เมื่อ 3 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ชาวฮ่องกงพากันหวาดหวั่นต่อภัยโรคระบาดอีกครั้ง หลังเชื้อไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ เพิ่งทำให้ผู้ติดเชื้อชาวจีนเสียชีวิต 1 ราย
จนต้องประกาศฆ่าไก่นับแสนตัวเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ล่าสุด สาธารณสุขฮ่องกงเข้าตรวจสอบอาคารที่ทำการรัฐบาลแห่งใหม่ หลังพบนายไมเคิล ฉวน ผู้บริหารสำนักงานการศึกษาฮ่องกง ล้มป่วยด้วย 'โรคลีเจียนแนร์' เมื่อเดือนธ.ค. และจากการตรวจตัวอย่างน้ำจากห้องอาบน้ำในตึกใหม่แห่งนี้ โดยตัวอย่างที่เก็บได้ ยังรวมไปถึงห้องทำงานของนายโดนัลด์ เจิ้ง ผู้บริหารสูงสุดเกาะฮ่องกง พบว่าผลการทดสอบพบเชื้อแบคทีเรีย 'ลิจิโอเนลลา นิวโมฟิลา' (Legionella pneumophila) สาเเหตุของโรคลีเจียนแนร์สูงเกินกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 14 เท่า โดยจุดที่มีปัญหายังรวมถึงก๊อกน้ำภายในห้องครัวของห้องอาหารพนักงาน และห้องอาหารภายในอาคารสำนักงานคณะกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายนิติบัญญัติด้วย
อย่างไรก็ดี นายแพทย์โธมัส เจิ้ง ผู้ตรวจการจากสำนักควบคุมโรคติดต่อเผยว่า
ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากอาคารดังกล่าว ซึ่งอาคารที่ทำการรัฐบาลแห่งใหม่นี้ มีมูลค่าการก่อสร้างถึง 5,500 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 22,000 ล้านบาท เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ด้านสาธารณสุขฮ่องกง ประกาศว่าเร่งฆ่าเชื้อทั่วตัวอาคารดังกล่าวแล้ว
สำหรับโรคติดเชื้อลีเจียนแนร์ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียเฉียบพลันจากสิ่งแวดล้อม โดยเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เติบโตได้ดีในน้ำอุ่น
ส่วนอาการเบื้องต้นของโรคมีสองลักษณะ คือหากมีภาวะปอดอักเสบ อาการรุนแรง และอัตราป่วยตายสูง และอีกแบบไม่มีภาวะปอดอักเสบ อาการไม่รุนแรง เรียกว่า โรคไข้ปอนเตียก (Pontiac fever) วิธีการแพร่โรคโดยเชื้อเข้าสู่ร่างกายคนทางระบบทางเดินหายใจ โดยคนหายใจเอาเชื้อนี้เข้าไป ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปี ก็พบเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกันนี้ในเพลย์บอย แมนชั่น ในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐ หลังจากมีคนที่เข้าร่วมกิจกรรมระดมทุนหลายสิบคนล้มป่วย