พ่อบังคับลูกสาววัย 15 ปี เรียนโรงเรียนที่ตนเลือก เปิดเทอมได้ 5 วัน ก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจขึ้น!!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่นิวไทเป ประเทศไต้หวัน เวลา 7 โมงเช้าของอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี กระโดดตึกจากตึกสูง 14 ชั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อแม่ของนักเรียนคนนี้ แม่ของเธอมาด้วยอาการมึนงง เพราะตอนเช้าแกบอกจะออกไปเรียนหนังสือ แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แทบไม่อยากจะเชื่อ พ่อแม่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลต่างก็อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก พ่อของนักเรียนกล่าวว่า "ลูกสาวเริ่มเก็บกด ไม่เล่น ไม่พูดคุยกับใคร ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนแห่งใหม่ใกล้บ้านได้ไม่เพียงแค่ 5 วัน ลูกเคยพูดว่ากลัวเรียนสู้เพื่อนๆให้ห้องไม่ได้ แต่ไม่นึกว่าจะเครียดหนักถึงขั้นฆ่าตัวตาย"

วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจารจรคนหนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงสี่แยกใกล้ตึกที่เกิดเหตุอยู่นั้น กล่าวว่า "เช้าวันนั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนแถวนั้นตะโกนเอะอะเสียงดัง มีคนหนึ่งวิ่งมาหาผมแล้วบอกว่า มีคนกระโดดตึก ไปดูหน่อยเร็ว ผมจึงรีบขี่มอเตอร์ไชค์ไปยังที่เกิดเหตุทันที (เส้นทางประมาณ 200 เมตร จากที่เกิดเหตุ) ผมรีบจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่ด้านหน้าเพื่อป้องกันรถมาชนร่างของนักเรียนคนที่กระโดดตึก เพราะช่วงเวลานี้รถเยอะมาก จากนั้นก็แจ้งรถพยาบาลฉุกเฉินทันที" เมื่อรถพยาบาลมาถึงเห็นร่างของเด็กนักเรียนกระดูกหักทั่วร่าง ไม่มีลมหายใจแล้ว จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายนักเรียนหญิงคนนี้ก็เสียชีวิตลง

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของตึกเพื่อทำการตรวจสอบสถานที่ก็พบ จดหมายลาตายและกุญแจบ้าน โดยเนื้อหาข้างในเขียนไว้ว่า "ไม่ต้องหาหนูอีก ร่างนี้ก็คือหนูเอง" เจ้าหน้าที่ตำรวจขอภาพกล้องวงจรปิดของตึกที่เกิดเหตุ จากนั้นก็นำตัวพ่อแม่ไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ

โดยพ่อแม่เล่าว่า เดิมทีลูกสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง ด้วยผลคะแนนของลูกอยู่ในขั้นใช้ได้ แต่เมื่อเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายแห่งใหม่ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พ่อแม่และพี่สาวคนโตเคยเรียน โรงเรียนนี้มีชื่อเสียงที่ดี แต่ลูกสาวสอบติดอีกที่หนึ่งและอยากเรียนที่นั้นมาก แต่พ่อแม่ปฏิเสธ จึงเป็นเหตุให้ลูกสาวเริ่มเครียดกลัวจะสู้เพื่อนในห้องไม่ได้ พ่อแม่บอกว่าที่ให้ย้ายมาเรียนที่นี่เพราะคิดว่าโรงเรียนนี้จะดีกับลูกมากกว่า มีอนาคต นี่คือเป้าหมายที่พ่อแม่ตั้งไว้ นี่ก็เพิ่งเปิดเรียนเทอมใหม่ได้เพียง 5 วันเท่านั้น ลูกก็สร้างความกดดันให้ตนเอง จนคิดไม่ออก ถึงขั้นกระโดดตึกอย่างที่เห็น

โดยแม่ของนักเรียนหญิงบอกว่าตอนเช้าลูกก็ตื่นนอนและรับประทานอาหารเป็นปกติ และบอกว่าจะออกไปเรียนแล้ว จากนั้นก็ออกจากบ้านไปเวลา 7 โมงเช้า จนกระทั่ง เวลา 7.40 น. ยามของตึกก็โทรเข้ามาแจ้งว่าลูกสาวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อไปดูว่าเป็นลูกสาวของตนเองจริงหรือไม่? เมื่อถึงโรงพยาบาลเห็นชุดนักเรียนที่ใส่ใจก็เริ่มสั่น เมื่อเห็นหน้าลูกยิ่งทำให้แม่และพ่อล้มทั้งยืน เสียใจอย่างที่สุด

เมื่อหวนคิดคำพูดที่ลูกเคยพูดว่า "มีชีวิตอยู่บนโลกนี้เหนื่อยมาก ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆเลย อยากเป็นเด็กเล็กตลอดไป ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย" แม่น้ำตาไหล โดยมีสามีคอยกุมมือปลอบใจอยู่ข้างๆ เมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำเสร็จ ลูกสาวคนโต (กำลังเรียนมหาวิทยาลัย)ก็มารับพ่อแม่กลับไป ทั้ง 3 เดินจูงมือกันอย่างแน่นเพื่อข้ามถนน แต่ขณะที่เดินออกจากประตูของสถานีตำรวจก็มีนักข่าวจำนวนมากมายื่นรอสัมภาษณ์พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่ตอบแม้แต่คำเดียว

จากแหล่งข่าวท้องถิ่นแจ้งว่า คุณพ่อและคุณแม่เปิดธุรกิจส่วนตัว ทั้งสองเรียนจบติดแพทย์ จึงตั้งความหวังกับลูกๆมาก เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งยังบอกอีกว่า เธอเคยบอกว่า "อิจฉาเพื่อนๆ ที่ได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ"