ช็อก !!! เตือน 23 ก.ย. 2560 วันสิ้นโลก!
เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า นายเดวิด มี้ด (David Meade) นักเลขศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้เขียนหนังสือ "Planet X - The 2017 Arrival " ได้ออกมาประกาศว่า ดาวเคราะห์นาดใหญ่ที่ชื่อ ดาวเคราะห์เอ็กซ์ (Planet X) หรือที่รู้จักในชื่อ ดาวนิบิรุ (Nibiru) จะพุ่งชนโลกในวันที่ 23 กันยายน 2560 มันจะทำให้เกิดภัยพิบัติอันตรายนานับประการขึ้นบนโลก ชนิดฟ้าถล่มดินทลาย ตั้งแต่ ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว และสึนามิ มันจะทำให้โลกถึงแก่กาลอวสาน และมวลมนุษยชาติจะดับสูญ
โดย เดวิด มี้ด ได้อัปโหลดวิดีโอชื่อ September 23, 2017: You Need to See This ลงบนเว็บไซต์ยูทูบ
เพื่อเตือนชาวโลกถึงหายนะที่กำลังจะมาถึง ซึ่งมันได้สร้างความตื่นตระหนกและพูดถึงกันไปต่าง ๆ นานา ถึงขั้นมีการทำเว็บไซต์เคาท์ดาวน์ นับถอยหลังวันสิ้นโลกอีกด้วย มี้ดอ้างว่าพระคัมภีร์ไบเบิลได้ทำนายเหตุการณ์วันสิ้นโลกที่จะเกิดขึ้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ เพิ่งเกิดขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็น สุริยุปราคาครั้งล่าสุด หรือ เฮอริเคนฮาวี ล้วนเป็นสัญญาณเตือนภัยพิบัติวันสิ้นโลก
โดยข้อความในไบเบิ้ลที่มี้ดนำมาอ้าง คือในส่วนของ (ลูกา21:25-26) ความว่า
"จะมีหมายสำคัญที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์ และที่ดวงดาวทั้งปวง และบนแผ่นดินก็จะมีความทุกข์ร้อนตามชาติต่าง ๆ ซึ่งมีความฉงนสนเท่ห์เพราะเสียงกึกก้องของทะเลและคลื่น มนุษย์จะสลบไสลไปเพราะความกลัว เนื่องจากสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ซึ่งจะบังเกิดในโลก เพราะว่าบรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้าน"
เดวิด มี้ด นักโหรศาสตร์เจ้าของทฤษฎีวันสิ้นโลก ผู้ประกาศว่าโลกจะวิบัติ ในวันที่ 23 กันยายน 2560
นอกจากนี้แล้ว มี้ดยังอ้างอิงข้อมูลจากในไบเบิ้ลในส่วนของ (วิวรณ์ 12:12) ซึ่งอธิบายเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ ระบุว่า
"มีหมายสำคัญยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือสตรีคนหนึ่งสวมดวงอาทิตย์เป็นเสื้อผ้า และมีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้าของนาง บนศีรษะของนางมีมงกุฎที่เป็นดาวสิบสองดวง สตรีนั้นมีครรภ์ และร้องด้วยความทรมานเพราะเจ็บครรภ์"
จากการตีความพระคัมภีร์บทดังกล่าวนั้น มี้ดเชื่อว่าสตรีที่กล่าวถึงคือราศีกันย์ (Virgo) และในวันที่ 23 กันยายน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ รวมทั้งดาวพฤหัสบดี จะโคจรมาหากัน ซึ่งจะเกิดขึ้นแบบนี้ทุก ๆ 12 ปี เป็นปรากฏการณ์หายาก เรียกกันว่า สิงโตแห่งเผ่ายูดาห์ (The Lion of the tribe of Judah) และมันเป็นปรากฏการณ์ที่เหล่านักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดต่าง ๆ เชื่อกันอย่างถวายหัว ในขณะที่ความเชื่อทั้งหลายอันมีการเชื่อมโยงไปสู่ดวงดาวนี้ ไม่เคยได้รับการยืนยันใด ๆ จากนิกายต่าง ๆ ในศาสนาคริสต์ ไม่ว่าจะเป็นคาทอลิก โปรแตสแตนท์ หรือแม้แต่ออร์โธดอกซ์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามี้ดจะยืนยันเป็นจริงเป็นจังถึงวันสิ้นโลกที่จะเกิดขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงทฤษฎีที่เขาเชื่อเท่านั้น ก่อนหน้านี้เขาเขียนหนังสือว่าดาวนิบิรุจะพุ่งชนโลกในเดือนตุลาคม แต่เขาก็เลื่อนวันให้เร็วขึ้น เป็นวันที่ 23 กันยายน เนื่องจากเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่าง เฮอริเคนฮาวี และสุริยุปราคา
ขณะที่ทฤษฎีเรื่องดาวนิบิรุ ก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงความเชื่อของคนบางกลุ่ม โดยก่อนหน้านี้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (NASA - National Aeronautics and Space Administration) ก็ได้ออกมาเปิดเผยหลายครั้งแล้วว่าดาวเคราะห์ที่ว่านั้นไม่มีอยู่จริง ถ้ามันมีดาวเคราะห์น้อยที่สามารถพุ่งชนโลกในเร็ว ๆ นี้แล้วละก็ ทีมนักดาราศาตร์และนักวิทยาศาสตร์คงตรวจพบมันตั้งแต่ 10 ปีที่ก่อน และป่านนี้มนุษย์บนโลกต้องสามารถมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่าแล้ว
"โครงการสำรวจพื้นที่มุมมองกว้างบนท้องฟ้าในย่านรังสีอินฟราเรดของนาซา (WISE - Wide-Field Infrared Survey Explorer) ทำการสำรวจวัตถุต่าง ๆ นับร้อย ๆ ที่โคจรอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งปรากฏว่า ไม่พบหลักฐาน ๆ ใด ๆ ที่สามารถบ่งชี้ได้เลยว่ามีดาวดังกล่าวอยู่ในระบบสุริยะ" องค์การนาซา กล่าว
ด้าน โจนาธาน ซาร์ฟารี นักเขียนของดิเอ็กซ์เพรส ก็ได้ออกมาบอกเช่นกันว่า มันเป็นเรื่องปกติ ที่เรื่องดาราศาสตร์จะถูกโยงไปเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อต่าง ๆ และควระระมัดระวังในความเชื่อพวกนี้
"จริง ๆ แล้วไม่มีตรงไหนในคัมภีร์ไบเบิลที่ระบุถึงวันที่ 23 กันยายน อย่างชัดเจน ดังนั้นคริสเตียนทุกท่านจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก กับความเชื่อที่อ่อนไหวโน้มน้าวใจเหล่านี้" โจนาธาน ซาร์ฟารี กล่าว
CR:::tnews.co.th