ตเมนต์ คนร้ายจึงยิงดวลต่อสู้
ด้านนายฟรังซัวส์ โมแลงส์ อัยการดูแลด้านต่อต้านก่อการร้ายเผยว่า นายเมราห์เผยกับเจ้าหน้าที่ก่อนขาดการติดต่อว่า
อยากตายโดยมีอาวุธในมือ และยังโอ้อวดกับทีมเจรจาว่าเคยฝึกในค่ายของอัล ไคด้า ที่ชายแดนอัฟกานิสถาน-ปากีสถาน โดยระบุว่า ไม่มีอะไรน่าเสียใจเท่ากับการไม่มีเวลาพอสังหารเหยื่อให้มากกว่านี้ โดยตนจะทำหน้าที่แก้แค้นให้ชาวปาเลสไตน์ เพื่อตอบโต้การที่ฝรั่งเศสส่งกำลังไปร่วมรบในอัฟกานิสถาน รวมถึงการที่ฝรั่งเศสมีกฎหมายห้ามสตรีมุสลิมสวมฮิญาบ และว่าภูมิใจที่ทำให้ฝรั่งเศสคุกเข่าศิโรราบได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
