เจอปมน่าสงสัย? ปืนโหดฆ่าหมู่มะกันโอนเงิน 3 ล้านไปฟิลิปปินส์

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. เอพีและเว็บไซต์เดลีเมล์รายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีนายสตีเฟน แพ็ดด็อก ชาวอเมริกัน อายุ 64 ปี ผู้ยิงกราดใส่ฝูงชนดูคอนเสิร์ต ที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา สังหารเหยื่อ 59 ราย บาดเจ็บกว่า 527 คน ว่าตำรวจพบปมที่น่าสงสัยกรณีนายแพ็ดด็อกได้ส่งเงินทางโทรเลข 100,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.3 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารในประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนก่อเหตุ 1 สัปดาห์ อีกทั้งยังเตรียมการสำหรับสังหารหมู่ ด้วยการติดตั้งกล้องหลายจุดในโรงแรมที่พัก ซึ่งส่องปืนสาดกระสุนลงมา

ขณะเดียวกัน หน่วยสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัว นางแมริลู แดนลีย์ อายุ 62 ปี แฟนหญิงของมือปืน ที่เดินทางจากฟิลิปปินส์ กลับสหรัฐ มาให้ปากคำสำหรับการคลี่คลายคดีนี้ รวมถึงประเด็นเรื่องเงิน ที่แม้เจ้าหน้าที่ไม่ระบุว่า มือปืนโอนเข้าบัญชีใครในฟิลิปปินส์ แต่เชื่อว่าอาจเชื่อมโยงกับนางแดนลีย์

นางแดนลีย์เป็นชาวฟิลิปปินส์ ได้สัญชาติออสเตรเลีย ย้ายมาอยู่สหรัฐกับสามีคนแรกนานเกินกว่า 20 ปีก่อน เมื่อสามีคนแรกตายจึงแต่งงานกับนายเกียรี แดนลีย์ ชาวอาร์คันซอ และอยู่ด้วยกัน 22 ปีก่อนแยกทางในเดือนเมษายน 2556 เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีภาพในเฟซบุ๊ก ว่านายแพ็ดด็อกไปเยี่ยมบ้านของนางแดนลีย์ ที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ขณะทำกับข้าวกันอยู่ในครอบครัว

ด้านดิ อินดีเพนเดนต์ รายงานข้อมูลที่มีจุดเชื่อมโยงกับนายแพ็ดด็อก ว่าพ่อของมือปืนโหดรายนี้ ชื่อนายเบนจามิน ฮอสกินส์ แพ็ดด็อก บุคคลที่มีชื่อในบัญชีที่เอฟบีไอต้องการล่าตัวมากที่สุด และถูกระบุว่าเป็นอาชญากรมืออาชีพ เป็นอันตรายและโรคจิต เคยก่ออาชญากรรมในนครลาสเวกัสมาก่อน

นายเบนจามินปล้นธนาคาร ใช้ความรุนแรง ในปี 2503 ถูกตั้งข้อหาขโมยเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 830,000 บาทจาก 3 ธนาคารต่างๆ กันในรัฐแอริโซนา สองวันต่อมาที่นครลาสเวกัส นายเบนจามินปะทะกับตำรวที่พยายามจะจับกุมตัว และขับรถตนเองพุ่งใส่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แต่ถูกจับในที่สุด