สลดนักข่าว-ช่างภาพสังเวยสมรภูมิซีเรีย

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียว่า

การกระหน่ำโจมตีครั้งล่าสุดของกองทัพซีเรียที่เมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ศพ โดยมีผู้สื่อข่าวจากชาติตะวันตกรวมอยู่ในนั้นด้วย คือ นาง มารี โคลวิน ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวอเมริกันของหนังสือพิมพ์อังกฤษ ซันเดย์ ไทมส์ และ นาย เรมี่ ออชลิค ช่างภาพอิสระชาวฝรั่งเศส

นานาชาติได้ออกแถลงการณ์ประณามซีเรียต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรุนแรง

โดยนางวิคทอเรีย นูแลนด์ โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างมาก และเป็นการแสดงถึงความอำมหิตอันไร้ยางอายของรัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของ ประธานาธิบดี บาร์ชาร์ อัล-อัสซาด

ส่วนประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แถลงว่า

การสังหารผู้สื่อข่าวต่างชาติแสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีอัสซาดต้องการดำรงตำแหน่งต่อไป ขณะที่นายวิลเลียม เฮก รมว.ต่างประเทศของอังกฤษ ได้เรียกเอกอัครราชทูตซีเรียประจำกรุงลอนดอนเข้าพบเป็นการด่วน เพื่อขอคำชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย โดยสั่งห้ามเครื่องบินขนส่งสินค้าของซีเรีย บินผ่านน่านฟ้าของประเทศสหภาพยุโรปทุกประเทศ รวมถึงระงับการซื้อขายทองคำกับธนาคารกลางซีเรีย

เหตุการณ์ปะทะรุนแรงที่เมืองฮอมส์ ดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 19 แล้ว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นถึง 7,636 ศพ
 
โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน กาชาดสากล ( ไอซีอาร์ซี ) จึงเรียกร้องขอให้มีการพักรบในแต่ละวันเป็นเวลาสองชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังพื้นที่สู้รบได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยนางวาเลอรี เอมอส ผู้อำนวยการโครงการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้แถลงขอให้ทางการซีเรียยินยอมให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์จากนานาชาติเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้